HomePR Newsบีเจซี เสริมแกร่งร้าน “โดนใจ” ผนึกกำลังพันธมิตรกว่า 30 บริษัท วางเป้ายกระดับโชห่วยไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ปักหมุดเปิดร้านโดนใจ 30,000 ร้านค้าทั่วไทย [PR]

บีเจซี เสริมแกร่งร้าน “โดนใจ” ผนึกกำลังพันธมิตรกว่า 30 บริษัท วางเป้ายกระดับโชห่วยไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ปักหมุดเปิดร้านโดนใจ 30,000 ร้านค้าทั่วไทย [PR]

แชร์ :

จากความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาร้านโชห่วยของไทยให้มีการระบบบริหารจัดการที่ดีและเติบโตไปได้ในระยะยาว บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี จึงได้เปิดตัวโมเดลธุรกิจ “ร้านโดนใจ” ในปี 2565 ที่ผ่านมาด้วยการพัฒนาระบบ POS เข้ามายกระดับร้านโชห่วยไทยให้มีระบบบริหารจัดการที่ดี ซึ่งล่าสุดยังคงเดินหน้าขยายผลอย่างต่อเนื่องโดยได้เปิดตัวพันธมิตรจากหลากหลายกลุ่มสินค้ากว่า 30 บริษัท เพื่อร่วมกันเสริมแกร่งให้ร้านโดนใจมีคู่ค้าทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้สามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างตรงใจ และที่สำคัญคือการสร้างการเติบโตไปด้วยกันทั้งอีโคซิสเท็ม โดยในปี 2566 นี้ บีเจซีเตรียมกางโรดแมพออนทัวร์ลงพื้นที่ทั่วไทย ประเดิมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคใต้ ในไตรมาสแรกของปี โดยวางเป้าเปิดร้านโดนใจที่ 8,000 ร้านค้า และเติบโตสู่ 30,000 ร้านค้า ภายในปี 2570

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี กล่าวว่า ร้านโดนใจหรือร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้รับความร่วมมือที่ดีจากทุกภาคส่วนและได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเจ้าของร้านโชห่วยในพื้นที่ต่างๆ โดยในขณะนี้มีร้านโชห่วยเข้าร่วมโมเดลธุรกิจร้านโดนใจแล้วกว่า 1,200 ร้านค้า ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าการนำระบบ POS หรือระบบขายหน้าร้าน การให้คำปรึกษาทางธุรกิจจากทีมผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเติมเต็มจะช่วยยกระดับและเสริมประสิทธิภาพในการขายสินค้าให้กับผู้ค้า เปลี่ยนโฉมร้านโชห่วยให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค มากไปกว่านั้นการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ยังสามารถนำไปขยายผลเพื่อวางแผนการตลาดในอนาคตให้สอดรับกับพื้นที่

“อย่างไรก็ดีนอกจากการพัฒนาโมเดลร้านค้าปลีกสมัยใหม่ด้วยระบบการบริหารจัดการที่ดี มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญคือการหาคู่ค้า วันนี้บีเจซีได้เดินหน้าเปิดตัวพันธมิตรกว่า 30 บริษัทเพื่อติดปีกเสริมแกร่งให้ร้านโดนใจมีสินค้าและผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายที่หลากหลายแบรนด์ ในราคาที่เหมาะสม อาทิ โค้ก แฟนต้า เนสกาแฟ ไฮยีน  บรีส ดาวน์นี่ นีเวีย แอทแทค เปา คอลเกต ไฟน์ไลน์ ดัชมิลล์  แลคตาซอย สิงห์ มาม่า ไวไว เบอร์ดี้ น้ำมันมรกต ข้าวเบญจรงค์ เด็กสมบูรณ์  เลย์ อิงอร ปินโต้ ข้าวตราแตงโม ซอสม้าบิน ขนมปูจ๋า ซีพี-เมจิ บีทาเก้น ขนมปังมิงโก้ และแหนมดอนเมือง เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวพันธมิตรในกลุ่มสถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) เพื่อต่อยอดในการสร้างทุนให้กับผู้ประกอบการที่สนใจที่จะเปิดร้านโดนใจในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าการเชื่อมโยงพันธมิตรที่หลากหลายจะเป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญให้ร้านโดนใจสามารถเติบโตไปได้อย่างยั่งยืนในอนาคต” นางฐาปณี กล่าวเสริม

นางฐาปณี กล่าวต่อไปว่า สำหรับเป้าหมายการยกระดับร้านโชห่วยเข้าร่วมในแพลตฟอร์มเครือข่ายร้านโดนใจในปี 2566 วางเป้าไว้ที่ 8,000 ร้านค้า โดยมีการประชาสัมพันธ์และเตรียมลงพื้นที่ผ่านโครงการโดนใจออนทัวร์ เพื่อสร้างการรับรู้และเสริมองค์ความรู้ให้กับร้านโชห่วยในพื้นที่ต่างๆ โดยในไตรมาสที่ 1 จะเริ่มจากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกและภาคกลางตามลำดับ เน้นในพื้นที่จังหวัดที่เป็นหัวเมือง อาทิ อุบลราชธานี ขอนแก่น ภูเก็ต และชลบุรี เป็นต้น ซึ่งจากข้อมูลร้านโชห่วยทั่วประเทศที่มีกว่า 400,000 ร้านค้า เรามองว่านี่คือโอกาสที่ร้านโชห่วยต่างๆ จะปรับโฉมการบริหารจัดการเพื่อยกระดับร้านค้าให้กลายเป็นที่ร้านที่โดนใจและถูกใจสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเท่าทัน ทั้งนี้เรามองว่าการเป็นหนึ่งฟันเฟืองในการพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานรากจะทำให้ร้านโชห่วยของไทยเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับสังคมและชุมชนด้วยความสมดุล

นางฐาปณี เสริมต่อไปว่า แพลตฟอร์มร้านโดนใจมีจุดเด่นที่ผู้ประกอบการร้านค้าโชห่วยสามารถเลือกลงทุนและสินค้าที่จำหน่ายได้เอง โดยไม่ต้องแบ่งผลกำไร ใช้งบลงทุนที่ไม่สูง ซึ่งรูปแบบของร้านแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ 1.บีเจซีจะใช้เครือข่ายของบิ๊กซีเป็นคนจำหน่ายสินค้าให้กับร้านค้าในชุมชน 2.นำเอาระบบ POS ที่พัฒนาขึ้นเข้าไปเสริมแกร่งธุรกิจให้กับร้านโชห่วย ทั้งนี้สำหรับการกระจายสินค้าร้านโดนใจจะใช้เครือข่ายสาขาของบิ๊กซีที่มีอยู่ทั่วประเทศเข้ามาเป็นเครือข่ายในการกระจายสินค้า ขณะที่การปรับปรุงร้านค้านั้นหากผู้ประกอบการต้องการปรับโฉมหรือตกแต่งให้ดูทันสมัยสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของงบประมาณที่ตัวเองเห็นสมควร

“เราเชื่อมั่นว่า ร้านโดนใจ จะเป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญให้กับการพัฒนาร้านโชห่วยในประเทศไทยให้สามารถเติบโตและขานรับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างหลากหลาย มากไปกว่านั้นการมีระบบบริหารจัดการที่ดีจะทำให้ร้านค้ารวมไปถึงผู้ประกอบการและลูกค้ามีความสะดวกสบาย ที่สำคัญจะทำให้ระบบนิเวศทางธุรกิจนับตั้งแต่ผู้ประกอบการ คู่ค้า และซัพพลายเออร์เจ้าของสินค้าที่เข้ามาร่วมอยู่ในอีโคซิสเท็มของโดนใจเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน โดยเป้าหมายระยาวต่อจากนี้วางเป้าเปิดร้านโดนใจให้เติบโตสู่ 30,000 ร้านค้า ภายในปี 2570 พร้อมกันนี้ยังพัฒนาโครงการโดนใจในเวียดนามด้วยการใช้ต้นแบบจากไทย ถือเป็นหนึ่งจุดหมายที่สำคัญในการนำสินค้าไทยไปขายยังภูมิภาคอาเซียน และสอดรับกับวิสัยทัศน์บีเจซีที่พร้อมเป็นผู้นำในตลาดโลกด้วยสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ” นางฐาปณี กล่าวสรุป


แชร์ :

You may also like