HomeBig Featured‘เอเชียทีค’ ดึง Disney ปั้น ‘รีเทล-เทนเม้นท์’ ริมแม่น้ำใหญ่สุด เดินหน้าขยายเฟส 2 ตึกสูง 100 ชั้น  

‘เอเชียทีค’ ดึง Disney ปั้น ‘รีเทล-เทนเม้นท์’ ริมแม่น้ำใหญ่สุด เดินหน้าขยายเฟส 2 ตึกสูง 100 ชั้น  

แชร์ :

นับจากเปิดโครงการ “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์” สถานที่ท่องเที่ยวและช้อปปิ้ง ทำเลทองริมแม่น้ำเจ้าพระยา เฟสแรกบนพื้นที่ 40 ไร่ ในปี 2555  ในโอกาสครบรอบ 10 ปี  AWC ได้ปรับโฉมใหม่ ให้กลายเป็นจุดหมายไลฟ์สไตล์และความบันเทิง ด้วยโมเดล Retail-tainment เติมพื้นที่ 3 แม่เหล็ก Attraction,  F&B และ Lifestyle Community ดึงผู้คนออกมากิน เที่ยว ช้อป พร้อมขยายเฟส 2 ทั้งพื้นที่รีเทลและตึกสูง 100 ชั้น 

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

การก้าวสู่ทศวรรษใหม่ของ “เอเชียทีค” กับตำแหน่งแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวด้านไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ปรับโฉมครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี แนวคิด All Day Everyday Happiness จากเดิมเป็นแหล่งท่องเที่ยว-ช้อปปิ้ง เปิดบริการ 16.00-24.00 น. ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2566 จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00-24.00 น.  

ดึงโชว์ Disney ปั้น ‘รีเทล-เทนเม้นท์’

คุณวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่าในการปรับโฉม เอเชียทีค ครั้งนี้ ใช้โมเดล Retail-tainment (Retail + Entertainment) พื้นที่ค้าปลีกที่เติมกิจกรรมความสนุกสนาน สร้างประสบการณ์ กิน เที่ยว ช้อป และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนทุกวัย

“วันนี้สิ่งที่จะดึงคนออกจากหน้าจอมือถือ หรือออกจากบ้านได้ ต้องเป็นกิจกรรมที่สร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตที่สนุกสนานตอบโจทย์แต่ละวัย”

AWC ได้ลงทุนกว่า 800 ล้านบาท สร้างแลนด์มาร์คใหม่ให้ “เอเชียทีค” เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านไลฟ์สไตล์และศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจรตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคน ด้วยการพัฒนาพื้นที่ 3 แม่เหล็กใหม่

1. Festival Village 

การสร้าง Attraction ดึงคนมาทำกิจกรรมบันเทิง โปรเจกต์แรกร่วมมือกับ Disney จัดแสดง Disney 100  Village ในโอกาส Disney อายุ 100 ปี เป็น Pop-Up Event (ไม่ใช่สวนสนุกดิสนีย์ที่มีเครื่องเล่น) โดยมีโชว์ 5 โซนคาแรกเตอร์ดัง ระยะเวลา 4 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมถึง 31 กรกฎาคม 2566

1. Star Wars เปิดให้ชมฟรีไม่เก็บค่าตั๋ว 

2. Frozen  เอ็กซิบิชั่นใหญ่พื้นที่ 2,000 ตารางเมตร

3. Pixar Putt  ธีมทอยสตอรี่ 

4. Marvel คาแรกเตอร์จากภาพยนตร์

5. Disney Princesses Garden โชว์คาแรกเตอร์เจ้าหญิงดิสนีย์ในสวน 

โดยโชว์ Frozen, Pixar, Marvel และ Disney Princesses เก็บค่าตั๋วเข้ารับชม ขายบัตรผ่านไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ในพื้นที่จะมีร้านขายของที่ระลึกจากดิสนีย์ด้วย หลังจากจบโปรเจกต์โชว์ 4 เดือน จะคุยกับดิสนีย์ และ Global Partner รายอื่นๆ ที่จะมีการจัดกิจกรรมในพื้นที่ เพื่อสร้าง Attraction ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ในโซน Festival Village ยังมี Attraction ไฮไลท์แลนด์มาร์คของเอเชียทีคอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น  Asiatique Sky ชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยความสูง 60 เมตร, Merry-Go-Round ม้าหมุน,  Mystery Mansion บ้านผีสิง, การแสดงคาลิปโซ่

2. Food & Beverage 

แหล่งรวมร้านอาหารอร่อยจากทั่วกรุงเทพฯ และสตรีทฟู้ดจากทั่วทุกภาคมารวมกันที่โกดัง 1 และ 2 โซนนี้มีการคัดเลือกผู้เช่าใหม่  เป็นร้านอาหารดัง มีผู้สนใจมาเสนอแล้วกว่า 200 ราย  โดยจะคัดเลือกเมนู ที่ได้รับความนิยมของคนไทยจากร้านดังทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นจุดหมายของสายกิน “เวลาคิดอะไรไม่ออก ก็ออกมากินอาหารเด็ดที่เอเชียทีค” โดยมีเป็นพื้นที่ Co-dining ไว้ให้บริการ

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารระดับพรีเมี่ยมมาตรฐานโรงแรมชั้นนำระดับโลก เช่น เรือสิริมหรรณพ ห้องอาหารเดอะคริสตัลล์กริลล์เฮาส์

จุดหมาย  Food & Beverage  ที่เอเชียทีค ชูจุดเด่นร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เรียงรายตามแนวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบนพื้นที่ยาวกว่า 300 เมตร ซึ่งเป็นทางเดินริมฝั่งแม่น้ำที่ยาวที่สุดในกรุงเทพฯ

ในโซนนี้  Big C จะมาเปิดบริการบนพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร ให้บริการสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต รวมทั้งขนมและของฝากยอดฮิตสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว

3. Lifestyle Market 

แหล่งไลฟ์สไตล์ แฮงค์เอาท์แห่งใหม่สำหรับครอบครัว ด้วยการร่วมมือกับบริษัท Mad Face และ Made by Legacy จัด Lifestyle Market ที่จะเป็น Community ของกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง กลุ่มที่ชอบตกแต่งบ้านและสวน และกลุ่มที่ชอบของวินเทจ

โดยกิจกรรมต่าง จะเปลี่ยนไปตามเทศกาลและฤดูกาลต่างๆ ทั้งงานดนตรี ช้อปปิ้ง ศิลปะ สินค้าวินเทจ รวมถึงสุขภาพและอาหารตลอดปี เพื่อให้เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกเจเนอเรชั่นในที่เดียว

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมความยั่งยืน เช่น ความร่วมมือกับบริษัท Miniwiz ติดตั้งเครื่อง Trashpresso จากอิตาลี โดยเครื่องนี้จะรีไซเคิลขยะพลาสติกให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มีมูลค่าเพิ่ม และสามารถใช้ประโยชน์ได้

รวมถึงการจัดสรรพื้นที่ที่ Heritage Lounge ในเอเชียทีค เพื่อให้ชุมชนสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ทำกิจกรรมการสร้างทักษะการเรียนรู้เรื่องศิลปะวัฒนธรรม รวมทั้งภูมิปัญญาของชุมชนต่างๆ ที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไป

การปรับโฉมใหม่เอเชียทีค ให้บริการแบบ All Day ด้วยโมเดล Retail-tainment in the park  เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมนี้  วางเป้าหมายเป็นเดสทิเนชั่นดึงลูกค้าคนไทย 50%  และต่างประเทศ 50% จากเดิมเป็นลูกค้าต่างประเทศ 90% 

วางเป้าหมายลูกค้าใช้บริการเพิ่มจากเดิมที่เปิดช่วงเย็นถึงค่ำ เป็นให้บริการตั้งแต่ 10.00 -24.00 น.  วันธรรมดาจาก 30,000 คน เป็น 60,000 คน และวันหยุด จาก 50,000 คน เป็น 80,000 คน

awc asiatique

awc asiatique 2

เดินหน้าเฟสใหม่ไฮไลต์ตึกสูง 100 ชั้น

ในการปรับโฉม เอเชียทีค ใหม่ ได้เตรียมขยายพื้นที่ด้านซ้ายของโครงการ (หันหน้าออกริมน้ำทางซ้าย) อีก 10 ไร่ ลงทุน 2,000 ล้านบาท เพื่อทำเป็น “รีเทล-เทนเม้นท์” เชื่อมต่อกับเอเชียทีคเฟสแรก รวมทั้งสร้างที่จอดรถเพิ่มเติม

ส่วนพื้นที่ด้านขวาของโครงการ (เสาชิงช้า Asiatique Sky) เป็นโครงการเฟส 2 ระยะยาว สร้างตึกสูง 100 ชั้น ที่ออกแบบโดย Adrian Smith + Gordon Gill Architecture (AS+GG) บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมระดับนานาชาติ จากสหรัฐฯ ที่เชี่ยวชาญการทำตึกสูง กำลังปรับดีไซน์ให้มีความเป็นไทยและใช้พลังงานยั่งยืน เพื่อสร้างให้เป็นแลนด์มาร์คประเทศไทย

ตึกสูง 100 ชั้น เป็นกลุ่มธุรกิจ Hospitality ได้เซ็นสัญญากับ ริทซ์-คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ, ริทซ์-คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ เรสซิเดนซ์ (Branded Residence), เจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์, ออโตกราฟคอลเลกชั่น รวมทั้งมีพื้นที่รีเทลและอาคารสำนักงานคอนเซ็ปต์ใหม่ ที่จะอยู่บนทำเลทองริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ตามแผนเดิมระบุว่าจะลงทุน 30,000 ล้านบาท)

คุณวัลลภา เล่าว่า “ที่เคาะเป็นตัวเลขตึก 100 ชั้น ไม่ได้มองว่าต้องสูงสุด เพราะต่อไปก็อาจจะมีสูงกว่า แต่ต้องการสร้างให้เป็นแลนด์มาร์ค และการใช้พื้นที่ที่เหมาะสม เป็น Real Value ระยะยาว  เป็นตัวเลขที่มองว่าช่วยเสริมฮวงจุ้ยกรุงเทพฯ เดิมมีดูกันว่าจะ 60 หรือ 80 ชั้น  แต่เห็นว่า 100 ชั้น เป็นตัวเลขที่เสริมพลังให้กรุงเทพฯ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ประเทศไทย” 

ส่วนที่ดินแปลงริมถนนตรงข้ามเอเชียทีค อีก 28 ไร่ จะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสด้าน Wellness เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน  โดยเป็นแผนระยะยาวต่อจากตึกสูง 100 ชั้น ริมแม่น้ำ ที่อาจจะเริ่มในอีก 4-5 ปี เพื่อพัฒนาให้ย่านเอเชียทีคสมบูรณ์แบบ เป็นเดสทิเนชั่นระดับโลก

ส่วนที่ดินฝั่งแม่น้ำ ตรงข้ามเอเชียทีค ย่านเจริญนคร จะสร้าง Attraction เป็นเฟส 3 ที่เป็นแผนระยะยาว

อ่านเพิ่มเติม


แชร์ :

You may also like