สมาคมโฆษณาเอเชียแปซิฟิค เปิดตัวงานมหกรรม ADFEST 2023 ครั้งที่ 26 หลังจากไม่ได้จัดมา 3 ปีจากสถานการณ์โควิด 19 ปีนี้กลับมากับธีม “Rise” ปลุกทุกคนลุกขึ้นจากมุมที่มืดมิดของสถานการณ์โควิด สลัดความเครียด ความเหนื่อยล้าที่ได้พบเจอมาตลอดหลายปีนี้ ออกมาสู่แสงสว่างของพลังสร้างสรรค์ที่ไม่มีขีดจำกัดอีกครั้ง
คุณวินิจ สุรพงษ์ชัย นายกสมาคมโฆษณาเอเชียแปซิฟิกและประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรม ADFEST (แอดเฟส) กล่าวว่าปีนี้นับว่าเป็นปีที่พิเศษมากของแอดเฟส เพราะเป็นปีแรกที่ได้กลับมาจัดงานหลังจากที่ต้องเว้นไปนานถึง 3 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด
“เราเชื่อว่าทุกคนผ่านช่วงเวลาที่รู้สึกเศร้าและเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เปรียบเหมือนอยู่ในมุมมืดตลอดเวลา แต่เราจะปล่อยให้ตัวเองอยู่ในความเศร้าหมองไปตลอดไม่ได้ เราต้องอยู่อย่างมีความหวังและลุกขึ้นสู้ นั่นจึงเป็นที่มาของธีมของแอดเฟสในปีนี้ที่มีชื่อว่า Rise ซึ่งก็คือการลุกออกจากมุมมืดมาสู่แสงสว่างและความสดใส ลุกขึ้นมาดำเนินชีวิตต่อไป”
สิ่งสำคัญที่จะปลุกทุกคนให้ลุกขึ้นได้ก็คือการมีทัศนคติที่ไม่ยอมแพ้และไม่หยุดคิดหาทางออก เพื่อให้ก้าวเดินต่อไปได้
ในกรณีของนักสร้างสรรค์ วิกฤติโควิดและเศรษฐกิจที่ทรุดตัวทั่วโลกทำให้ได้รับผลกระทบไม่น้อยไปกว่าคนอื่น และเป็นโจทย์ที่ทำให้ทุกคนต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อกลั่นความคิดที่ไม่เพียงแต่จะต้องเป็นไปในเชิงบวก คือมีความรับผิดชอบต่อผู้คนและโลกมากขึ้น แต่ยังจะต้องสามารถช่วยเหลือเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนอีกด้วย
คุณปรียากร ศังขวณิช ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ADFEST เป็นงานที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโฆษณาระดับภูมิภาค ปีนี้กรมฯ สนับสนุนผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมในการเจรจาธุรกิจ เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายในต่างประเทศ คาดหวังว่างานแอดเฟส จะก่อให้เกิดมูลค่าทางการค้าจากกิจกรรมที่กรมฯ ดำเนินการไม่ต่ำกว่า 85 ล้านบาท
ปัจจุบันรัฐบาลได้ผลักดันเศรษฐกิจ Soft Power ซึ่งกรมฯ ได้พัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถทำการค้าระหว่างประเทศและขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ ตั้งเป้าว่ากิจกรรมต่างๆ ที่สนับสนุนจะทำให้เกิดมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท เพราะหลังจากโควิดคลี่คลาย ปีนี้ทั้งไทยและต่างประเทศ เริ่มกลับมาจัดงานด้านดิจิทัลคอนเทนต์ต่อเนื่อง
คุณปารเมศร์ รัชไชยบุญ ประธานคณะกรรมการดำเนินงาน และประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กล่าวว่าหลังจากทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด 3 ปี เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ผู้คนเริ่มโหยหาพลังความคิดสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่จะปลุกตัวเองให้ลุกขึ้นมาสู้ และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม แวดวงโฆษณา และภาคประชาชน
“ปีนี้ถือเป็นปีทองที่เต็มไปด้วยความหมาย เหมือนแสงสว่างวันใหม่ จึงเป็นที่มาของธีม RISE ในงานแอดเฟส ที่ต้องการให้คนในวงการโฆษณาผนึกกำลังเพื่อเป็นเชื้อไฟตั้งต้นให้พาร์ทเนอร์ แบรนด์ องค์กร และทุกภาคอุตสาหกรรม ลุกขึ้นมาปลุกพลังไอเดียสร้างสรรค์อีกครั้ง”
เมื่อโลกอุตสาหกรรมและโลกธุรกิจลุกขึ้นมาขยับตัวครั้งใหญ่แล้ว ถือเป็นสัญญาณว่าเม็ดเงินโฆษณาและการตลาดจำนวนมหาศาลกำลังหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจทั้งไทยและภูมิภาคเอเชีย ที่จะส่งผลดีต่อวงการโฆษณาในปีนี้และปีต่อไป ทำให้ช่องทางการสื่อสารหลักอย่างสื่อดิจิทัลเติบโต
อย่างไรก็ดีเมื่อความต้องการของตลาดโฆษณาเพิ่มขึ้น การแข่งขันทางการตลาดก็สูงขึ้นด้วย ดังนั้นองค์กรธุรกิจโฆษณาที่จะอยู่รอดและสร้างความได้เปรียบ จะต้องใช้บิ๊กดาต้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างสรรค์ผลงาน ที่จะทำให้เข้าใจลูกค้าและเข้าถึงผู้บริโภค เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจเติบโตตามเป้าหมาย และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น
คุณวิลาวัณย์ สุรพงษ์ชัย ผู้อำนวยการจัดงาน ADFEST กล่าวว่า ADFEST ครั้งที่ 26 มีการประกวดโฆษณาทั้งสิ้น 20 ประเภท อีกทั้งยังมีเวที Symposium ที่เป็นเวทีที่ให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ ปีนี้มีวิทยากรมากประสบการณ์จากทั่วทุกมุมโลกมาบรรยายในประเด็นที่กำลังอยู่ในความสนใจกว่า 30 หัวข้อ ได้แก่
– เรื่องความยั่งยืน อาทิ Getting There Together Safely บรรยายโดย Umaporn Whittaker-Thompson และ Vu-Quan Nguyen-Masse จาก Vero 2023
– The Year of Travel…But At What Cost? บรรยายโดย Carly Stone & Anna Hewitt จาก Madam Film, Gabi Key จาก Green The Bid, Claire Wilkie จาก Limitless Broadcast และ Rob Payton จาก Arri VP Stage
– How Brand Green. Can We Solve The Consumption Conundrum? บรรยายโดย Paul Kemp-Rebertson จาก Contagious
– เรื่องของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความสร้างสรรค์ อาทิ How AI Impacts the Creative Industry บรรยายโดย Nicola Stefanovic จาก The Mill Shanghai หรือ Your Future In The Metaverse บรรยายโดย Emile Rademeyer จาก VANDAL
นอกจากนี้ ADFEST 2023 มีเวิร์คช้อปที่น่าสนใจ เช่น
– World Producers Summit ซึ่งจัดเพื่อให้เป็นเวทีของเหล่าโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์โฆษณาทั่วโลกที่มารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันประสบการณ์และไอเดีย Creativity for The Mobile-First Era ซึ่งเป็นเวิร์คช้อปสำหรับผู้ที่สนใจทำวีดิโอคอนเทนต์บนแพลตฟอร์ม TikTok
– Step into AR & Reels. Entertainment Isn’t What It Used To Be จัดโดย Meta ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานแอดเฟสสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้
ในงานยังจัดให้มีการมอบรางวัล Special Awards ซึ่งปีนี้มีทั้งสิ้น 8 รางวัล ได้แก่ Network of the Year, Agency of the Year, Independent Agency of the Year, Digital Agency of the Year, Media Agency of the Year, Production Company of the Year, Advertiser of the Year และรางวัลสุดท้ายซึ่งได้จัดให้มีขึ้นเป็นปีแรกคือ PR Agency Of The Year
ADFEST ถือเป็นงานระดับภูมิภาคที่จัดขึ้นโดยคนไทยและได้การสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนมาโดยตลอด ADFEST 2023 ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ อาทิ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB นั่นก็เพราะทุกหน่วยงานได้เล็งเห็นความสำคัญที่งานแอดเฟสมีต่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์และการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในประเทศและในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่าการจัดงานมหกรรมแอดเฟสเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของภูมิภาคอย่างแท้จริง
ปีนี้ ADFEST มีผลงานเข้าประกวดรวมทั้งสิ้น 1,699 ชิ้นงาน ใน 20 ประเภท และคาดว่าจะมีบุคลากรในสายความคิดสร้างสรรค์ สายการผลิตงานโฆษณาทุกแขนง และนักการตลาด ในภาคพื้นเอเซียแปซิฟิค และจากทั่วโลก มาร่วมงานกว่า 1,000 คน งานจะจัดขึ้นทั้งหมด 3 วัน ระหว่างวันที่ 23-25 มีนาคม 2566 ณ โรงแรมรอยัล คลิฟ โฮเท็ล กรุ๊ป เมืองพัทยาจังหวัดชลบุรี