ขอบคุณภาพจาก Wheel the world
Wheel the world แพลตฟอร์มสำหรับผู้ใช้วีลแชร์อาจกลายเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวที่น่าจับตาของผู้ประกอบการท่องเที่ยวยุคนี้อีกหนึ่งรายแล้วก็เป็นได้ เพราะล่าสุดทาง Wheel the world ได้มีการประกาศได้รับเงินลงทุนรอบใหม่ 6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 172 ล้านบาท โดยทางแพลตฟอร์มระบุว่า จะนำไปใช้จับมือกับพาร์ทเนอร์ในประเทศต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ทางแพลตฟอร์มมีกิจกรรม – สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้นั่งวีลแชร์เพิ่มขึ้น รวมถึงการท่องเที่ยวแบบกลุ่มด้วย
Alvaro Silberstein ซีอีโอของ Wheel the world บอกว่า กิจกรรมที่เพิ่มเข้ามาในแพลตฟอร์มมีตั้งแต่ การพายเรือคายัค – ดำน้ำ – โดดร่ม นอกจากนี้เขายังนำเงินลงทุนรอบนี้ไปพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การจองสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้นั่งวีลแชร์แบบเป็นกลุ่ม ซึ่งอาจเที่ยวด้วยกันได้มากถึง 8 – 10 คนเลยด้วย
Silberstein เผยด้วยว่า เขามีแผนปรับรูปแบบแพลตฟอร์มจากเดิมที่เน้นสถานที่ท่องเที่ยว เป็น “การสร้างคอมมูนิตี้” ให้คนนั่งวีลแชร์ได้ทำความรู้จักกัน และเดินทางท่องเที่ยวร่วมกันมากขึ้นด้วย โดยนักลงทุนที่สนับสนุนในรอบนี้มีตั้งแต่ Kayak Ventures, Detroit Venture Partners, REI Co-op Path Ahead Ventures, Dadneo, CLIN Fund, Amarena, WeBoost และอดีตซีอีโอของ Booking.com อย่าง Gillian Tans
ยอดจอง – ที่เที่ยว เติบโต 4 เท่าในหนึ่งปี
ขอบคุณภาพจาก Wheel the world
ปัจจุบัน 79% ของผู้ใช้งาน Wheel the world เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา และสถิติที่น่าสนใจของทางแพลตฟอร์มก็คือ มีการเติบโตด้านยอดการจองมากถึง 4 เท่าในปี 2021 และ 40% ของลูกค้าก็คือคนที่เคยจองแล้วกลับมาจองซ้ำอีก
นอกจากนั้น ในแง่ของจุดหมายปลายทางก็เพิ่มขึ้น 4 เท่าเช่นกัน โดยในปี 2021 ทาง Wheel the World เคยมีแพกเกจท่องเที่ยวใน 50 หมุดหมายทั่วโลก ส่วนปัจจุบัน พวกเขามีจุดหมายปลายทางให้เลือกแล้วกว่า 200 แห่ง เช่น ประเทศแทนซาเนีย, กรีซ, ชิลี, ฟิจิ, อิตาลี, เม็กซิโก, สเปน, ตุรกี, นามิเบีย, ฮังการี, เนเธอร์แลนด์, กาตาร์, สหรัฐอเมริกา, เยอรมนี ฯลฯ รวมถึงมีการจับมือกับแพลตฟอร์มอย่าง Booking.com, Expedia และ Travelocity มาช่วยนำเสนอห้องพักที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มคนนั่งวีลแชร์ ผู้สูงอายุ และลูกค้ากลุ่มครอบครัวพ่อแม่ลูกด้วย (ทางแพลตฟอร์มระบุว่ายินดีคืนเงินหากพบว่าประสบการณ์ที่ได้รับจากห้องพักไม่ตรงตามที่ระบุไว้)
ทั้งนี้ Silberstein ระบุว่า ภายในปี 2024 พวกเขาตั้งเป้าอยากให้มีการจองผ่านระบบทะลุ 12,000 ครั้ง