ประเทศไทย นอกจากขึ้นชื่อด้านวัฒนธรรม อาหารการกิน ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติปีละหลายล้านคนแล้ว ตลาดท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) เป็นกลุ่มที่มีการอัตราเติบโตสูง และถือเป็นโอกาสใหม่ หรือ New S-Curve ของเศรษฐกิจไทย ที่คาดว่าในปี 2023 จะมีมูลค่าตลาดถึง 300,000 ล้านบาท และเป็นโอกาสของธุรกิจลบรอยสัก Dr.TATTOF เช่นเดียวกัน
นพ.นัทธพงศ์ จิรุระวงศ์ หรือ “หมอหนุ่ม” ประธานบริษัทและผู้ก่อตั้ง Dr.TATTOF แพทย์ผิวหนังและเลเซอร์ เล่าว่า ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคุณพ่อที่เป็นแพทย์ด้านผิวหนังท่านแรกของภาคตะวันออก หลังจากเรียนจบได้รับช่วงต่อกิจการคลินิกของคุณพ่อที่จังหวัดชลบุรีชื่อ “นิพนธ์ คลินิก” รักษาอาการและโรคที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง ระหว่างนั้นเรียนจบแพทย์เฉพาะทางทางด้านผิวหนัง และสนใจนวัตกรรมเลเซอร์เพื่อการรักษาทางการแพทย์ จึงได้ศึกษาแล้วนำเทคโนโลยีโปรแกรม PicoWay นวัตกรรมระดับ Picosecond ที่สามารถลบรอยสักให้หายไปได้ และมีหัวความยาวคลื่นแบบต่างๆ นำมาใช้ในการลบรอยสักเฉพาะสีได้ ที่สำคัญไม่ทิ้งรอยแผลเป็น เข้ามาใช้ในการรักษา ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีมากทำให้มีฐานลูกค้าอย่างหนาแน่น จึงเป็นที่มาของ Dr.TATTOF Clinic สาขาสีลมคอมเพล็กซ์ สาขาแรกในกรุงเทพฯ
เทคโนโลยีที่แตกต่างย้ำความเชื่อมั่น
Dr.TATTOF กับสโลแกนที่ว่า #ลบทุกรอยที่อยากลืม เพราะรอยสัก รอยแผลเป็น หรือรอยต่างๆเหล่านี้ ถ้าคนไข้มีแล้วเกิดความไม่มั่นใจ การที่ช่วยลบรอยเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง ส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิต และโอกาสในการประกอบอาชีพ สิ่งสำคัญในการให้บริการของ Dr.TATTOF คือการใช้เทคโนโลยีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ที่เรียกว่า “Program PicoWay” เป็นนวัตกรรมเลเซอร์ใหม่ล่าสุดจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ถูกวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ผิวหนังใช้เวลาค้นคว้าทดลองมากกว่า 20 ปี ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (US-FDA) และประเทศไทย (THAI-FDA)
หลักหัวใจสำคัญในการบริหารงาน 3 ข้อ
1. การทำ CQI (Continuous Quality Improvement) บริษัทจะได้มีการพัฒนาธุรกิจในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการแพทย์ การให้บริการ เพื่อพัฒนาคุณภาพในทุกกระบวนการให้ดีขึ้น
2. ยึดหลักจริยธรรมในการรักษาและการให้บริการ เห็นผล และปลอดภัย
3. Excellent Service Behavior มาตรฐานพฤติกรรมการให้บริการเป็นเลิศ ที่มีการทำ Learning and Development ของพนักงานอย่างต่อเนื่อง พนักงานทุกคนจะได้รับการอบรมต่อยอดแม้ว่าทุกคนจะเก่งอยู่แล้วก็ต้องเก่งขึ้นไปอีก มีการจัดอบรมทุกไตรมาสในการใช้เครื่องมือต่าง ๆ การดูแลลูกค้า และการตอบคำถามเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ
คุณพงศยา ตราชูนิตย์ ผู้บริหาร Dr.TATTOF Clinic กล่าวว่า ที่ผ่านมาจากสถานการณ์โควิดทำให้การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ซบเซา จากการที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ ปัจจุบันหลังรัฐบาลเปิดประเทศและวางกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) ธุรกิจความงามเชิงการแพทย์ จึงถือเป็น New S-Curve ใหม่ที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็น World’s Medical Hub ได้ ซึ่งจากข้อมูลของ Allied Market Research คาดการณ์ว่าตลาดการท่องเที่ยวทางการแพทย์ปี 2023 จะมีมูลค่าสูงถึง 3.1 แสนล้านบาท และอาจจะแตะไปถึง 7.6 แสนล้านบาทได้ในปี 2027
“Dr. TATTOF เป็นอีกหนึ่งฟันเฟือง เพราะเรามีการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือแม้กระทั่งคนไทยที่มีปัญหาในการลบรอยสัก รอยแผลเป็น ซึ่งถือเป็นเซกเมนต์ใหม่ในอุตสาหกรรมความงามที่มีการเติบโตสูง”
ก้าวสู่ผู้นำอันดับ 1 ของเอเชีย
ในวันนี้ครบรอบ 8 ปี กับ 10 สาขา ของการเป็นผู้นำในการรักษาด้วยนวัตกรรมเลเซอร์ ลบรอยสัก รอยแผลเป็น รอยดำคล้ำ รอยแตกลาย และรอยต่าง ๆ Dr.TATTOF คลินิกแรกในประเทศไทย ที่นำเทคโนโลยีเลเซอร์ทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานรับรองมีความทันสมัย และมีประสิทธิภาพระดับสากลเข้ามาให้บริการในทุกสาขา เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยต่อคนไข้ รวมถึงเป็นผู้นำอันดับ 1 ของทวีปเอเชียแปซิฟิก เพราะได้รับรางวัล Best Achieve Tattoo Removal Treatment Award in Asia รางวัลด้านการลบรอยสักที่ดีที่สุดจากบริษัท Candela Medical ผู้ผลิตเลเซอร์ทางการแพทย์
เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการว่า Dr.TATTOF คือ ผู้นำด้านเลเซอร์ลบรอยสักตัวจริง นอกจากนี้เป้าหมายต่อไปทางแบรนด์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพควบคู่ไปกับการบริการที่น่าประทับใจ พร้อมยกระดับมาตราฐานคุณภาพและบริการสู่ระดับสากล
Dr.TATTOF ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างน่าสนใจ เป็นเซกเมนต์ใหม่ของอุตสาหกรรมความงามด้านตลาดการท่องเที่ยวทางการแพทย์ที่มีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท และมีโอกาสก้าวเป็นผู้นำระดับเอเชียด้วยคุณภาพและการบริการที่แตกต่าง