HomeBrand Move !!Vespa พาทัวร์โรงงานเวียดนาม ชม “สกู๊ตเตอร์ไอคอนนิก” สัญชาติอิตาเลียน ที่ครองใจคนทั่วโลก

Vespa พาทัวร์โรงงานเวียดนาม ชม “สกู๊ตเตอร์ไอคอนนิก” สัญชาติอิตาเลียน ที่ครองใจคนทั่วโลก

กลยุทธ์​ เวสป้า “สกู๊ตเตอร์ไอคอนนิก” กับ โรงงานผลิตความสุขและความตื่นเต้น

แชร์ :

 

พาทัวร์โรงงานผลิตสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมสัญชาติอิตาเลียน กลุ่ม Piaggio Group ณ เมืองหวิงฟุก ประเทศเวียดนาม 1 ใน 12 ฐานการผลิตของ 3 แบรนด์ยอดนิยม ที่ครองใจคนทั่วโลก ได้แก่ แบรนด์เวสป้า Vespa  แบรนด์ Piaggio และแบรนด์ Aprilia เดินหน้ายกระดับประสบการณ์คนรุ่นใหม่ สะท้อนอารมณ์และคุณค่า (Emotions & Values) ที่มากกว่าการขับขี่

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

บริษัท วีพีพีดับเบิลยู ซัพพลายส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมชั้นนำ และ มอเตอร์ไซค์สัญชาติอิตาเลียนระดับตำนานจาก กลุ่ม Piaggio Group ได้แก่ Vespa, Piaggio, Aprilia และ Moto Guzzi ในประเทศไทย จัดกิจกรรมใหญ่ “Vespa’s factory visit in Vietnam” เยี่ยมชมฐานการผลิตรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ โรงงานผลิตVespa หรือ Piaggio Vietnam ณ เมืองหวิงฟุก ประเทศเวียดนาม ฮับการผลิตสกู๊ตเตอร์ของแบรนด์ Vespa แบรนด์ Piaggio และแบรนด์ Aprilia มาตรฐานระดับสากลที่ส่งออกไปจัดจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก

1 ในฐานการผลิต 3 แบรนด์ยอดนิยม

กลุ่ม Piaggio Group ซึ่งมีประวัติยาวนานมากว่า 130 ปี ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่เรียกตัวเองว่า เป็นมากกว่าผู้ผลิตยานยนต์ เพราะสิ่งสำคัญ คือ การออกแบบอารมณ์ความรู้สึกของการขับขี่ สะท้อนออกมาเป็นดีไซน์ในฉบับอิตาเลียน โดยแต่ละแบรนด์ภายใต้ Piaggio Group ไม่ว่าจะเป็น Vespa, Piaggio, Aprilia และ Moto Guzzi  ถือว่ามีดีเอ็นเอและคาแร็คเตอร์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน

ทั้งนี้ กลุ่ม Piaggio Group ได้เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนามเมื่อ 15 ปีที่ผ่าน มีโรงงาน 2 แห่ง ได้แก่ โรงงานผลิตยานพาหนะ และ โรงงานผลิตเครื่องยนต์ รวมถึงได้ก่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Center) ภายในโรงงาน เพื่อให้เวียดนามเป็นศูนย์กลางการผลิตยานพาหนะเพื่อจำหน่ายในตลาดเอเชียทั้งหมด

สำหรับ โรงงานผลิต Vespa หรือ Piaggio Vietnam ถือเป็น 1 ใน 12 โรงงานการผลิตของ Vespa ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดหวิงฟุก (Vinh Phuc) ประเทศเวียดนาม โดยเริ่มก่อตั้งโปรเจ็กต์ในปี ค.ศ. 2007 และเริ่มสร้างโรงงานในช่วงต้นปี ค.ศ. 2008 หากนับจนถึงตอนนี้ ก็ถือว่าเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี ที่โรงงานแห่งนี้ได้ผลิตผลงานมาสเตอร์พีซอย่าง Vespa, Aprilia และ Piaggio ไปแล้วหลายแสนคัน

ในส่วนของไลน์การผลิตจากโรงงานแห่งนี้ เน้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกู๊ตเตอร์ ประกอบด้วย 3 แบรนด์ ได้แก่ แบรนด์ Vespa แบรนด์ Piaggio และแบรนด์ Aprilia ประกอบด้วย สกู๊ตเตอร์รุ่นต่างๆ ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น

Vespa GTS ซึ่งถือเป็นกลุ่มท็อปของแบรนด์ ที่เริ่มผลิตตั้งแต่ ปี ค.ศ. 2004

Vespa LX และ Vespa S เริ่มเดินสายการผลิตในปี ค.ศ. 2009

Vespa Primavera และ Vespa Sprint เริ่มผลิตในปี ค.ศ. 2013

Piaggio Liberty เริ่มผลิตในปี ค.ศ. 2011

Piaggio Medley S เริ่มขึ้นสายการผลิตในปี ค.ศ. 2015

สกู๊ตเตอร์รุ่นล่าสุด Aprilia SR GT 200

ถือได้ว่าเป็นฮับการผลิตสำคัญของ Vespa, Aprilia และ Piagio ที่คงมาตรฐานการผลิตเช่นเดียวกันกับทุกโรงงานของ Vespa ที่กระจายตัวอยู่ในทั่วโลก เป็นโรงงานที่มีขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 265,000 ตารางเมตร ครอบคลุมการผลิตที่ครบวงจร พร้อมเทคโนโลยีและเครื่องจักรในการผลิตที่ทันสมัย อีกทั้ง ยังมีส่วนวิจัยและพัฒนา (R&D) สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค รวมถึงสนามทดสอบภายในโรงงานอีกด้วย

สร้างคุณค่า สะท้อนตัวตนคนรุ่นใหม่

 “มร.จิอานลูกา ฟิอูเม” (ตำแหน่ง) มองว่า ตลาดเอเชียอยู่ในช่วงการเคลื่อนไหวที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ชอบลองสิ่งใหม่ๆ และมีความต้องการยกระดับประสบการณ์ที่ไม่ใช่แค่การขับขี่ แต่ยังสะท้อนตัวตน สถานะทางสังคม และ “คุณค่า” (Values) ในการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์

“ดังนั้น ไลน์อัพผลิตภัณฑ์จึงมุ่งเน้นการสร้างความสุข ความสนุกสนาน และความประทับใจให้กับลูกค้า เพื่อให้รู้สึกว่าสิ่งที่ได้รับนั้น “เกิน” ความคาดหมาย ด้วยการลงทุนพัฒนาโซลูชันที่มีความทันสมัย และจากกลยุทธ์มุ่งสู่การสร้างความสุข ความสนุกสนาน และความตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจ ส่งผลให้ ผลประกอบการ 9 เดือนแรกประจำปี 2565 กลุ่ม Piaggio Group มีการเติบโตที่สูงเป็นประวัติการณ์จากยอดขายในตลาดเอเชีย”

เดินหน้ารถพลังงานไฟฟ้า

ทั้งนี้ เมื่อหลายสิบปีก่อน พิอาจิโอ ได้เริ่มคิดค้นและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า โดยเปิดตัวรถสองล้อไฮบริดคันแรกของโลก คือรุ่น MP3 Hybrid  ถัดมาได้ทำการเปิดตัวรุ่น E-liberty , E-bike และ Vespa Elettrica เมื่อ 4 ปีที่ผ่าน ซึ่งถือเป็นเส้นทางในการพัฒนาไปสู่การใช้เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า

ขณะเดียวกัน ในปี 2566 นี้ เตรียมเปิดตัวโซลูชัน Piaggio E-scooter ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมในการใช้พลังงานไฟฟ้ากับผลิตภัณฑ์ในระยะกลางและระยะยาว ตอบโจทย์เส้นทางสีเขียว ครอบคลุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไม่ว่าจะเป็นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบชาร์จพลังงาน และระบบขนส่งสาธารณะ เป็นต้น

 

 

 


แชร์ :

You may also like