ในหมู่นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสได้ไปเยือนไต้หวัน เชื่อว่าในจุดหมายปลายทางอาจอาจมี “ตู้ไปรษณีย์สีแดง – เขียว” ที่ตั้งอยู่ในท่าเอียงสองตู้นี้รวมอยู่ด้วยเป็นแน่ โดยทุกวันนี้ มันกลายเป็นที่รู้จักในฐานะตู้ไปรษณีย์ที่เรียกรอยยิ้มจากผู้คน แต่เบื้องหลังของการเอียงนั้น พบว่าไม่ได้มาจากการดัดงอโดยฝีมือมนุษย์แต่อย่างใด
สิ่งที่ทำให้ตู้ไปรษณีย์ทั้งสองตู้เอียงดังที่ปรากฏก็คือพายุไต้ฝุ่น Soudelor ที่พัดถล่มเกาะไต้หวันเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2015 หรือเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งความแรงของพายุได้ทำความเสียหายให้กับไต้หวันเป็นวงกว้าง
อย่างไรก็ดี อาจเพราะการติดตั้งที่แข็งแกร่ง และตัววัสดุที่แข็งแรง ที่ทำให้ตัวตู้ไปรษณีย์ทั้งสองก็ไม่หลุดกระเด็นออกไป โดยมันสามารถยืนหยัดสู้กับพายุได้อย่างสมศักดิ์ศรี
แน่นอนว่า เมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้นเรื่อย ๆ อาจมีหลายคนหลงลืมว่า ที่มาของความเอียงนี้เกิดจากอะไร ทางการไต้หวันจึงได้ทำป้ายให้ข้อมูลเอาไว้ด้านล่างด้วย โดยมีทั้งภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และภาษาญี่ปุ่น ใจความว่า
On August 8th, 2015, Typhoon Soudelor struck Taiwan. We were hit in the heads by a signboard as a result and couldn’t help but lean over from the pain. it was so painful in fact, we can’t stand up straight anymore. But we preserverd: we didn’t fall over after all. We have to take life as it comes and in a way, I think we look more artsy and sophisticated this way! Did we inspire you? Take a picture with us to remind yourselves that we are all survivors and can preserve no matter what.
แม้ว่าปัจจุบัน ความโด่งดังของตู้ไปรษณีย์ทั้งสองตู้นี้มาจากท่าเอียงของมันที่กลายเป็นตัวสร้างรอยยิ้มให้กับผู้พบเห็น แต่หากอ่านเนื้อหาที่ทางการไต้หวันระบุเอาไว้ร่วมด้วย ก็จะพบว่า ความเอียงที่เราหลายคนมองว่าน่ารักนั้น แท้จริงแล้วคือการยืนหยัดไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งที่เข้ามาปะทะ ถึงจะเจ็บปวดหรืออาจไม่ได้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม แต่การอยู่รอดมาได้ก็เป็นสิ่งที่มีคุณค่า และควรได้รับการยกย่องเช่นกัน ถือเป็นตัวอย่างการใช้ความ “เอียง” สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างความหวังให้กับผู้คน รวมถึงสร้างเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวของไต้หวันได้ดีทีเดียว
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand