Q-CHANG (คิวช่าง) ก้าวสู่สุดยอดแบรนด์ขวัญใจผู้บริโภค คว้า 2 รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ 2023 Thailand’s Most Admired Brand และ Innovation Brand Award ชูความเป็นผู้นำแพลตฟอร์มศูนย์รวมช่างคุณภาพและบริการ ดูแลบ้านครบวงจรที่ได้รับความนิยมสูงสุด ตอกย้ำความสำเร็จของ Nexter Incubator (เน็กซเตอร์ อินคิวเบเตอร์) ผู้เชี่ยวชาญในการบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพและนวัตกรรมในองค์กร (Corporate Innovation Incubator)
นายศรัณย์วิศว์ ภักดีนอก ผู้บริหารคิวช่าง (Head of Q-CHANG Business) เปิดเผยว่า ปีนี้คิวช่างก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ของการเป็นแพลตฟอร์มศูนย์รวมช่างคุณภาพและบริการดูแลบ้านครบวงจรที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยบริการที่ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ จากทีมช่างมืออาชีพกว่า 1,500 ทีม ตอบโจทย์เจ้าของบ้านด้วยงานดูแลบ้านครบวงจรกว่า 120 บริการ ปัจจุบันคิวช่างให้บริการลูกค้าแล้วกว่า 110,000 งาน ซึ่งในปีนี้ ทางคิวช่างได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจำนวน 2 รางวัลจากผลการสำรวจความน่าเชื่อถือด้านแบรนด์ของประเทศไทย โดย คิวช่าง เป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่ผู้บริโภคชื่นชอบมากที่สุด ทำให้ได้รับรางวัล 2023 Thailand’s Most Admired Brand ในหมวด ‘วัสดุก่อสร้าง’ กลุ่ม ‘แพลตฟอร์มศูนย์รวมช่าง’ และได้รับรางวัลพิเศษ Innovation Brand Award ในฐานะแบรนด์ที่มีนวัตกรรมด้านบริการเป็นเลิศ
คิวช่าง มีแนวคิดการดำเนินธุรกิจในปี 2019 ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิดที่สามารถนำพาธุรกิจให้เติบโตสวนกระแสจากวิกฤตเป็นโอกาส ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์เจ้าของบ้าน พร้อมกับการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เจ้าของบ้านมีความมั่นใจในการใช้บริการของคิวช่าง ในขณะที่ช่างก็มีความเชื่อมั่นในการเข้าไปให้บริการกับลูกค้า อาทิ ทางคิวช่างจัดหาวัคซีนโควิดมาฉีดให้กับช่างในเครือข่ายในช่วงแรกๆ ของการระบาด พร้อมมีมาตรฐานในการให้บริการโดยช่างที่จะเข้าไปทำงานที่บ้านลูกค้าจะต้องมีการตรวจ ATK ทุกครั้ง ทำให้เกิดการบอกเล่าแบบปากต่อปาก ส่งผลให้ยอดขายของคิวช่างในปี 2019 อยู่ที่ระดับ 6 ล้านบาท หลังจากนั้นคิวช่างมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยในปี 2022 ยอดขายของคิวช่างทะยานสู่ 250 ล้านบาท และปี 2023 ทางทีม ตั้งเป้ายอดขายที่ 600 ล้านบาท ทั้งนี้ กลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ธุรกิจของคิวช่างประสบความสำเร็จอย่างมากคือ
1. การสร้างแบรนด์ร่วมกับพันธมิตรที่เป็นแบรนด์ระดับโลก อาทิ เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ เพื่อให้แบรนด์ของคิวช่างมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจน และสามารถเข้าไปอยู่ในใจของเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น ในช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา คิวช่างได้เปิดตัวแคมเปญ “WE’VE GOT YOUR BACK FOREVER…เราจะไม่ปล่อยให้คุณต่อสู้กับงานบ้านเพียงลำพัง” โดยโหมกระแสพร้อมหนังฟอร์มยักษ์ Marvel Studios’ Black Panther: Wakanda Forever
2. การดูแลช่างให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อให้ช่างสามารถส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับเจ้าของบ้าน และถือเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไปพร้อมกัน
3. การขยายพื้นที่การให้บริการไปในหัวเมืองที่มีศักยภาพทั่วประเทศ ทำให้ในปัจจุบันคิวช่างมีบริการที่ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด
4. การลงทุนด้าน Customer Service เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการและรองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดด อาทิ การพัฒนาระบบ Q-CHANG Contact Center และในปีนี้คิวช่างมีแผนเปิด Q-CHANG Academy ขึ้นที่ Crystal Design Center (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) เพื่อเป็นศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาฝีมือช่าง รวมถึงคอยให้คำปรึกษากับทีมช่าง
5. การมีพันธมิตรทางธุรกิจที่เข้มแข็งทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อต่อยอดธุรกิจไปด้วยกัน
นอกจากนี้ เพื่อให้ธุรกิจของคิวช่างมีการเติบโตอย่างยั่งยืน คิวช่างให้ความสำคัญกับเรื่องการพัฒนา Innovation อย่างมาก ทั้ง Innovation ในเรื่อง Product and Service , Process และ New Business โดยการพัฒนา Innovation จะตั้งโจทย์จากความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก และใส่เรื่อง Speed เพื่อให้สามารถพัฒนา Innovation ออกมาตอบโจทย์ลูกค้าได้ทันเวลาและทันกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว Q-CHANG Shop Service หรือจุดให้บริการช่างภายในร้าน ตามแนวคิด ช่างดีใกล้บ้านคุณ ถือเป็น Business Innovation ล่าสุดที่คิวช่างที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นมา โดยการจับมือกับเครือข่ายร้านขายวัสดุก่อสร้างชั้นนำทั่วประเทศ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ไม่สะดวกจองใช้บริการและชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ ช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถเข้าถึงบริการช่างได้สะดวกขึ้นและสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องบ้านได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยคิวช่างตั้งเป้าขยายสาขา Q-CHANG Shop Service จาก 30 สาขา สู่ 100 สาขาภายในปี 2023 ทั้งนี้ คิวช่างมีแผนขยายตลาดสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ อินโดนีเซีย เวียดนาม อีกด้วย
นายศานิตย์ ภู่บุบผา ผู้อำนวยการ เน็กซเตอร์ อินคิวเบเตอร์ (Nexter Incubator Director) เปิดเผยว่า คิวช่าง ถือเป็นตัวอย่างของความสำเร็จในการบ่มเพาะธุรกิจและสร้างความภาคภูมิใจให้กับเน็กซเตอร์ อินคิวเบเตอร์ เป็นอย่างมาก เพราะคิวช่างเป็น Internal Start-up ที่มา Pitching Idea กับเน็กซเตอร์ อินคิวเบเตอร์ จากนั้นทางเราได้บ่มเพาะธุรกิจคิวช่างตาม Nexter Incubator Model ซึ่งเป็นองค์ความรู้ของเน็กซเตอร์ อินคิวเบเตอร์ พร้อมมี Mentor Team (ผู้เชี่ยวชาญในการบ่มเพาะธุรกิจ) คอยให้คำปรึกษากับทีมคิวช่างอย่างใกล้ชิด โดยใช้กระบวนการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบ Agile & Lean Start-up Process รวมถึงมีการทำ Business Health Check เป็นระยะ นอกจากนี้ เรายังมี People Team ที่คอยให้คำปรึกษาเรื่องการสรรหาพนักงานมาเสริมทีมคิวช่างให้ทันเวลา รวมถึงให้คำแนะนำเรื่องแนวทางการบริหารทีมงานของคิวช่างให้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คิวช่าง มีการขยายธุรกิจที่เร็วมาก ปัจจุบันคิวช่างมีทีมงานกว่า 200 คนแล้ว
ทั้งนี้ เน็กซเตอร์ อินคิวเบเตอร์ มี Central Support Team ที่ช่วยดูแลเรื่อง Back-End Operation เกี่ยวกับการซื้อขาย รวมถึงธุรกรรมของคิวช่างทั้งหมด เพราะเรามีระบบบริหารจัดการที่เป็น Sand Box เพื่อให้สตาร์ทอัพได้ทดลองทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ด้วยกระบวนการทำงานที่สั้นลงและคล่องตัว ซึ่งทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพของเน็กซเตอร์ อินคิวเบเตอร์ สามารถพัฒนาธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และมีต้นทุนในการดำเนินงานต่ำ นอกจากนี้ เรามี Marketing and Strategic Partner Team ที่ช่วยในการ Connect the dots เพื่อหาพันธมิตรมาต่อยอดธุรกิจและเสริมความแข็งแกร่งให้กับคิวช่างอีกด้วย ทีมที่สำคัญมากอีกทีมที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ Business Development Team ที่ช่วยในการวางแผนและดำเนินการจัดตั้งบริษัทให้กับคิวช่าง รวมถึงเป็นที่ปรึกษาในการระดมเงินทุนจากนักลงทุนเพื่อให้ธุรกิจคิวช่างสามารถเติบโตด้วยตัวเองได้อย่างมั่นคง
จะเห็นได้ว่า เน็กซเตอร์ อินคิวเบเตอร์ เป็นผู้เชี่ยวชาญในการบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพและนวัตกรรมในองค์กร (Corporate Innovation Incubator) ที่มีฟังก์ชั่นครบในการตอบโจทย์สำหรับการบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพและนวัตกรรมในองค์กรขนาดใหญ่ รวมถึงมีองค์ความรู้และประสบการณ์มากมายในการบ่มเพาะธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เน็กซเตอร์ อินคิวเบเตอร์ อยู่ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ซึ่งถูกตั้งขึ้นเพื่อบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพและนวัตกรรมเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศของธุรกิจ (Ecosystem) ตอบโจทย์ความต้องการเรื่องการทำบ้านในทุกช่วงเวลาชีวิตของลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจของเราเป็น Lifetime Home Partner ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยของคนไทยและคนในอาเซียนให้ดียิ่งขึ้น (Create Better Living)