“สุกี้ตี๋น้อย” ธุรกิจที่ก่อตั้งในปี 2562 โดย คุณเฟิร์น นัทธมน พิศาลกิจวนิช (เริ่มต้นธุรกิจในวัย 25 ปี) ใช้เวลา 4 ปี สร้างแบรนด์ “สุกี้ตี๋น้อย” ให้เป็นที่รู้จักในตลาดสุกี้ จากจุดขาย “ราคา” ที่ใครๆ ก็จับต้องได้ กับบุฟเฟ่ต์ราคา 199 บาท (ปัจจุบันราคา 219 บาท)
เปิดให้บริการด้วย “เวลาแตกต่าง” ช่วง 12.00 น. ถึง 5.00 น. เป็นความตั้งใจจับลูกค้ากลุ่มแมส ที่ไม่ได้ทำงาน 8.00 น. เลิกงาน 17.00 น. เท่านั้น เพราะมีคนอีกจำนวนมากทำงานเป็นกะ เลิกงานค่ำหรือดึก เพื่อให้หลากหลายอาชีพ มีเวลารับประทานที่สะดวก
“บรรยากาศร้าน” รูปแบบสแตนด์อโลน มีที่จอดรถจำนวนมาก การตกแต่งร้านเทียบได้กับร้านที่อยู่ในห้าง
ถือเป็นจุดขายแจ้งเกิด “สุกี้ตี๋น้อย” ธุรกิจที่สามารถสร้าง “กำไร” ได้ตั้งแต่ปีแรก ตามดูรายได้ 4 ปีแรก
– ปี 2562 รายได้ 499 ล้านบาท กำไรสุทธิ 15 ล้านบาท
– ปี 2563 รายได้ 1,223 ล้านบาท กำไรสุทธิ 140 ล้านบาท
– ปี 2564 รายได้ 1,572 ล้านบาท กำไรสุทธิ 147 ล้านบาท
– ปี 2565 รายได้ 3,976 ล้านบาท กำไรสุทธิ 591 ล้านบาท
“สุกี้ตี๋น้อย” ใช้เวลา 4 ปี สร้างรายได้จากเกือบ 500 ล้านบาท สู่กิจการที่มีรายได้เกือบ 4,000 ล้านบาท จากกำไร 15 ล้านบาท สู่กำไรเกือบ 600 ล้านบาท
เห็นได้ว่าปี 2565 รายได้ สุกี้ตี๋น้อย เติบโต 153% ส่วนกำไรเติบโต 300% เมื่อเทียบกับปี 2564
จากรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นกว่า 100% ในปี 2565 ช่วงต้นปีนี้ “สุกี้ตี๋น้อย” ได้ประกาศจ่ายโบนัส 2 เท่าของรายได้รวมต่อเดือน และแจกเงินขวัญถุงให้เป็นของขวัญวันปีใหม่ย้อนหลังให้พนักงานอีกคนละ 7,000 บาท กว่า 3,700 คน โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 55 ล้านบาท
“การเติบโตของสุกี้ตี๋น้อย พนักงานเป็นปัจจัยสำคัญในการขยายธุรกิจ เราอยู่ในธุรกิจการบริการ ดังนั้นต้องดูแลพนักงานเพื่อส่งต่อความสุขให้กับลูกค้า โดยมีแผนเพิ่มสวัสดิการต่างๆ ให้กับพนักงาน หน้าที่ของผู้บริหารไม่ใช่แค่ดูแลลูกค้า แต่ต้องดูแลพนักงานด้วยเช่นกัน” คุณนัทธมน พิศาลกิจวนิช ผู้ก่อตั้งสุกี้ตี๋น้อยและกรรมการผู้จัดการ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) ได้กล่าวไว้ในช่วงที่แจกโบนัสพนักงาน
ภาพจาก FB : sukiteenoithailand
การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ “สุกี้ตี๋น้อย” เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 บมจ.เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ JMART ได้เข้าไปถือหุ้นใน บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) เจ้าของธุรกิจร้านอาหารแบรนด์ “สุกี้ตี๋น้อย” จำนวน 352,941 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% มูลค่าลงทุน 1,200 ล้านบาท
ปัจจุบัน “สุกี้ตี๋น้อย” มี 46 สาขา ถือเป็นหนึ่งใน Key Driver สร้างกำไรให้ JMART ไตรมาสแรกปี 2566 สุกี้ตี๋น้อย สร้างส่วนแบ่งกำไรให้ JMART กว่า 60 ล้านบาท สิ้นปีนี้ตั้งเป้าหมายเปิดสุกี้ตี๋น้อยครบ 60 สาขา
เมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา สุกี้ตี๋น้อยได้เริ่มออกสู่ต่างจังหวัด โดยเปิดสาขาต่างจังหวัดแห่งแรก ที่จังหวัดอยุธยา สาขา Porto go บางปะอิน และในปีนี้มีแผนขยายสาขาต่างจังหวัดเพิ่มเติม เช่น สระบุรี และชลบุรี อีกด้วย
สุกี้ตี๋น้อย มีแผนจะยื่นไฟลิ่ง ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ปลายไตรมาส 3 หรือ ต้นไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อเสนอขายหุ้น IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ราวไตรมาส 2 หรือ 3 ปี 2567 ปัจจุบันได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินเรียบร้อยแล้ว
อ่านเพิ่มเติม
- ‘สุกี้ตี๋น้อย’ กิจการอายุ 4 ปี มูลค่า 4,000 ล้าน ของ ‘เฟิร์น นัทธมน’ กับความสำเร็จเกินคาด
- “สุกี้ตี๋น้อย” ทุ่มงบ 55 ล้านบาท แจกโบนัส 2 เท่าของเงินเดือน และ เงินขวัญถุงคนละ 7,000 บาท