HomeSponsoredPassion สู่ Action “อีฟ โรเช” ผนึก 3 พันธมิตรสาย Eco สร้างพฤติกรรมและแนวร่วมขับเคลื่อนโลกที่ยั่งยืน

Passion สู่ Action “อีฟ โรเช” ผนึก 3 พันธมิตรสาย Eco สร้างพฤติกรรมและแนวร่วมขับเคลื่อนโลกที่ยั่งยืน

แชร์ :

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถนนทุกสายในปัจจุบันกำลังมุ่งไปสู่เส้นทางของความยั่งยืน ทั้งจากกระแสกดดันของโลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงจากผลกระทบของสภาพอากาศ กฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ที่เข้มงวดมากขึ้น รวมทั้งความคาดหวังของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความต้องการให้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทำให้ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ต้องเร่งปรับตัวให้สอดคล้องกับระเบียบโลกใหม่และขับเคลื่อนการเติบโตให้เป็นไปตามทิศทางของการพัฒนาที่ยั่งยืน

ขณะที่แบรนด์ความงามอันดับ 1 จากประเทศฝรั่งเศสอย่าง อีฟ โรเช (Yves Rocher) ได้ขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่กับการดูแลผู้คนและธรรมชาติมาตั้งแต่วันแรกที่เริ่มก่อตั้ง เพราะมีความเชื่อว่าพืชพรรณธรรมชาติมีความสำคัญต่อการอยู่รอดของมนุษย์ในฐานะที่เป็นจุดเริ่มต้นของห่วงโซ่ จึงมุ่งมั่นที่จะทำให้ผู้คนมีความใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น จนกลายเป็น DNA ของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญต่อการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้ผู้คนและโลกอยู่เสมอ ผ่านทุก ๆ มิติในการขับเคลื่อนธุรกิจโดยตระหนักถึงการเข้าไปมีส่วนช่วยดูแลและปกป้องธรรมชาติเป็นระยะเวลามากว่า 64 ปีแล้ว

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

แบรนด์ที่เกิดมาพร้อมกับการขับเคลื่อนความยั่งยืน

นอกจาก DNA ในเรื่องของความยั่งยืนที่มีมาตั้งแต่วันแรกที่เริ่มก่อตั้งแล้ว อีฟ โรเช ยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนจาก Passion มาสู่การ Action เพื่อสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม​​ ภายใต้ความมุ่งมั่นของผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง คุณอีฟ โรเช ที่มีความรักและใกล้ชิดกับธรรมชาติ และเชื่อว่าธรรมชาติสามารถเยียวยาและปลอบประโลมผู้คนบนโลกได้ จึงพยายามเชื่อมโยงให้ผู้คนใกล้ชิดธรรมชาติและมีความเคารพต่อโลกใบนี้ ​ผ่านการค้นคว้าหาความรู้ และทดลองสรรพคุณของพืชพรรณต่าง ๆ เพื่อถ่ายทอดพลังจากธรรมชาติไปสู่ผู้บริโภค โดยมีสวนพฤกษศาสตร์ ที่หมู่บ้านลา กาซิลลี (La Gacilly) แคว้นบริตตานี ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นทั้งแหล่งความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพจากสารสกัดธรรมชาติเพื่อดูแลผิวพรรณและเส้นผม จนทำให้ อีฟ โรเช เป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์ความงามในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์อย่างแท้จริง

สวนพฤกษศาสตร์ของ อีฟ โรเช ยังเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ จากการปลูกพืชพรรณไว้มากกว่า 5,000 ชนิด บนพื้นที่กว่า 2 เฮกเตอร์​ ​พร้อมการดูแลพื้นที่ร่วมกับเกษตรกรในท้องถิ่นตามแนวทางการทำเกษตรเชิงนิเวศ เพื่อดูแลทั้งพืชพรรณภายในสวนไปจนถึงการดูแลระบบนิเวศโดยรอบ ทั้งคุณภาพดิน น้ำ อากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ ผู้คนในชุมชน รวมไปถึงความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์ต่าง ๆ ทำให้แบรนด์ อีฟ โรเช ได้รับการรับรองจาก UEBT (Union for Ethical Biotrade) ในฐานะแบรนด์ที่มีการจัดหาวัตถุดิบจากความหลากหลายทางชีวภาพอย่างมีจริยธรรม

ซึ่งไม่ใช่เแค่เพียงต้นทางของการได้มาซึ่งวัตถุดิบเท่านั้น แต่ อีฟ โรเช ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมทางด้านผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์​ที่สามารถลดผลกระทบต่อโลกได้ โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงการนำพลาสติกใช้ครั้งเดียว​ (Single-use Plastic) มาใช้ เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติกไปสู่หลุมฝังกลบและอาจหลุดรอดไปสู่ธรรมชาติได้ เช่น การพัฒนา แชมพูแบบก้อน (Solid Shampoo Bar) ในกลุ่ม Green Hero Product ​ซึ่งลดปริมาณการใช้น้ำในกระบวนการผลิต แต่ยังรักษาคุณสมบัติของการบำรุงผมไว้ได้เช่นเดียวกับแชมพูทั่วไป และยังมาพร้อมบรรจุภัณฑ์กระดาษรีไซเคิลที่สามารถย่อยสลายได้ 100% ทำให้ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม หรือผลิตภัณฑ์ Family Bio ​จากแอปเปิ้ลออร์แกนิก​ ซึ่งนำส่วนที่เหลือจากการผลิตแอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกามาผ่านการอัพไซเคิล ไม่ว่าจะเป็นเปลือก เนื้อ และเมล็ดเพื่อสกัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยส่วนผสมที่ดีต่อผิว ทำให้ได้ทั้งผลิตภัณฑ์บำรุงผิวคุณภาพดีและไม่ทำให้เกิดขยะเหลือทิ้งด้วย

ขณะที่แนวคิดในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดของอีฟ โรเช ก็ได้ออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอดเช่นกัน ​โดยคำนึงถึง 3 ปัจจัยหลัก คือ การลด การใช้ซ้ำ และการรีไซเคิล เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า หลีกเลี่ยงการนำวัสดุแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งมาผลิต แต่เลือกใช้วัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้หรือผ่านการรีไซเคิลมาแล้ว ทำให้อีฟ โรเช สามารถสร้างความแตกต่าง​ โดยใช้นวัตกรรมและความยั่งยืนเป็นตัวขับเคลื่อนในทุกองค์ประกอบของแบรนด์ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งในฐานะนักพฤกษศาสตร์ นักวิจัย เกษตรกร ผู้ผลิต รวมทั้งผู้ขายและทำการตลาดได้ตลอดทั้งห่วงโซ่

ขยายเครือข่ายต่อยอดการสร้างพฤติกรรมเชิงบวก  

มากกว่า 6 ทศวรรษ ที่อีฟ โรเช ได้ขับเคลื่อนความยั่งยืนผ่านบริบทต่าง ๆ ในทุกมิติของธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง​ และเพื่อให้สามารถขยายผลกระทบเชิงบวกรวมทั้งขับเคลื่อน Community ได้อย่างแข็งแรงมากขึ้น อีฟ โรเช ได้ยกระดับความสำคัญของการสร้างเครือข่ายเพื่อขยายแนวร่วมผู้มีความตระหนักและรับผิดชอบต่อผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการยกระดับจากการสร้างความตระหนักรู้ มาสู่ความสามารถในการเข้าไปเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม​ เพื่อให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้อย่างง่าย ๆ ผ่านการดำเนินชีวิตตามปกติในแต่ละวัน

นำมาสู่การนำร่องโครงการ Yves Rocher x LG and Friends : Act Beautiful to Make a Sustainable Difference ซึ่งได้จัดงานเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการ​ประกาศความร่วมมือระหว่างแบรนด์อีฟ โรเช และ คุณครูลูกกอล์ฟ – คณาธิป สุนทรรักษ์ ในฐานะ Friend of Yves Rocher Thailand ซึ่งมีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด​ รวมทั้งยังใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย LG and Friends ที่มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน มาช่วยสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ผู้คนรอบข้างหันมาใส่ใจเรื่องของสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น

พร้อมทั้งยัง​ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ Connect the Dots ในการชักชวนพันธมิตรสาย Eco อีก 3 ราย ได้แก่ Little Big Green, Chula Zero Waste และ ECOLIFE เพื่อร่วม​กันขับเคลื่อนโลกที่ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว หรือ Single-use Plastic ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการครั้งนี้  โดยแต่ละแพลตฟอร์มจะสร้างสรรค์กิจกรรมที่ส่งเสริมทั้งการใช้ซ้ำ (Reuse) การลดการใช้พลาสติก (Reduce) และการนำกลับมาเข้าสู่ระบบเพื่อรีไซเคิล (Recycle) และเปิดโอกาสให้คนทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมรักษ์โลกได้อย่างง่าย ๆ ​หรือช่วยสร้างแรงบันดาลใจเพื่อนำไปต่อยอดสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันให้มีความยั่งยืนได้มาก​ขึ้น

เริ่มต้นด้วยกิจกรรมจาก Little Big Green ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้เพื่อรณรงค์ให้เกิดพฤติกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม​ตามแนวคิด as green as you can นำทีมโดย คุณครูลูกกอล์ฟ และ คุณเชอร์รี่ – เข็มอัปสร สิริสุขะ​ สายกรีนตัวจริงเสียงจริง ที่ตั้งใจมาถ่ายทอดไอเดียง่าย ๆ ในการใช้สิ่งของต่าง ๆ รอบตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุดก่อนที่จะทิ้งให้กลายเป็นขยะ ผ่านแนวคิด #คุ้มยัง ช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้ซ้ำ หรือ Reuse ของใช้รอบตัวอย่างคุ้มค่าเพื่อลดการสร้างขยะ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ หรือแม้แต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ทั้งคุ้มค่าและดีต่อโลกมากกว่า ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากและทุกคนสามารถทำตามได้เพื่อร่วมกันปกป้องโลก พร้อมการสื่อสารเรื่องราวผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลภายในเครือข่าย​ โดยมีระยะเวลาในการขับเคลื่อนกิจกรรมตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม – พฤศจิกายน 2566

ตามมาด้วยความร่วมมือกับ Chula Zero Waste หน่วยงานภายใต้การดูแลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีหน้าที่บริหารจัดการด้าน Waste Management อย่างค​รบวงจร ตั้งแต่สร้างความตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม สร้างพฤติกรรมที่ลดการใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น และการบริหารจัดการขยะและของเสียต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย ซึ่ง อีฟ โรเช เข้ามามีส่วนร่วมในพันธกิจ Reduce ผ่านกิจกรรมที่ส่งเสริมให้มีการเลิกหรือลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งด้วยการสนับสนุนการติดตั้งตู้กดน้ำเย็นในโรงอาหารหลักทั้ง 7 แห่งของมหาวิทยาลัย

หลังเข้าใจทั้งอินไซต์และ Pain Point ของผู้บริโภค ที่แม้จะมีความตั้งใจเลิกใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก เช่น การซื้อน้ำดื่มในขวด PET แต่ยังติดปัญหาไม่มีจุดให้เติมน้ำดื่มได้อย่างสะดวก รวมทั้งความไม่มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยและความสะอาดของตู้กดน้ำสาธารณะทั่วไป ทาง อีฟ​ โรเช จึงเข้ามาเติมเต็มและช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว ผ่านการติดตั้งตู้กดน้ำเย็นที่มีจอแสดงผลประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องกรอง เพื่อให้ผู้มากดน้ำสามารถดื่มน้ำจากตู้กดนี้ได้อย่างมั่นใจ พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมมากขึ้น ด้วยการจัดกิจกรรมพิเศษ #YourCupWeTreat ทุกเดือน เพื่อมอบเครื่องดื่มฟรี เช่น นมเย็น ชาเย็น ชามะนาว หรือน้ำผลไม้ปั่น รวมทั้งของว่างเพื่อทานเล่นอย่างป๊อบคอร์น สำหรับผู้นำมาภาชนะมาใส่ เพื่อช่วยลดปริมาณการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกและหันมาใช้ภาชนะทดแทนให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งกิจกรรมนี้จะขับเคลื่อนไปจนถึงสิ้นปี 2566 นี้

ส่วนกิจกรรมเพื่อสนับสนุนการ Recycle เพื่อนำขยะพลาสติกกลับเข้าสู่ระบบรีไซเคิลให้มากขึ้นนั้น ทาง อีฟ โรเช ได้ร่วมมือกับ ECOLIFE คอมมูนิตี้ที่มีความเชื่อว่า “ทุกคนมีสิทธิ์ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี” จึงได้พัฒนา ECOLIFE Application แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ทุกคนรักษ์โลกได้ง่าย ๆ และสนุกมากขึ้น ด้วยการเชื่อมต่อเครือข่ายร้านค้า สินค้า และบริการสีเขียวทั่วประเทศ ผ่าน ECOMAP ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถค้นพบและเข้าถึงจุดรับขยะรีไซเคิลหรือ Drop Point ที่มีเครือข่ายกระจายอยู่ทั่วประเทศได้ง่ายขึ้น รวมทั้งได้เพิ่มสาขาทั้งหมด​ของอีฟ โรเช 65 สาขา เข้าไปในระบบของ ECOMAP เพื่อเป็นจุด Official Drop Point สำหรับบรรจุภัณฑ์แฮร์แคร์และสกินแคร์จากทุกแบรนด์ ซึ่งสามารถค้นหาพิกัดของสาขาทั้งหมดได้จาก​ ECOLIFE Application เพื่อนำส่งต่อขยะบรรจุภัณฑ์ให้เข้าสู่ระบบการรีไซเคิลอย่างเหมาะสม และสามารถแลกรับ ECO Point สำหรับนำไปแลกส่วนลดสินค้าในร้าน อีฟ​ โรเช ได้อีกด้วย โดยความร่วมมือในครั้งนี้ได้ตั้งเป้าจะสามารถรวบรวมบรรจุภัณฑ์ตลอดถึงสิ้นปี 2566 นี้ ได้ 80,000 ขวด

สามารถติดตามข้อมูลอัพเดททั้งจำนวนผู้ร่วมปฏิบัติการรักษ์โลก จำนวนขวดสะสมที่รวบรวมได้ และปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทางโครงการสามารถช่วยลด จากการนำขวดพลาสติกมาหย่อนที่กล่องรีไซเคิล ผ่านเว็บไซต์ www.ecolifeapp.com

ความร่วมมือในครั้งนี้ จึงสะท้อนทั้งความมุ่งมั่นในจุดยืนดั้งเดิมของ อีฟ โรเช ที่ต้องการขับเคลื่อนโลกที่มีความยั่งยืน รวมทั้งความพยายามในการยกระดับให้สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกออกไปได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากที่เคยโฟกัสผ่านการขับเคลื่อนด้วยตัวเอง มาสู่การผนึกกำลังกับ​พันธมิตรที่มีจุดยืนร่วมกัน เพื่อสร้างเป็น Community ที่แข็งแกร่งและสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างทรงพลังและรอบด้านยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยัง​เป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นที่ช่วยเข้ามา​เติมเต็มระบบนิเวศแห่งความยั่งยืนให้มีความสมบูรณ์ได้มากยิ่งขึ้นอีกทางหนึ่งเช่นเดียวกัน

 

#YvesRocherActBeautiful

#YvesRocherSustainableDifference

#YvesRocherTH

#YvesRocherxLGandFriends


แชร์ :

You may also like