แม้ปัจจุบัน “บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” หรือ “SC Asset” จะเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตลาดมาอย่างยาวนานและมีชื่อเสียงโครงการบ้านระดับไฮเอนด์มายาวนาน
แข็งแกร่งทั้งด้านยอดขายและเป็นผู้นำแบรนด์บ้านไฮเอนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภคคนไทยมายาวนาน แต่หนึ่งในโจทย์ใหญ่ที่อสังหาฯ แบรนด์นี้กำลังเจออยู่คือ Brand Awareness คอนโดมิเนียมของ SC Asset กลับไม่อยู่ใน Top of Mind ของผู้บริโภค จึงทำให้ปีนี้ SC Asset ต้องเทกแอคชั่นอย่างจริงจังกับการบุกตลาดคอนโด เพื่อดัน SC Condo ขึ้นเป็น Top of Mind ในใจผู้บริโภคให้ได้ภายในปลายปี 2567
ท่ามกลางการแข่งขันของตลาดคอนโดที่รุนแรง และมี Big Player ยึดครองส่วนแบ่งตลาดอยู่หลายแบรนด์ จึงน่าสนใจว่า SC Asset จะวางกลยุทธ์รุกตลาดแบบใดเพื่อพา SC Condo เข้าไปเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่คนรุ่นใหม่คิดถึง Brand Buffet พามาเจาะลึกวิธีคิด พร้อมยุทธศาสตร์การสร้างแบรนด์จากนี้ กับสองหัวเรือใหญ่ “คุณกนกอร หลิมกำเนิด” Chief Operating Officer – Property Development – High Rise และ “คุณโฉมชฎา กุลดิลก” Head of Corporate Brand and Communications
ตั้งเป้า SC Condo ต้องเป็น Top of Mind
SC Asset เป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่ทำตลาดมานานนับ 20 ปี และมีจุดยืนชัดเจนในการเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์คุณภาพระดับไฮเอนด์ โดยโครงการแรกที่เปิดตัวเริ่มจากอาคารสำนักงานให้เช่า จากนั้นขยายมาสู่การพัฒนาบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ “Bangkok Boulevard” โดยเลือกโฟกัสที่กลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ เพราะตอนนั้นซัพพลายยังมีไม่มาก จึงมองว่ามีช่องว่างและโอกาสในการทำตลาดอยู่มาก จนทำให้ SC Asset สามารถแจ้งเกิดแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในตลาด และมีการขยายธุรกิจเข้าไปในตลาดกลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น จนปัจจุบันครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโด
แม้ SC Asset จะทำตลาดคอนโดมาอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมาดู Product Portfolio จะพบว่าส่วนใหญ่ยังมาจากกลุ่มบ้าน โดยปัจจุบันมีสัดส่วนเกือบ 80% อีกทั้งความถี่ในการเปิดคอนโดใหม่เมื่อเทียบกับบ้านแล้ว คุณกนกอร ยอมรับว่า ยังน้อยมาก โดยเฉลี่ยเปิดตัวปีละ 1 โครงการเท่านั้น ประกอบกับระดับราคาคอนโดค่อนข้างสูง โดยเริ่มต้นที่ 4.5 ล้านบาทขึ้นไป ทำให้ Perception ของผู้บริโภคโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่มอง SC Condo = คอนโดไฮเอนด์ และเป็นแบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นลูกค้าระดับบนเท่านั้น ซึ่งภาพจำเหล่านี้เอง ส่งผลให้เมื่อพูดถึงแบรนด์ SC Asset ส่วนใหญ่จึง Remind ถึงบ้านทันที
“เรามีการสำรวจ Brand Awareness อยู่เป็นประจำ และพบว่า SC Condo ไม่ได้อยู่ใน Top of Mind ของผู้บริโภค โดยปัจจุบันอยู่อันดับ 8 ถึง 10 ขึ้นอยู่กับโพล แต่ถ้าพูดถึงคอนโดลักชัวรี่ ระดับราคา 2-3 แสนบาทต่อตารางเมตร เราเป็นอันดับ 2 ในใจลูกค้า เราจึงอยากให้ SC Condo เข้าไปอยู่ใน Top of Mind ของผู้บริโภครุ่นใหม่”
คุณโฉมชฎา บอกเหตุผลที่ต้องบุกตลาดคอนโดหนักขึ้น บวกกับพฤติกรรมการอยู่อาศัยของผู้บริโภคทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยมีความหลากหลาย อีกทั้งชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว Seamless กันจนแยกกันไม่ออก และถึงจะอยู่คอนโดเดียวกัน แต่วิถีชีวิตแต่ละคนก็ต่างกัน นี่จึงเป็นที่มาของแนวคิดการพัฒนาคอนโดเพื่อทุกคน “EVERYBODY’S HIGH-RISE”
สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ ภายใต้แนวคิด EVERYBODY’S HIGH-RISE สู่คอนโดสำหรับทุกคน
หากแปลคำว่า EVERYBODY’S HIGH-RISE กันตรงๆ ก็คือ การพัฒนาคอนโดสำหรับทุกคน แต่ คุณโฉมชฎา บอกว่า “ทุกคน” ในความหมายของ SC Asset ไม่ได้หมายถึงลูกค้าที่อยู่อาศัยในคอนโด SC เท่านั้น ทว่ายังหมายรวมถึงกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกเซ็กเม้นต์ และผู้คนที่อยู่รอบคอนโดด้วย การสร้างระบบนิเวศการอยู่อาศัยที่ดีเพื่อให้คนในพื้นที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน จึงเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน
ดังนั้น EVERYBODY’S HIGH-RISE จึงเป็นแนวคิดสำคัญที่ถูกนำมาใช้เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ของ SC Condo จากภาพจำที่มีแต่คอนโดไฮเอนด์ ไปสู่แบรนด์คอนโดที่เข้าถึงผู้บริโภคทุก Segment ผ่านการออกแบบสินค้าและบริการที่ตอบความต้องการของทุกคน และวาง Positioning ด้านราคาที่หลากหลายให้ทุกคนเข้าถึงได้ โดยเริ่มต้นที่ 100,000-150,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่เติบโตสูงสุดของกลุ่มคอนโด
ส่วนดีไซน์คอนโดและการบริการของ SC Condo ที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงจากนี้คือ การออกแบบพื้นที่ส่วนตัวและส่วนกลางที่ตอบความหลากหลายของการใช้ชีวิตยุคใหม่ โดยยังคงหลัก Human–Centric มาใช้ในการออกแบบ ด้วยการลงไปศึกษา Pain Point ผู้บริโภคอย่างละเอียด และนำมาออกแบบ ยกตัวอย่างการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำ และฟิตเนส คุณกนกอรบอกว่า ด้วยความกังวลในเรื่องความปลอดภัย ขณะที่บางคนต้องการความเป็นส่วนตัว ดังนั้น SC Condo จึงออกแบบการให้บริการในแต่ละครั้งจำกัดจำนวนเพียง 4 คน หรือการสร้างพื้นที่คอมมูนิตี้ให้คนในคอนโดที่มีความสนใจในกิจกรรมเหมือนกันได้มีส่วนร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน ซึ่ง SC Asset จะรวบรวมความสนใจของแต่ละคนและนำมาจัดเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อจัด Workshop Space เช่น คลาสจัดดอกไม้ และทำกระเป๋าหนัง เป็นต้น
รวมถึงบริการผู้ช่วยส่วนตัว ซึ่งแต่ละโครงการรูปแบบจะแตกต่างกันตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน แถมยังมีโทเคนบนแอปพลิเคชั่นรู้ใจ เพื่อให้การบริการไร้รอยต่อมากขึ้น ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา เมื่อเปิดตัว และถูกใช้งานไปเรื่อยๆ คุณโฉมชฎา เชื่อว่า ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ SC Condo เข้าใจความต้องการของลูกค้าแต่ละคนมากขึ้น และจะทำให้สามารถนำมาออกแบบบริการต่างๆ ได้อย่างแม่นยำและตรงใจลูกค้าต่อไป
“เราเชื่อว่าการพัฒนาสินค้าและบริการของ SC Condo จากนี้จะแม่นยำและตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น เพราะดาต้ามีมูลค่าสำหรับงานออกแบบและบริการมหาศาล จะทำให้เรารู้เลยว่าคนอยู่โซนนี้ อายุประมาณนี้ไม่อยากได้ครัว แต่ต้องการห้องสมุด”
ปรับรูปแบบการสื่อสารเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม
ไม่เพียงดีไซน์และราคาจะหลากหลายตรงกับความต้องการของลูกค้าทุก Segment เท่านั้น ในแง่กลยุทธ์การตลาด SC Condo ยังมีการปรับรูปแบบการสื่อสารให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มมากขึ้นด้วย โดยจากนี้ไปจะลงไปศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคแต่ละกลุ่มนิยมเสพสื่อผ่านช่องทางไหนมากที่สุด เช่น ถ้าชอบดู YouTube ก็จะทำหนังโฆษณา หากชอบอีเวนต์ ก็จะรุกเข้าไปจัดอีเวนต์เพิ่มขึ้น
โดยคุณกนกอร มั่นใจว่า หลังจากการปรับแนวคิดในการพัฒนาคอนโดใหม่ บวกกับความถี่ในการเปิดตัวคอนโดเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 โครงการทุกๆ โดยปีนี้จะเปิดเพิ่ม 3 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาท และภายใน 5 ปีจะลุยเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดคอนโดเริ่มกลับมาฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งหมดจะช่วยให้ Perception ของผู้บริโภคมอง SC Condo เปลี่ยนไป และทำให้ SC Condo ติด Top of Mind แบรนด์ที่คนนึกถึงในใจเมื่อพูดถึงคอนโดภายในปลายปี 2567 อย่างแน่นอน
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการบุกตลาดคอนโดเท่านั้น เชื่อว่าต่อจากนี้ SC Condo ยังมีหมัดเด็ดมาสะท้อนภาพความเป็น EVERYBODY’S HIGH-RISE และสร้างความสั่นสะเทือนให้กับตลาดคอนโดอย่างแน่นอน
สำหรับผู้ที่สนใจปรัชญา EVERYBODY’S HIGH-RISE จาก SC Asset สามารถติดตามชมเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ https://m.scasset.com/EI_W พร้อมดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการคอนโดมิเนียมของ SC Asset ได้ที่ https://m.scasset.com/EVuu หรือทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของ SC Asset หรือ โทร. 1749