Arkitektura (อาร์คิเทคทูรา) ผู้นำเข้าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านชั้นนำจากต่างประเทศและเป็นผู้เล่นระดับ TOP 3 ของประเทศไทยลงทุนครั้งใหญ่ย้ายโชว์รูมเก่ามาเปิดตัวโชว์รูมใหม่ที่ซอยต้นสน พื้นที่กว่า 2,500 ตารางเมตร ผนึกแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลก เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในการเลือกสรรเฟอร์นิเจอร์ที่เปี่ยมด้วยคุณค่าของงานดีไซน์ระดับไฮเอนด์ พร้อมเผยแผนยุทธศาสตร์เน้นสร้างทีมงานให้แข็งแกร่ง มองหาโอกาส และจับมือกับสถาปนิก มัณฑนากร เจาะตลาดทั้ง B2B และ B2C
เปิดตัวโชว์รูมใหม่
ยกระดับประสบการณ์ไฮเอนด์ให้ลูกค้า
นายสมชัย อัครวิทยาภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์คิเทคทูรา จำกัด ผู้นำเข้าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านชั้นนำจากต่างประเทศเปิดเผยถึงการลงทุนครั้งล่าสุดของบริษัทฯ ว่า “เนื่องจาก อาร์คิเทคทูรา เป็นผู้นำเข้าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านชั้นนำจากต่างประเทศ และดำเนินธุรกิจมานานกว่า 2 ทศวรรษ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียมและคุณภาพสูง ด้วย เป้าหมายสูงสุด คือ การเป็นผู้นำที่นำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง และดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาได้คัดสรรและตั้งใจนำเสนอสินค้าที่ดีมาให้แก่ลูกค้าคนไทยได้สัมผัสถึงงานดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลก ด้วยนิยามที่ว่า “Generations of Awesome Quality and Craftsmanship
ล่าสุด บริษัทได้ลงทุนครั้งใหญ่ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในการเลือกสรรเฟอร์นิเจอร์ที่เปี่ยมด้วยคุณค่าของงานดีไซน์ชั้นสูง โดยได้ย้ายที่ตั้งของโชว์รูมมาอยู่ในบ้านหลังใหม่ Tonson Showroom ที่ซอยต้นสน ถนนเพลินจิต บนพื้นที่กว้างขึ้นกว่า 2,500 ตารางเมตร เพื่อตอบสนองความต้องการเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน แบรนด์หรูระดับพรีเมียมที่เพิ่มมากขึ้น สำหรับโชว์รูมแห่งใหม่ ลูกค้าจะได้สัมผัสกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์จากทั่วโลก ครอบคลุมทุกสไตล์การตกแต่งและทุกพื้นที่ภายในบ้าน ตั้งแต่ห้องนอน ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และห้องครัว”
สำหรับแบรนด์ซึ่งบริษัทนำเข้าและคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อนำเข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทยมีกว่า 10 แบรนด์ อาทิ
- Poliform แบรนด์จากตอนเหนือของมิลาน ประเทศอิตาลีที่มีดีไซน์เรียบหรู โดดเด่นด้านงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยจัดการภาพรวมของบ้านให้เป็นระเบียบ โปร่งตา อาทิ ชั้นหนังสือ ตู้เสื้อผ้า เตียง ฯลฯ
- Flexform แบรนด์จากบริอันซา ซึ่งเป็นเมืองประวัติศาสตร์แห่งวงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ของ ประเทศอิตาลี เป็นแบรนด์ที่บ่งบอกเนื้อแท้แห่งงานออกแบบสไตล์อิตาเลียนในทุกรายละเอียด นับแต่การออกแบบจนถึงออกมาเป็นเฟอร์นิเจอร์
- Arclinea แบรนด์ห้องครัวระดับพรีเมี่ยมจากอิตาลี เน้นดีไซน์ที่เชื่อมโยงทั้งฟังก์ชั่นและการใช้งาน ผสานกับสุนทรียะของการสังสรรค์บนโต๊ะอาหาร และงานออกแบบที่ใช้งานได้จริง
- Dornbracht แบรนด์ห้องครัวและสุขภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมจากเยอรมนีที่ผสานงานดีไซน์กับงานสถาปัตยกรรมเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน
- Poggenpohl แบรนด์ห้องครัวชั้นนำระดับโลกจากเยอรมนีที่มากับความหรูหรา ทันสมัย ผสานแนวคิดสถาปัตยกรรมกับงานดีไซน์อย่างลงตัว ใส่ใจกับความต้องการที่แตกต่างเฉพาะของรายบุคคลด้วย
ยุทธศาสตร์รุกตลาด
นายสมชัยเปิดเผยถึงยุทธศาสตร์การรุกตลาดของบริษัทว่า “ในปีนี้บริษัทฯ เน้นรุกตลาดด้วย 3 กลยุทธ์หลัก นั่นคือ 1) การสร้างทีมงานให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เนื่องจากบุคลากรคือสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดของบริษัท 2) การมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยประเมินจากแนวโน้มที่มีศักยภาพ ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น เรามองเห็นโอกาสใหม่ๆ ของตลาดระดับบนในหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเพื่อสุขภาพ หรือโรงแรมรูปแบบใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครนำเสนอมาก่อน 3) การจับมือกับสถาปนิก และมัณฑนากรอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างสรรค์งานออกแบบที่ทรงคุณค่า สมบูรณ์แบบ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในระหว่างศึกษาและเตรียมความพร้อมและจับมือกับสถาปนอิก มัณฑนากร เพื่อรุกเจาะตลาดทั้ง B2B และ B2C”
รุกตลาดทั้ง B2B และ B2C
“ปัจจุบันภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์ในประเทศมีมูลค่า 50,000 ล้านบาท โดยเซ็กเมนต์เฟอร์นิเจอร์ระดับ
ไฮเอนด์มีมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5% ของตลาดรวม และเป็นเซ็กเมนต์ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน อาร์คิเทคทูรา ถือเป็นบริษัทชั้นนำในตลาดเฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์ใน TOP 3 ของประเทศไทย โดยบริษัทยังคงตอกย้ำการเป็นผู้นำที่นำเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงให้กับลูกค้าอย่างจริงใจและยึดมั่น การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
สำหรับเป้าหมายของบริษัทฯ ในปีนี้ เราตั้งเป้าเติบโต 20% พร้อมเดินหน้ารุกตลาดกลุ่มลูกค้า B2B อาทิ อสังหาริมทรัพย์ระดับบน, โครงการ Mixed-Use โรงแรมและรีสอร์ตระดับลักซ์ชัวรี่ ฯลฯ ซึ่งเป็นตลาดที่คัดสรรเฉพาะงานออกแบบคุณภาพสูง เปี่ยมด้วยคุณค่าของงานดีไซน์ของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ขณะเดียวกัน ก็มีแผนที่จะนำเสนอเฟอร์นิเจอร์สั่งทำระดับพรีเมียมให้กับโครงการต่างๆ มากขึ้นด้วย เนื่องจากตลาดอสังหาฯ ระดับบน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่เข้ามาเมืองไทยมากขึ้น หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ้นสุดลง โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่สนใจลงทุนในตลาดอสังหาฯ ระดับลักซ์ชัวรี่ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้มูลค่าที่ดินในเมืองปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และย่อมเป็นโอกาสเติบโตของตลาดเฟอร์นิเจอร์ระดับบนเช่นกัน”
นายสมชัยกล่าวต่อไปถึงการรุกตลาด B2C เพิ่มเติมว่า “ในส่วนของตลาด B2C เป็นเซ็กเม้นท์ที่เราวางแผนจะรุกตลาดมากขึ้น จากการทำตลาดด้วยการทำงานร่วมกับสถาปนิก และมัณฑนากรอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากการทำตลาดผ่านห้างสรรพสินค้าชั้นนำในสวนของ Bed & Bath Products และการขายผ่านแผนกเฟอร์นิเจอร์ในโชว์รูมของบริษัทฯ รวมทั้งมีแผนขยายช่องทางออนไลน์อีกด้วย ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิด “แฟล็กซิพ สโตร์” ที่เป็นความร่วมมือกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่นำเข้ามา อาทิ Flexform แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำจากอิตาลี ถือเป็นโมเดลธุรกิจ (Business Model) ที่ทำกันอยู่ทั่วโลก แต่นอกจากการเป็น “แฟล็กซิพ สโตร์” แล้ว เรายังเสริมให้เป็น “โชว์วิลล่า” (Show Villa) เพื่อให้ลูกค้าได้รู้สึกเหมือนอยู่ในวิลล่าจริงๆ ซึ่งน่าจะเป็นแห่งแรกในเอเซียที่ทำลักษณะนี้ เพื่อนำเสนอไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้านอกเหนือจากการนำเสนอสินค้าเพียงอย่างเดียว”