HomeSponsoredผ่าแผน “โรบินฮู้ด” เปิดตัว Robinhood Ride ตั้งเป้า Top3 แอปเรียกรถใน 3 ปี พร้อมเพิ่มธุรกิจ EV – ไฟแนนซ์

ผ่าแผน “โรบินฮู้ด” เปิดตัว Robinhood Ride ตั้งเป้า Top3 แอปเรียกรถใน 3 ปี พร้อมเพิ่มธุรกิจ EV – ไฟแนนซ์

แชร์ :

โรบินฮู้ด (Robinhood) ซูเปอร์แอปสัญชาติไทยประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ สร้างการเติบโตอย่าง “ยั่งยืน” ให้สังคมไทยใน 3 มิติ หวังตอบโจทย์ทั้ง “ร้านค้า-ผู้บริโภค-ไรเดอร์” ผ่านบริการ Finance และรถ EV พร้อมก้าวไปอีกขั้น ด้วยบริการเรียกรถ “Robinhood Ride” รับความต้องการด้านการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ตั้งเป้ายอดธุรกรรม (Transactions) 12,000 ครั้งต่อวันและเป็น Top3 ของตลาดแอปเรียกรถภายใน 3 ปี

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เรียกได้ว่าเป็นการขับเคลื่อนสังคมไทยอย่างมีนัยสำคัญ กับการก้าวไปอีกขั้นของ Robinhood ในฐานะซูเปอร์แอปสัญชาติไทย ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากการเป็นผู้ให้บริการ Food Delivery ในปี 2020 ไปสู่การเป็น SuperApp โดยหากย้อนเส้นทางของ Robinhood จะพบว่า หลังจากเปิดตัวบริการ Food Delivery เพื่อช่วยร้านอาหารขนาดเล็กในช่วง Pandemic (ปี 2020) ที่ประสบปัญหาจากการล็อกดาวน์ โดยไม่คิดค่า GP ใด ๆ และได้รับคำขอบคุณมากมายทั้งจากร้านอาหาร และผู้ใช้บริการ

มาถึงวันนี้ มีการเปิดเผยข้อมูลจากแพลตฟอร์มว่าบริการ Food Delivery ของ Robinhood สามารถส่งอาหารได้แล้วถึง 90 ล้านมื้อ สร้างรายได้ให้กับร้านอาหารได้ถึง 17,200 ล้านบาท รวมถึงสร้างรายได้ให้ไรเดอร์ถึง 3,600 ล้านบาท (มีร้านค้าบนแพลตฟอร์ม 300,000 แห่ง ไรเดอร์ 30,000 ราย และผู้ใช้งาน 3.7 ล้านราย)

นอกจากนั้น ในปี 2020 บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลจากเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทย EUREKA ยังจัดอันดับให้ แอป Robinhood เป็นผู้ให้บริการ Food Delivery ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ด้วยส่วนแบ่งการตลาดถึง 20% อีกด้วย

ที่สำคัญ การช่วยคนตัวเล็กของ Robinhood ยังขยายออกไปสู่หลายอุตสาหกรรม เช่น การเปิดตัว Robinhood Travel โดยไม่คิดค่าคอมมิชชั่นเพื่อเป็นทางเลือกให้ธุรกิจโรงแรมไทย Robinhood Mart สำหรับธุรกิจค้าปลีก – ตลาดสด และ Robinhood Express สำหรับการรับ-ส่งพัสดุและเอกสารด่วน ส่งสินค้าด่วน

“Robinhood Ride” ถึงเวลาบุกตลาด “แอปเรียกรถ”

สำหรับการเป็น Transportation Platform  หรือบริการเรียกรถของ Robinhood อาจกล่าวได้ว่าเริ่มต้นขึ้นเมื่อกันยายน 2022 ที่ผ่านมา เมื่อบริษัทได้รับใบอนุญาตเพื่อเป็นผู้ให้บริการแอปพลิเคชันนรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์จากกรมการขนส่งทางบก พร้อม ๆ กับสถานการณ์เชิงบวกทั่วโลกที่ผู้คนเริ่มกลับสู่ชีวิตการทำงานตามปกติกันอีกครั้ง

ซึ่งการเติบโตนี้ คุณสุชานัน ตันติวัฒนวัลลภ Head of Ride Business บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด เผยว่า ตลาดแอปเรียกรถมีโอกาสเติบโตไปสู่อุตสาหกรรมมูลค่า 150,000 ล้านบาทได้ในปี 2028 จากในปี 2023 มีมูลค่าอยู่ที่ 70,000 ล้านบาท โดยปัจจุบัน การเรียกรถผ่านแอปมีสัดส่วน 2 ใน 3 ของการเรียกรถทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทีมงาน Robinhood พบก็คือ ตลาดนี้ยังมี Pain Point ซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาค่าโดยสารที่พร้อมจะปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เช่น ในช่วงเวลาเร่งด่วน หรือช่วงที่ฝนตก หรือในส่วนของคนขับที่โดนหักค่าคอมมิชชั่นในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูงจนไม่อาจสร้างรายได้จากแอปเรียกรถได้อย่างที่ควรจะเป็น

“อีกสิ่งหนึ่งที่เราพบว่าทั้งคนขับและผู้โดยสารมีความกังวลไม่ต่างกันก็คือในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น รถเสีย รถเกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่สามารถติดต่อคอลล์เซนเตอร์ได้ เราจึงมองว่า การเป็นแอปเรียกรถที่ดีต้องสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ด้วย” คุณสุชานันกล่าว และนั่นทำให้ Robinhood Ride (แทรกลิงค์ https://www.robinhood.in.th/) เปิดตัวพร้อมจุดเด่น 6 ข้อ ได้แก่

คุณสุชานัน ตันติวัฒนวัลลภ Head of Ride Business บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด

1) การตั้งราคาที่เป็นธรรม และยึดตามกรอบที่กฎหมายกำหนด โดยไม่มีการบวกเพิ่มในช่วงเวลาเร่งด่วน

2) คนขับบริการดีมีมาตรฐาน โดยคุณสุชานันย้ำว่าเป็นจุดเด่นของแพลตฟอร์ม Robinhood ที่มีไรเดอร์มารยาทดี และต้องการส่งต่อจุดเด่นนั้นมายัง Robinhood Ride ด้วย

3) เก็บค่าคอมมิชชันต่ำกว่า โดยคิดที่ 20%

4.) คนขับไม่ต้องเติมเครดิต (เงิน) ก่อนรับงาน ทำให้คนขับสามารถเริ่มงานได้ง่ายขึ้น

5) ทางแพลตฟอร์มมีการประกันเหตุร้ายในช่วงเวลา 22.00 – 04.00 น. สำหรับผู้โดยสารที่ต้องเดินทางในเวลากลางคืน โดยจะมีค่าเสียหายให้ตามจริง ไม่เกิน 50,000 บาท

6) Call Center ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน และให้บริการด้วยพนักงานมนุษย์ ไม่ใช่บ็อท หรือการส่งอีเมล ทำให้มั่นใจได้ว่า สามารถให้คำปรึกษา – ความช่วยเหลือได้จริง (โทร. 02-777-7564)

นอกจากนี้ ภายในบริการ Robinhood Ride ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น ฟีเจอร์ Silent Mode สำหรับแจ้งให้คนขับทราบว่าผู้โดยสารต้องการความเงียบในระหว่างเดินทาง การแชร์โลเคชั่น และในส่วนของการชำระเงินจะเป็นแบบ Cashless ทั้งหมด

คุณสุชานันกล่าวด้วยว่า ในช่วงแรก บริการ Robinhood Ride จะเปิดให้บริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน และผู้โดยสารสามารถเลือกประเภทรถยนต์ได้ถึง 8 รูปแบบ ได้แก่

– Robinhood Taxi รถแท็กซี่

– Robinhood EV Car รถยนต์ไฟฟ้า

– Robinhood EV Premium Car รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม

– Robinhood Car รถยนต์ทั่วไป

– Robinhood Premium Car รถยนต์พรีเมียม

– Robinhood Lady รถยนต์ทั่วไปคนขับผู้หญิง

– Robinhood Premium Lady รถยนต์พรีเมียมคนขับผู้หญิง

– Robinhood SUV รถยนต์ขนาดใหญ่สำหรับผู้มีสัมภาระ

ทั้งนี้ ผู้บริหาร Robinhood Ride เผยถึงเป้าหมายของบริการดังกล่าวว่า ภายในสิ้นปี 2566 คาดหวังยอดธุรกรรมเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 12,000 ครั้ง และมีรถยนต์พร้อมให้บริการในระบบกว่า 10,000 คัน โดยคาดว่าจะขึ้นเป็น Top 3 ของบริการแอปเรียกรถได้ภายใน 3 ปี (ในช่วงแรกของการเปิดตัว สามารถกรอกโค้ดส่วนลด CARE เพื่อรับส่วนลดพิเศษ 50 บาท เมื่อมีค่าโดยสารขั้นต่ำ 100 บาทได้ด้วย โดยสิทธิพิเศษดังกล่าวรองรับตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2566 – 30 กันยายน 2566)

ตลาด EV – Finance เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ไรเดอร์ – ร้านค้า

คุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด

แต่การเติบโตต่อไปในโลกยุคหลัง Covid-19 นั้น ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องท้าทายสำหรับทุกธุรกิจ ซึ่งในจุดนี้ ทำให้ Robinhood มีแผนเปิดตัวอีกสองบริการออกมาในครึ่งปีหลัง เพื่อเสริมแกร่งให้กับทุกฝ่ายใน Ecosystem นั่นคือ “Robinhood Finance”  บริการสินเชื่อดิจิทัลเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับกลุ่มร้านค้าและไรเดอร์ และ “Robinhood EV” บริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยในส่วนของบริการรถ EV นั้น คุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า อยู่ระหว่างการพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย แต่โมเดลที่ทางแพลตฟอร์มสนใจคือ บริการเช่าใช้ และมีแผนจะนำมาให้บริการกับกลุ่มไรเดอร์ก่อนเป็นอันดับแรก โดยหากเป็นไปได้ ก็ตั้งเป้ารถ EV เฟสแรกไว้ที่ 1,000 คัน (จักรยานยนต์)

ขณะที่ธุรกิจไฟแนนซ์ มาจากการพบอินไซต์ของร้านค้าและไรเดอร์ที่มีการกู้เงินนอกระบบและต้องจ่ายดอกเบี้ยที่สูงมาก ซึ่งหากมีบริการทางการเงินแบบนาโนไฟแนนซ์ ที่มียอดไม่สูงมาก (ราว 5,000 – 8,000 บาท) ก็อาจเป็นทางเลือกให้คุณภาพชีวิตของไรเดอร์และร้านค้าดีขึ้นได้โดยไม่ต้องพึ่งเงินกู้นอกระบบนั่นเอง

ส่วนการระดมทุนนั้น คุณกวีวุฒิเผยว่าเป็นสิ่งที่ Robinhood ยังคงสนใจและมีการเจรจากับองค์กรต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่หากยังไม่มีการระดมทุนเกิดขึ้นในช่วงนี้ก็ไม่เป็นไรเช่นกัน

“ข้อดีของ Robinhood คือเป็น บริษัทภายใต้กลุ่ม SCBX ซึ่งมี Ecosystem ที่แข็งแกร่ง และมีฐานลูกค้าที่ช่วยให้เราเติบโตได้อีกเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าเราเติบโตด้วยตัวเองได้ เราก็จะทำให้ดีที่สุด” คุณกวีวุฒิกล่าวปิดท้าย


แชร์ :

You may also like