หลังเดินหน้ากลยุทธ์การตลาด “ด้านราคาและการกระจายสินค้า” ในไทย จนประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด MUJI (ประเทศไทย) ก็ขอเข้าถึงคนไทยมากขึ้น ด้วยการเพิ่มสินค้าราคาต่ำกว่า 300 บาท เข้ามาวางจำหน่ายในร้านมากถึง 53% หรือราว 1,500 รายการ (จากสินค้ารวมทั้งหมดกว่า 3,000 รายการ) เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าคุณภาพ ใช้งานคุ้มค่า ในราคาที่เข้าถึง สามารถกลับมาซื้อได้อีก
สำหรับสินค้าราคาต่ำกว่า 300 บาท ที่ MUJI เพิ่มเข้ามาจะครอบคลุมทุกหมวดหมู่สินค้าที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวันมากถึง 1,500 รายการ หรือคิดเป็น 53% ของจำนวนสินค้าทั้งหมดที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ประกอบไปด้วย
- หมวดเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน 82%
- หมวดเครื่องครัว 70%
- หมวด Health & Beauty เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม 65%
- กลุ่มเสื้อยืด ถุงเท้า ชุดชั้นใน และชุดนอน 40%
- หมวดเครื่องนอน มี 22%
- กลุ่มอุปกรณ์จัดระเบียบห้อง 8%
- หมวด MUJI Food และ Coffee Corner 100%
โดยมีสินค้าไฮไลท์เป็นที่นิยมของลูกค้าที่มีในราคาต่ำกว่า 300 บาท ได้แก่ กระเป๋าปอกระเจา เริ่มต้นที่ 59 บาท อุปกรณ์ทำความสะอาด 190 บาท ที่ดัดขนตาแบบพกพา 150 บาท สำลีฝ้ายออร์แกนิก 99 บาท ถุงเท้า 119 บาท ขนมบามคูเฮน 69 บาท และขวดน้ำพลาสติกไททัน 190 บาท และอื่น ๆ
แผนงานดังกล่าวถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่จะช่วยให้ MUJI สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “MUJI เติมเต็มทุกความต้องการที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ด้วยสินค้าคุณภาพ ราคาเข้าถึง” ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่แบรนด์ ที่ขายสินค้าในชีวิตประจำวัน แต่เป็นคอมมูนิตี้ที่เชื่อมโยงและเข้าถึงทุกคนด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่ายและมากขึ้น หลังที่ผ่านมามีการทำตลาดสินค้าในกลุ่มราคา 100 และ 200 มาแล้ว
นอกจากนี้ในอนาคต MUJI มีแผนที่จะขยายโซนที่มีสินค้าต่ำกว่า 300 บาท ซึ่งเป็นกลยุทธ์เดียวกันกับที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่น โดยภายในร้านจะรวบรวมจากทุกกลุ่มสินค้ามาอยู่ในที่เดียวกัน เพื่อความสะดวกของลูกค้าในการช้อปปิ้งมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม
มูจิ โรดไซด์ 2 ชั้น โมเดลต้นแบบเจาะชุมชน มีโซน 300 บาท แห่งแรกที่โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์