HomePR Newsเอสซีจี เปิดตัว “mind” โซลูชันสมาร์ทโฮมสัญชาติไทย ตั้งเป้าใช้งาน 100,000 หลังในปี 2025

เอสซีจี เปิดตัว “mind” โซลูชันสมาร์ทโฮมสัญชาติไทย ตั้งเป้าใช้งาน 100,000 หลังในปี 2025

แชร์ :

mind
เอสซีจี เปิดตัว “mind” Smart Home Solutions สัญชาติไทยที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ทุกค่าย ชู 3 จุดเด่น ใช้งานง่ายได้ทุกแบรนด์-ปกป้องความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้-เซอร์วิสเต็มรูปแบบทั้งก่อนและหลังการขาย 24 ชม. ตั้งเป้าติดตั้งโซลูชัน 100,000 หลังในปี 2025 พร้อมขยายสู่ตลาดโลกภายใน 4 ปี

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

คุณอภิรัตน์ หวานชะเอม Chief Digital Officer, SCG Digital Office กล่าวว่า แนวคิด Passion for Better Living ของเอสซีจีเกิดขึ้นเพื่อต้องการยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นและการเปิดตัว Smart Home Solutions แบรนด์ “มายด์” (mind) ก็เป็นหนึ่งในภารกิจนั้น

“Pain Point ของตลาด Smart Home ในช่วงที่ผ่านมา คือเน้นขายอุปกรณ์ ทำให้ภาพจำในหัวผู้บริโภคบางกลุ่มคือใช้งานยาก อุปกรณ์เสียไม่มีคนดูแล แต่ mind จะสร้างมาตรฐานใหม่ของ IoT Smart Home Solutions  ด้วยการนำบริการมืออาชีพครบวงจรมาผสานรวมกับ Smart Home Device ที่เป็น Lazy-Friendly Technology ทั้งยังเป็นโซลูชันแบรนด์แรกในไทยที่เชื่อมต่อ Device ได้ไม่จำกัดแบรนด์ ช่วยให้ผู้บริโภคใช้งานได้ง่าย สะดวกสบาย เข้าถึงผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน”

นอกจากนี้ เอสซีจี ตั้งเป้าหมายว่าจะเดินหน้าติดตั้งโซลูชัน mind ในที่อยู่อาศัยกว่า 100,000 ยูนิต และพาแบรนด์ mind ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้าน IoT Smart Home Solutions ในภูมิภาคอาเซียนในปี 2025 แล้วจะขยายสู่ตลาดระดับโลกภายใน 4 ปีด้วย

ด้านคุณนันทพัชร์ ศรีสุวรรณ Head of Sales and Marketing, SCG Digital Office กล่าวเสริมว่า จากการศึกษา Customer Insight พบว่า คนไทยบางส่วนยังคงมองว่า ระบบสมาร์ทโฮมมีความยุ่งยากซับซ้อน สินค้าเสียก็ไม่มีคนดูแล ทางบริษัทจึงออกแบบให้มีทีมงานมืออาชีพที่เปรียบเสมือน “Sommelier of Smart Home Solutions” ที่สามารถดูแลให้คำปรึกษา ลงพื้นที่จริงถึงบ้านของลูกค้า ประเมินแล้วออกแบบติดตั้งโซลูชันที่จำเป็นและเหมาะกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย โดยที่ลูกค้าไม่ต้องประเมินหรือตั้งค่าอุปกรณ์เองให้ยุ่งยากร่วมด้วย

ทั้งนี้ Smart Home Solutions ภายใต้แบรนด์ mind ประกอบด้วย mind Solutions โซลูชันอัจฉริยะรูปแบบ Mobile App และ Home App เชื่อมต่อสั่งการทุกอุปกรณ์ Smart Home ซึ่งผู้บริโภคสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ตามความต้องการ ได้แก่

1. เซฟดี (Saving) เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานภายในที่อยู่อาศัย ด้วยโซลูชันตรวจจับการทำงาน และควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติด้วย Smart Switch เหมาะสำหรับสายรักษ์โลก

2. อยู่ดี (Well-being) เสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย ด้วยคุณภาพอากาศที่ดี ลดมลพิษ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ลดความชื้นในห้องน้ำซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดเชื้อรา เจาะกลุ่มผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ หรือครอบครัวที่มีเด็กเล็กและผู้สูงอายุ

3. ไยดี (Caring) ส่งผ่านความห่วงใยไปยังคนในครอบครัว ด้วยโซลูชันดูแลเด็กเล็กและผู้สูงอายุ สามารถตรวจจับ และแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินได้ทันที หรืออุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงโซลูชันดูแลความปลอดภัยรอบบ้าน

4. ฟีลดี (Feeling) สร้างสุนทรียะการอยู่อาศัย ด้วยการปรับแสง เสียง กลิ่น ให้เข้ากับทุกอารมณ์ เลือกโหมดสร้างบรรยากาศได้หลากหลาย ทั้งโหมดโรแมนติก โหมดผ่อนคลายยามรับประทานอาหารกับครอบครัว หรือโหมดปลุกพลังงานให้พร้อมกับการทำงาน

จุดเด่นของ mind

คุณนันทพัชร์ กล่าวว่า จุดเด่นของ mind มี 3 ด้าน ดังนี้

Completely Integrated โซลูชันที่สามารถเชื่อมต่อการทำงานระหว่างแอปพลิเคชัน mindร่วมกับอุปกรณ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ไม่จำกัดแบรนด์ผ่านสัญญาณ WiFi ให้สามารถเปิด-ปิดการทำงานได้อัตโนมัติ โดยวิเคราะห์ และประมวลผลจากข้อมูลการใช้งานของผู้อยู่อาศัย

Completely Secured มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลผู้อยู่อาศัยกับ Trinity Edge Gateway ระบบ IoT Ecosystem Platform ที่เชื่อมต่อการทำงานของนวัตกรรมต่างๆ ภายในบ้านได้แบบไร้รอยต่อ พร้อมจัดเก็บข้อมูลบน Cloud ประสิทธิภาพสูงที่พัฒนาและดูแลการทำงานโดยคนไทย ปลอดภัยตั้งแต่ที่ตั้ง Server จนถึงการเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์อื่นๆ ทั้งยังใช้ระบบ SCG ID ระบบการยืนยันตัวตนผู้ใช้งานที่มีความปลอดภัยสูง ใช้งานง่าย สะดวก ปลอดภัย ที่มาพร้อมสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์จากเครือ SCG และพันธมิตรชั้นนำ อาทิ ส่วนลดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนลดสินค้าในเครือ SCG Home ส่วนลดโรงแรม

Completely Managed บริการการดูแลเต็มรูปแบบจากทีมงานมืออาชีพของเอสซีจี ตั้งแต่การให้คำปรึกษาการออกแบบ ให้เหมาะสมกับความต้องการผู้ใช้ พร้อมหลากหลายบริการครบวงจรตั้งแต่ก่อนติดตั้ง ระหว่างติดตั้ง จนถึงหลังติดตั้ง พร้อมทีมห้องปฏิบัติการ คอยแจ้งเตือนหากเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือมีสัญญาณแจ้งเตือนความผิดปกติ และทีมคอลเซ็นเตอร์ ให้ความช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยทันทีตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ เอสซีจี มุ่งหน้านำแบรนด์ mind เจาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจ (B2B) ที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจออกแบบ และบริษัท รับสร้างบ้าน โดยอยู่ระหว่างการพูดคุยกับหลากหลายบริษัท เพื่อร่วมกันส่งมอบแพ็คเกจที่ตอบโจทย์บ้านอัจฉริยะของผู้บริโภค และตั้งเป้าขยายการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ ขณะที่ลูกค้ารายบุคคล (B2C) จะให้บริการให้คำปรึกษาและติดตั้ง Smart Home Solutions ผ่าน Online Store รูปแบบใหม่ ซึ่งเอสซีจีได้พัฒนาร่วมกับพันธมิตรผู้พัฒนาอุปกรณ์อัจฉริยะ คาดว่าพร้อมจะให้บริการในปลายปีนี้

ขณะเดียวกัน เอสซีจี ยังเดินหน้าขยาย IoT Smart Home Ecosystem ในประเทศไทย ด้วยการจับมือพันธมิตรชั้นนำ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ตั้งแต่หน่วยงานที่ส่งเสริมด้านเทคโนโลยี ผู้พัฒนาอุปกรณ์อัจฉริยะ ผู้ให้บริการเทคโนโลยี ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร สถาบันการศึกษา และผู้ประกอบการ SME ด้วย

 


แชร์ :

You may also like