EST.33 (เอสสามสาม) ร้านอาหารสไตล์ไทยฟิวชั่น ผลิตเครื่องดื่มในรูปแบบ Microbrewery ฉลองครบรอบ 13 ปี เปิดตัว 10 เมนูพิเศษ ที่นำเอาวัตถุดิบท้องถิ่นไทย (Local ingredients) มาผสมผสาน รังสรรค์เป็นเมนูอาหารในสไตล์ไทยฟิวชั่น พร้อมเสิร์ฟคู่ 10 เบียร์ใหม่ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำกัน
สำหรับ 10 สุดยอดเบียร์หรือ Top 10 Beers EST.33 ได้รังสรรค์เบียร์แต่ละตัวให้มีความพิเศษและเอกลักษณ์ที่แตกต่าง รวมทั้งมีรสชาติใหม่ๆ ส่งตรงให้ลูกค้าที่มาลิ้มลองเฉพาะที่ “EST.33” เท่านั้น เบียร์ทั้ง 10 รสชาติ ได้แก่ 1.Lager (ลาเกอร์) ที่ใช้วัตถุดิบข้าวหอมมะลิไทยกับฮอปส์จากฝั่งยุโรป 2.Kopper (คอปเปอร์) เบียร์ที่ทำมาจากข้าวกาบา หรือข้าวกล้องงอกชั้นดีเพื่อให้ได้สีทองแดง 3.Snowy (สโนวี่) ไวเซ็นเบียร์ที่โดดเด่นของทางร้าน 4.33 Pale Ale (33 เพลเอล) ที่ทำจาก Cascade ฮอปส์เก่าแก่รุ่นบุกเบิกของสหรัฐฯ มาเป็นตัวชูโรง 5.Dark (ดาร์ค) ที่มีเอกลักษณ์จากข้าวเหนียวดำหรือข้าวก่ำ 6.Alarm (อร่าม) เบียร์ลาเกอร์น้องใหม่ ที่ปรุงแต่งจาก Simcoe ฮอปส์โลกใหม่แนว American Hops สร้างจุดเด่น รวมถึงเบียร์กลุ่มไอพีเอ (IPA) อย่าง Eclipse & 33Bittersweet ถัดมาเป็นเครื่องดื่มใหม่สุดพิเศษ Jubilee ที่จัดทำขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองโดยเฉพาะ
ตลอดระยะเวลา 13 ปี EST.33 ยังคงพัฒนาเบียร์สัญชาติไทยเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค ซึ่งปีนี้มี 10 รสชาติไฮไลท์เพื่อเสิร์ฟกลุ่มเป้าหมาย และล่าสุดเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในปีที่ 13 ก็จะมีการทยอยเปิดตัวเบียร์รสชาติใหม่ในช่วงปลายปีอีก 1 รสชาติ ต้อนรับช่วงเวลาเทศกาลส่งท้ายปลายปี
ด้าน Top 10 Menu เป็นเมนูที่ทางร้าน EST.33 แนะนำโดยเฉพาะ โดยสร้างสรรค์มาจากการให้สุดยอดเชฟของร้าน EST.33 ทั้ง 2 สาขา แข่งขันกันครีเอทเมนูใหม่ๆ แล้วผ่านการคัดเลือกจนได้มาเป็น 10 เมนูไทยฟิวชั่นของเชฟ EST.33 ประกอบด้วย Appetizer 6 เมนู บร็อคโคลี่หนำเลี๊ยบ มีหนำเลี๊ยบครัมเบิ้ล ที่ช่วยเพิ่มรสชาติที่กลมกล่อมและ texture ความกรุบกรอบให้กับจานนี้ เฟรนช์ฟรายส์เบรคแตก วาฟเฟิลฟรายส์ชุบแป้งกล้วยทอดของไทย ทำให้เวลาทานจะได้กลิ่นอายกล้วยทอดไปด้วย ทานคู่กับซอสทรัฟเฟิลมาโย รสชาติกลมกล่อม พล่าแซลมอน พล่ารสแซ่บกับเครื่องสมุนไพรหอมๆ น้ำตกเบคอนรมควัน เบคอนสเต็ก คลุกเคล้ากับน้ำตกดั้งเดิมสไตล์ไทย สูตรเฉพาะของร้าน EST.33 สะเต๊ะเวียดนาม ไก่สะเต๊ะทานคู่กับข้าวเกรียบเวียดนาม ได้ความหอมจากถั่วและเครื่องเทศ สลัดกุ้งฝอยทอดกรอบกับมะม่วงน้ำดอกไม้ มี texture ความกรุบกรอบจากกุ้งฝอยชุบแป้งทอด ตัดเลี่ยนด้วยความเปรี้ยวหวานของมะม่วงสุกน้ำดอกไม้ ราดด้วยน้ำสลัดขิงปิดท้าย รสชาติกลมกล่อม
สำหรับ 4 เมนูเมนคอร์ส มีทั้งคาเปลลินีสไตล์อีสาน ซ่อนกลิ่นอายความเป็นไทยของสมุนไพรไทยที่นำลงไปผัดกับหมูสับ ให้ได้กลิ่นหอมสมุนไพร รสชาติจัดจ้าน พิคานย่ากับเกลือ 3 ภาค เนื้อพิคานย่า มันด้านบนถือเป็นจุดเด่น กลิ่นหอมและได้รสชาติเนื้อที่เข้มข้นที่รับประทานคู่กับเกลือจาก 3 ภาคของไทย ไก่ทอดสามสหาย ไก่ซูวี เนื้อนุ่มฉ่ำทอดจนเหลืองทองกรอบ รับประทานคู่กับหอมหัวใหญ่ ขิงคาราเมลไลซ์ ซอสมัสตาร์ดและซอสกะหล่ำม่วง อร่อยกลมกล่อม ข้าวหน้าเนื้อย่างไฟ ข้าวหอมมะลิผัดกับมันเนื้อหอมๆ รับประทานคู่กับเนื้อเทนเดอร์ลอยน์ medium rare และไข่ดอง อร่อยมาก
จะเห็นได้ว่าตลอดปีที่ 13 ของ EST.33 ตั้งใจสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ทั้งเบียร์และอาหารมาเสิร์ฟให้กับลูกค้าได้แฮงก์เอาท์ผ่อนคลายในช่วงเวลาสังสรรค์ตลอดปี จนกลายเป็นร้านอาหารคู่ใจคนรุ่นใหม่ ที่ส่งมอบทั้งประสบการณ์ รสชาติอาหารและเครื่องดื่มกลมกล่อมลงตัว