เอาใจสายเมา “มาม่า” เตรียมผุด MAMA Station RCA เจาะคนทำงาน ลูกค้าคอนโดมิเนียม และนักดื่มสายปาร์ตี้ ชูจุดเด่นสาขาใหญ่-เปิดบริการลากยาวตี 1 (ปิดพร้อมผับบาร์) ดีเดย์ 11 ธันวาคม 2566 นี้
หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของการสร้างแบรนด์ “มาม่า” ให้เติบโตในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีหลากหลายรูป ทั้งการต่อยอด Future Food พัฒนาผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ๆ ตามกระแสและเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคได้เห็นมาม่าในรูปแบบใหม่จากร้าน “ร้านอาหาร” รวมทั้งสร้าง Brand Awareness สร้างการรับรู้ว่า “มาม่า” ไม่ใช่แค่สินค้าซอง แต่ทำเป็นเมนูได้หลากหลาย และท้ายสุดกับการสร้างผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการผ่านโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์อย่าง MAMA Station ที่กำลังเป็นกระแสในขณะนี้
คุณพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มาม่า กล่าวว่า จริงๆ มาม่าเรา มีร้านอาหาร แซ่บมิวเซี่ยม ที่ เทอมินอล 21 อโศก และร้าน Crazy MAMA ที่ไอคอนสยาม โดยทั้ง 2 สาขาเปิดมาก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ยอดขายนิวไฮเพิ่มขึ้นทุกวัน แม้จะยังไม่ถึงเป้าที่ต้องการแต่ก็สามารถไต่ระดับขึ้นได้ทุกวัน
ขณะที่ในส่วนของ MAMA Station แม้ที่ผ่านมาจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มเป้าหมาย จนกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ แต่ว่ายังเป็นโมเดล Pilot หรือช่วงของการนำร่องทำตลาดที่เพิ่งจะเริ่มต้นอยู่ ช่วงที่ผ่านมาอาจจะมีข่าวออกไปว่ามี 100 ร้าน แต่จริงๆปัจจุบันเปิดได้ 3-4 ร้าน ซึ่งแน่นอนการเปิดตัวดังกล่าวในแง่ของแบรนด์ดิ้งสร้างกระแสได้ดีกว่ายอดขายมาก ดังนั้นจากนี้ไปบริษัทจะเดินหน้าทำตลาดมากขึ้นเพื่อสร้างแบรนด์ดิ้งขยายวงกว้างออกไป
คุณพันธ์ พะเนียงเวทย์
“การได้เห็น MAMA Station ในช่องทางสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ นั้นสำคัญกว่ายอดขายเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าเราจะไปตั้งสาขาที่ไหน จะเป็นมหาสารคาม หรือ RCA สุดท้ายก็คือที่เดียวกันแบรนด์เราเหมือนกัน นั่นคือเรื่อง Brand Awareness แน่นอนปีหน้า (2567) จะได้เห็นช่องทางการสื่อสารแบรนด์ ช่องทางการเติบโตใหม่ๆ ทั้งออนไลน์ KOL หรือแม้กระทั้งการสร้างแบรนด์ผ่านช่องทางร้านอาหารมากขึ้นอย่างแน่นอน” คุณพันธ์ พะเนียงเวทย์ กล่าว
เตรียมผุด MAMA Station RCA สาขาใหม่ ปิดพร้อมผับ เอาใจสายเมา ก่อนกลับบ้าน
สำหรับ MAMA Station สาขา RCA ที่กำลังเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 ธันวาคม 2566 นี้ “คุณพันธ์ พะเนียงเวทย์” บอกว่า สาขานี้จะเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ที่เคยเปิดตัวมาอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นทำเลที่เหมาะสม มีลูกค้าที่หลากหลายทั้งกลุ่มคนทำงาน พนักงานออฟฟิต ลูกค้าคอนโดมิเนียม และกลุ่มผู้ที่ไปสังสรรค์ยามค่ำคืน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ทางร้านต้องการขยายเข้าไปมากขึ้น
ความพิเศษของสาขานี้คือพื้นที่ที่จะมีขนาดใหญ่มากขึ้น เปิดให้บริการยาวนานขึ้น ซึ่งจะปิดให้บริการพร้อมผับบาร์ในย่าน คาดการณ์ว่าน่าจะราวตี 1 หรือ ตี 2 ทั้งนี้เพื่อรองรับกลุ่มนักดื่ม นักเที่ยว ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในช่วงตอนกลางคืน
“เราได้เรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้าว่าคนชอบกินมาม่าตอนเมา ซึ่งเรานำ Insight เหล่านี้มาใช้ในการขยายสาขา MAMA Station แห่งใหม่นี้ นั่นคือต้องตอบโจทย์ลูกค้านักดื่มในตอนกลางคืนให้ได้ด้วย กล่าวคือ เมนูในร้านต้องตอบโจทย์คนที่เข้ามารับประทานก็พยายามทำให้คนที่ออกจากร้านมาม่าไป หลังกินเสร็จเขาหายเมาก่อนขับรถ ซึ่งแน่นอนนอกจากขายอาหารแล้ว เราจะไม่ปล่อยให้คนที่ยังเมาอยู่ออกจากร้านเราไปแน่นอนและนั้นคือกิมมิกของร้านสาขานี้”
ทุ่ม 2,000 ล้าน ตั้งโรงงานใหม่รอบ 20 ปี ขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 30-40% รองรับ 10 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ปัจจุบันการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท แม้เชิงปริมาณจะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก แต่เทรนด์ต่างๆที่เข้ามาทั้งการบริโภคหม่าล่า การครีเอทเมนูใหม่ ทำให้ตลาดยังมีดีมานด์อย่างต่อเนื่อง นั่นเองเป็นเหตุผลให้มาม่ายังคงเดินหน้าสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ
ซึ่งนอกจากโมเดลใหม่แล้วอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญของยักษ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเมืองไทยรายนี้คือ การหวนลงทุนโรงงานครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทในช่วง 3 ปีนับจากนี้ เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 30-40% รองรับทั้งตลาดส่งออกและในประเทศ
เบื้องต้นจะเป็นการขยายโรงงานบนที่ดิน 50-60 ไร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาดและพิกัดทีแน่นอน โดยอาจจะมีความเป็นไปได้ทั้ง ระยอง หนองคาย มุกดาหาร และจะสามารถเริ่มดำนเนินการได้ปี 2024 และก่อสร้างในปี 2025 แล้วเสร็จในปี 2026-2027 โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะเป็น Smart Factory รองรับการขยายตลาดของบริษัทได้ในช่วง 10 ปีข้างหน้า (หลังเริ่มผลิตครั้งแรก)
“โรงงานใหม่ของเราจะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 เฟส หรือพื้นที่โรงงาน 2 หลัง ภายในมีไลน์การผลิตที่ทันสมัยโรงงานละ 4 เครื่อง ซึ่งจะสามารถ ขยายกำลังการผลิตได้ 30-40% และใช้คนงานราว 700-800 คน ซึ่งมีจำนวนน้อยลง เพราะใช้เทคโนโลยีมากขึ้น”
อย่างไรก็ตามปัจจุบันมาม่าผลิตสินค้าแบบอยู่ที่ 1 ล้านหีบต่อวัน (180 ซองต่อหีบ) หรือคิดเป็น 2,000 ล้านซองต่อปี แบบถ้วยเดือนละ 36 ล้านถ้วย หรือคิดเป็น 450 ล้านถ้วยต่อปี จากโรงงานผลิต “มาม่า” มีจำนวนทั้งหมด 8 แห่ง แบ่งเป็นในประเทศ 5 แห่ง โดย 3 แห่ง เป็นโรงงานผลิตเส้นบะหมี่ ได้แก่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 1 แห่ง กำลังการผลิต 261.53 ตันต่อวัน จังหวัดลำพูน 1 แห่ง กำลังการผลิต 136.08 ตันต่อวัน และจังหวัดระยอง 1 แห่ง กำลังการผลิต 94.01 ตันต่อวัน และโรงงานผลิตเส้นขาวจังหวัดราชบุรีจำนวน 2 แห่ง มีกำลังการผลิตรวม 60.32 ตันต่อวัน และโรงงานผลิตในต่างประเทศอีก 4 แห่ง ได้แก่ เมียนมาร์ กัมพูชา บังคลาเทศ และฮังการี มีกำลังการผลิตรวม 16,044 ตันต่อปี
ปัดฝุ่นรุกตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจีน–อินเดีย อีกระลอก ดันยอดขายต่างประเทศเพิ่ม
นอกจากเรื่องการลงทุนครั้งใหญ่ อีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตาของมาม่าคือ การปัดฝุ่นในตลาดประเทศจีนอีกครั้ง หลังร้างลาการทำตลาดไปนานตั้งแต่ปี 2541 ทั้งที่เมืองคุณหมิง และชิงเต่า ก่อนจะหันไปจับมือพันธมิตรในจีนทำตลาดแพ็คเกจจิ้งแทน แน่นอนการหันกลับมาทำตลาดในจีนครั้งนี้มองว่าเป็นโอกาสทางการเติบโตมหาศาล เนื่องจากสินค้าไทยที่กำลังได้รับความนิยม บวกกับพฤติกรรมการรับประทานของคนจีนเปลี่ยนไป นิยมสินค้าจากไทยมากขึ้น โดยเฉพาะรสต้มยำกุ้งที่เป็นทั้งของฝากและซื้อกลับไปรับประทาน โดยจะเน้นสื่อสารการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ KOL และแพลตฟอร์ม Tik Tok เป็นต้น
“ทั้งแบบถ้วย และบรรจุภัณฑ์ต่างๆคือ Know How ที่เราได้มาและทำร่วมกับจีน ซึ่งนอกจากจะวางจำหน่ายเป็นบรรจุภัณฑ์ในจีนแล้ว เรายังนำมาใช้ในการกระบวนการผลิตแพ็คเกจจิ้งที่ไทยอีกด้วย แน่นอนการกลับไปรุกตลาดครั้งนี้หากทำยอดขายได้ตามเป้าเรามั่นใจว่าจะสามารถมีรายได้มหาศาลมากกว่าไทยแน่นอน”
ขณะเดียวกันก็มีการเจรจาพันธมิตรเพื่อทำตลาดในอินเดียอย่างเป็นทางการอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีตลาดที่จะขยายเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยุโรปและอเมริกา รวมถึงภูมิภาคอาเซียนอย่างเวียดนาม โดยปัจจุบันมาม่าผลิตและจำหน่ายไปแล้ว 68 ประเทศทั่วโลก
สำหรับในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา “มาม่า” มีรายได้ 15,568.52 ล้านบาท แบ่งเป็นในประเทศ 11,306.49 ล้านบาท ต่างประเทศ 4,262.03 โดยสิ้นปี 2566 นี้ คาดว่ามีรายได้ 23,000-25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% ขณะที่กลยุทธ์ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ผลประกอบการในปี 2567 เติบโตขึ้น 5-7% และในอีก 3-4 ปีข้างหน้าจะได้เห็นมาม่าทำยอดขายได้ 35,000 ล้านบาทแน่นอน นอกจากนี้ยังตั้งเป้าอนาคตเพิ่มสัดส่วนการขายต่างประเทศอยู่ที่ 40 – 50 % จากปัจจุบันสัดส่วนการขายในประเทศ 70 % ต่างประเทศ 30 %
อ่านเพิ่มเติม
เปิดบริการแล้ว MAMA Station สาขาต้นแบบเมนู ‘มาม่า’ เล็งขายแฟรนไชส์ หนุนสร้างเจ้าของกิจการร้านอาหาร