เกิดเหตุพนักงาน Starbucks ในสหรัฐอเมริกาประท้วงหยุดงานครั้งใหญ่ในวัน Red Cup Day ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำปีของ Starbucks เอง ด้าน Starbucks ออกมาเผยว่า แม้จะมีการหยุดงานประท้วง แต่ก็ยังมีสาขาที่เปิดให้บริการอีกราว 10,000 สาขา และลูกค้าสามารถรับถ้วย Red Cup ได้ต่อไป
เหตุที่การประท้วงหยุดงานเกิดขึ้นในวันดังกล่าว ทางสหภาพแรงงานระบุว่า เพราะ Red Cup Day เป็นวันที่ Starbucks มีนโยบายแจกถ้วยกาแฟแบบนำกลับมาใช้ใหม่ได้ให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโปรโมชันของทางร้าน และทำให้ร้านสาขาต้องรับมือกับลูกค้าจำนวนมากในวันดังกล่าว
อย่างไรก็ดี สิ่งที่พนักงานถ่ายทอดให้กับสำนักข่าวต่างประเทศฟังก็คือ ทาง Starbucks กลับไม่มีนโยบายจัดหาเพิ่มเติมเพื่อมาช่วยพนักงานในแต่ละสาขาได้ จึงทำให้พนักงานรู้สึกเหมือนถูกทิ้งขว้าง และต้องทำงานภายใต้เงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมจนเกิดภาวะหมดไฟ (กิจกรรม Red Cup Day ในปีนี้จัดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี้ และเป็นที่มาของการประท้วงหยุดงานดังกล่าว)
ทางสหภาพแรงงานคาดว่า มีพนักงาน Starbucks ในสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ราว 5,000 คน และมีประมาณ 30 สาขาที่เริ่มหยุดงานตั้งแต่วันพุธ
ทั้งนี้ การประท้วงหยุดงานดังกล่าวถือเป็นการประท้วงหยุดงานครั้งที่ 5 ของพนักงาน Starbucks ในรอบ 2 ปี (นับตั้งแต่มีการจัดตั้งสหภาพแรงงานขึ้นครั้งแรกในปี 2021) โดยในวัน Red Cup Day เมื่อปีที่ผ่านมาก็มีการประท้วงหยุดงานเช่นเดียวกัน และมีร้านสาขาในสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมประมาณ 100 แห่ง
แต่หากมองไปที่ผลประกอบการกลับพบว่า การประท้วงหยุดงานของพนักงาน Starbucks กลับไม่สามารถสร้างผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทได้สักเท่าใด โดยผลประกอบการปี 2023 (สิ้นสุดเมื่อ 1 ตุลาคม 2023) Starbucks มีรายได้ 36,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 12%