ด้วยเทรนด์การบริโภคสื่อในปัจจุบันนี้ ทำให้ภาพยนตร์โฆษณาในรูปแบบ Thematic มีพบเห็นน้อยลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความยาวที่เรียกได้ว่าเป็น Long-Form Content แต่แบรนด์ “บางจาก” กลับมีความเชื่อที่แตกต่างออกไป นั่นทำให้ผลงานชุด “จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง” (Regenerative Soul) หรือที่คนบางจาก เรียกชื่อเล่นว่า #กระจกกับดอกไม้ สร้างความแตกต่างโดดเด่นขึ้นมา
ภาคต่อ ข้าวแกง
คุณชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผมรู้ดีว่าพฤติกรรมของคนปัจจุบันนี้ความสนใจสั้นมาก แต่เราอยากให้ความสำคัญกับคุณภาพ เราอยากให้ความรู้สึกว่าเราให้ของที่ดีที่สุดกับตลาดอยู่เสมอ สิ่งที่ผมบรีฟกับทางทีมงานเอเจนซี่ก็คือ อยากได้อะไรที่มันมากกว่ามุกตลก และอยากให้คนดูแล้วดูอีก”
หนังสั้นโฆษณาเรื่อง “จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง” เป็นการต่อยอดจากหนังโฆษณา “ความสุขที่ยั่งยืน คือกำไรที่มั่นคง” หรือที่หลายคนเรียกว่า “ข้าวแกง” ที่สร้างสรรค์มาเมื่อ 5 ปีก่อน ในโอกาสครบรอบ 35 ปีบางจาก และได้รับเสียงตอบรับอย่างดี ด้วยเนื้อหาที่กินใจ รวมกับการสื่อสารที่จริงใจของแบรนด์ ทำให้คนเกิดการจดจำและส่งต่อด้วยตัวเอง จนปัจจุบันมียอดรับชมกว่า 50 ล้านวิว และยังถูกแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากมาย
และในช่วงเวลาที่ “บางจาก” ก้าวสู่ปีที่ 40 การสื่อสารเพื่อถ่ายทอดจิตวิญญาณของแบรนด์ เกิดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปท์ “Regenerative Soul” หรือ “จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง” เพื่อสะท้อนตัวตนคนบางจาก ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมมาตลอดเวลากว่า 40 ปี โดยบอกเล่าเรื่องราวผ่านหนังสั้นโฆษณาความยาว 5.26 นาที ที่มีเนื้อหาสุดกินใจ
เล่าเรื่องคนบางจาก ตามมุมมองและประสบการณ์
CEO บางจากฯ บอกว่า “เราไม่ได้ทำแค่ธุรกิจ แต่เราดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมไปด้วย เพราะผมเชื่อว่ามนุษย์อยู่บนโลกมามากกว่าหมื่นปี แต่ชั่วชีวิตคนๆ หนึ่งไม่มีใครอยู่เกิน 150 ปี นั่นแปลว่าเรามีคนรุ่นใหม่มาแทนคนรุ่นเก่าอยู่เสมอ และคนรุ่นใหม่นี้ก็จะสร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่าคนที่เคยอยู่มาก่อน นั่นทำให้มนุษย์เรามีการพัฒนาตัวเอง คนบางจากเองก็เช่นกัน เราเชื่อในการพัฒนาไม่หยุดนิ่ง และทำสิ่งใหม่ๆอยู่ตลอด”
จากไอเดียดังกล่าว นำมาสู่หนังสั้นโฆษณา “จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง” (Regenerative Soul) เล่าเรื่องราวของเด็กชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และกล้าลงมือทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อน้องสาวของตัวเอง ท่ามกลางการตั้งคำถามจากสังคมรอบข้างถึงความเป็นไปได้ในสิ่งที่เขาทำ แต่เมื่อเด็กชายได้พิสูจน์ให้เห็น คนรอบข้างจึงละทิ้งความแคลงใจ และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือ จนกระทั่งกลุ่มคนทั้งหมดสามารถเอาชนะอุปสรรคของสภาพแวดล้อม และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนตัวตนของบางจากที่มุ่งมั่นเอาชนะความท้าทายและบริบทแวดล้อม ในขณะที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการรังสรรค์สิ่งใหม่ๆ ผ่านนวัตกรรมสีเขียวและการสร้างสมดุลธรรมชาติ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ
คุณชัยวัฒน์ เล่าว่า “หนังเรื่องนี้ดูแล้ว ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน แต่มันมีความเป็นตัวตนของคนบางจาก ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนที่ผมเข้ามา เรากำลังก้าวเข้าสู่ความเป็นองค์กรที่ Dependent มีหลายคนมองว่าเราจะอยู่รอดเหรอ เต็มที่ก็ 2-3 ปีมั้ง แต่ 10 ปีผ่านไป เราไม่ใช่แค่อยู่รอด แต่เราเติบโตขึ้นทุกปี”
ซึ่งก่อนที่จะออกเผยแพร่สู่สาธารณชน หนังก็ถูกเปิดให้กับพนักงานฝ่ายในองค์กรได้ชมก่อน แล้วก็ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ พนักงานรับรู้ถึงจิตวิญญาณของความเป็น “คนบางจาก” ขณะที่ผลตอบรับในกลุ่มผู้ชมก็เป็นที่น่าพอใจ ทั้ง ๆ ที่หนังเรื่องนี้เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย และกินระยะเวลากว่า 5.26 นาที แต่เพียงแค่ 10 วันก็ทะลุ 3 ล้านวิวเข้าไปแล้ว”
และหนังสั้นโฆษณาเรื่องนี้ยังคงได้รับความสนใจต่อไปเรื่อยๆ ด้วยเนื้อเรื่องที่กินใจ โปรดักชันยิ่งใหญ่แบบที่หาได้ยากสำหรับวงการโฆษณาในปัจจุบัน ซึ่งสะกดให้ผู้ชมสนใจได้ตั้งแต่แรก และร่วมลุ้นไปกับเรื่องราว จนกระทั่งพบความสำเร็จในที่สุด
นอกเหนือจากเรื่องราวที่นำเสนออย่างน่าประทับใจ “จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง” ยังตอกย้ำความเป็น “คนบางจาก” ให้ผู้บริโภคคนไทยรับรู้มากขึ้น เหนือสิ่งอื่นใดก็คือหนังสั้นโฆษณาเรื่องนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแรงบันดาลใจ ให้ผู้ชมลุกขึ้นมากล้าลงมือเปลี่ยนแปลงสิ่งดีๆ ให้กับสังคม เพราะหนังเรื่องนี้ทำให้เราเชื่อว่า “จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง สร้างทุกสิ่งให้เป็นไปได้”