ภาคการเงินการธนาคารถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทในการขับเคลื่อน “ความยั่งยืน” อย่างเห็นได้ชัด หนึ่งในนั้นก็คือ “ธนาคารกรุงศรี” ที่ไม่เพียงแต่วางเป้าหมายตามหลักการ “การธนาคารพาณิชย์ที่มีจุดยืนเพื่อความยั่งยืน” (Banking with Purpose) เท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินงานด้าน ESG อย่างต่อเนื่องและจริงจังครบทุกมิติ
Net Zero Mission
จากวิกฤตโลกร้อนปัจจุบัน กลายเป็นวิกฤตโลกเดือด ปี 2564 ที่ผ่านมา กรุงศรีได้กำหนดวิสัยทัศน์สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการทางธุรกิจของธนาคารภายในปี 2573 และจากบริการทางการเงินทั้งหมดภายในปี 2593 และคิ๊กออฟโครงการ Krungsri Race to Net Zero ผนึกกำลังความร่วมมือของพนักงานกรุงศรี กรุ๊ปกว่า 20,000 คนร่วมรับมือกับวิกฤตการณ์ดังกล่าว สร้างพลังขับเคลื่อนให้โลกไปสู่ความยั่งยืน
เริ่มจากการปลูกฝังแนวคิดและสร้างวัฒนธรรม Net Zero ในองค์กร ในการช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผ่านวิถีการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันแบบคาร์บอนต่ำ เสริมสร้างศักยภาพของพนักงานด้วยการพัฒนาหลักสูตรอบรมอย่างเข้มข้นและครอบคลุม รวมทั้งสนับสนุนด้านทรัพยากรที่เกี่ยวข้องเพื่อเสริมสร้างความความรู้ ความเข้าใจด้านแนวคิด นโยบาย และเป้าหมาย Net Zero
ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนมาใช้พลังงานทางเลือก อย่างการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอาคารสำนักงานหลักและ 50% ของสาขา Stand Alone ภายในปี 2573 การเปลี่ยนรถยนต์ส่วนกลางเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 30% ภายในปี 2573 การส่งเสริมการใช้ EV Bike รับ-ส่ง เอกสาร และรถ EV ด้วยการเปิดสถานีชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้า ที่สำนักงานใหญ่ พระราม 3 โดยพนักงานกรุงศรีเอง และประชาชนในพื้นที่ใกล้ธนาคารก็สามารถนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้บริการได้ พร้อมริเริ่มโครงการ Krungsri Zero Waste ส่งเสริมการแยกขยะ ตั้งแต่ปี 2561 เพื่อขับเคลื่อนสู่องค์กรไร้ขยะ
ESG Finance
การให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG อย่างมาก ทำให้กรุงศรีส่งเสริมการพัฒนาตลาดการเงินยั่งยืนและการเงินสีเขียวในประเทศไทยอย่างชัดเจน โดยบูรณาการ ESG เข้าในกระบวนการดำเนินงานและบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบผนวกมิติด้าน ESG เข้าเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาให้สินเชื่อตามแนวทางการธนาคารอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Banking
ไม่ว่าจะเป็นลดการสนับสนุนทางการเงินแก่โรงไฟฟ้าพลังถ่านหินให้เหลือศูนย์ภายในทศวรรษนี้ และดำเนินนโยบายการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินอย่างโปร่งใส โดยเปิดเผยข้อมูลการปล่อยและเป้าหมายการปรับลดก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับการให้สินเชื่อและการลงทุนของธนาคาร
ในเวลาเดียวกันเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน เป็น 50,000-100,000 ล้านบาทภายในปี 2573 โดยคิดค้นและออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน อย่างสินเชื่อโซลาร์รูฟท็อป เพื่อผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการติดตั้งหลังคาโซลาร์รูฟ ทั้งยังรุกตลาดลูกค้าบุคคลด้วยสินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้รับเงินทุนที่เพียงพอเพื่อติดตั้งหลังคาโซลาร์รูฟในที่พักอาศัย โดยในอนาคตก็จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อนี้เพื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ด้วย
นอกจากนี้ยังร่วมกับ MUFG ให้ความรู้เกี่ยวกับ ESG Financing ในตลาดการเงินโลก ช่วยเหลือให้คำปรึกษา นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสังคม และการเงินเพื่อความยั่งยืนกับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ อาทิ สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน และหุ้นกู้ ESG รวมถึงให้สินเชื่อเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ ชี้ให้เห็นว่ากรุงศรีไม่ได้มีเป้าหมายการดำเนินการภายในองค์กร เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนฯ เท่านั้น แต่ยังสนับสนุนลูกค้าในการลดการปล่อยคาร์บอนฯ เช่นกัน และเมื่อปีที่ผ่านมา กรุงศรียังเป็นธนาคารแห่งแรกในประเทศไทยที่ออกตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) พร้อมตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเล (Blue Bond) เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และได้รับการสนับสนุนจาก IFC (บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ) เข้าลงทุน
ความมุ่งมั่น จริงจัง ชัดเจนกับการดำเนินงาน ESG ทำให้กรุงศรีประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจด้านความยั่งยืนผ่านดีลสำคัญมากมาย และเป็นผู้นำใน ESG Finance และยังขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดผู้จัดจำหน่าย ESG Bond ที่สำคัญยังเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งแรกที่ได้จัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรครอบคลุมทุกอาคารสำนักงาน สาขาธนาคาร และบริษัทย่อยในปี 2565 เป็นสมาชิกตั้งต้นของเครือข่าย Carbon Markets Club ในปี 2564 ตลอดจนเป็นธนาคารที่มีบทบาทสำคัญในการจัดทำประกาศเจตนารมณ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG Declaration ของสมาคมธนาคารไทย และยังเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่ได้รับรางวัลสำนักงานสีเขียว (ระดับดีเยี่ยม)
ผลความสำเร็จดังกล่าวยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีจุดยืนเพื่อความยั่งยืนของกรุงศรีได้ดีที่สุด