HomePR NewsNovo Nordisk ธุรกิจยายังเซ็กซี่อยู่ไหมในวันที่โลกไร้โรคระบาด

Novo Nordisk ธุรกิจยายังเซ็กซี่อยู่ไหมในวันที่โลกไร้โรคระบาด

แชร์ :

หากบรรดา Tech Company ขับเคลื่อนด้วยความต้องการสินค้าไฮเทคของผู้คนแล้ว ธุรกิจยาก็อาจเป็นธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการอยากมีร่างกายที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย เห็นได้จากมูลค่าาตลาดยาและเวชภัณฑ์ทั่วโลกที่สูงถึง 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 5-6% ต่อปี โดยปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโต ประกอบด้วย ประชากรโลกสูงวัย, การมีโรคเรื้อรังเพิ่ม และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทย อ้างอิงข้อมูลจากงาน TCELS Life Sciences Beyond Aspiration 2023 ภายใต้การกำกับดูแลของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พบว่าได้มีการระบุถึงมูลค่าตลาดยาและเวชภัณฑ์ในประเทศไทยว่าอยู่ที่ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 4-5% ต่อปี โดยเฉพาะกลุ่มโรคอ้วนและโรคเบาหวานที่กลายเป็นปัญหาสุขภาพของคนในปัจจุบัน

Mr. Enrico - Novo Nordisk Thailand pic3

คุณเอนริโก้ คานล บรูแลนด์ (Enrico Canal Bruland) รองประธานกรรมการและผู้จัดการทั่วไปของโนโว นอร์ดิสก์ ฟาร์มา ประเทศไทย จำกัด

คุณเอนริโก้ คานล บรูแลนด์ (Enrico Canal Bruland) รองประธานกรรมการและผู้จัดการทั่วไปของโนโว นอร์ดิสก์ ฟาร์มา ประเทศไทย จำกัด ให้ทัศนะว่า อัตราการเป็นโรคอ้วนทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นเกือบ 40% และในประเทศไทยก็เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ ผู้ที่มีน้ำหนักเกินและอ้วนยังเสี่ยงมีความเสี่ยงเป็นเบาหวานเพิ่มสูงขึ้นถึง 10% ทั่วโลก ซึ่งทำให้เป็นสถานการณ์ที่ประเทศต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญมากขึ้น

“เบาหวาน” ตลาดที่กำลังโตขึ้นเรื่อย ๆ

แม้ไม่อาจเปรียบโรคอ้วนและโรคเบาหวานได้กับตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีแนวโน้มเติบโตและนักลงทุนให้ความสนใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตลาดดังกล่าวกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องจริง ๆ เห็นได้จากตัวเลขผลประกอบการของผู้ที่อยู่ในธุรกิจดังกล่าว เช่น กรณีของ Novo Nordisk บริษัทที่อยู่ในวงการมายาวนานนับร้อยปี (ก่อตั้งในปี 1923) และปัจจุบัน พวกเขายังเป็นบริษัทที่มีมูลค่าถึง 5.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ สูงที่สุดในสหภาพยุโรปด้วย  (อ้างอิงจาก companiesmarketcap.com) โดยผลประกอบการในปี 2023 บริษัทมีรายได้ 2.3 แสนล้าน DKK (ประมาณ 1,207 พันล้านบาท) เติบโตจากปี 2022 36% และมีกำไรจากการดำเนินงาน 1.02 แสนล้าน DKK (ประมาณ 5.3 แสนล้านบาท)

นอกจากนั้น ยังมีส่วนแบ่งตลาด (ยากลุ่มโรคเบาหวาน) เพิ่มขึ้น 1.9% คิดเห็น 33.8% ของตลาดทั้งหมด และยอดขายเวชภัณฑ์ยาสำหรับโรคอ้วน ยังเติบโตเป็น 41.6 พันล้าน DKK หรือประมาณ 2.16 แสนล้านบาท) ด้วย

ความเซ็กซี่ของการเป็นบริษัทยา

การเติบโตนี้ จึงนำไปสู่หลาย ๆ โครงการสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เช่น โครงการช่วยเหลือเด็กที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานประเภทที่ 1 ในชื่อโครงการว่า Changing Diabetes in Children กว่า 52,000 คนทั่วโลกให้สามารถเข้าถึงยารักษาเบาหวานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นอกจากนั้น พบว่ายังการลงทุนที่เป็นรูปธรรม เช่น การขยายโรงงานเพิ่มเติมจากเดิมที่มี 5 แห่งใน เดนมาร์ก, บราซิล, สหรัฐอเมริกา ฯลฯ เพื่อให้การเข้าถึงยาทำได้รวดเร็วมากขึ้น ส่วนงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนา พบว่า ในปี 2023 พวกเขาใช้งบประมาณไปถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว

ธุรกิจยายังเซ็กซี่อยู่ไหมในวันที่โรคระบาดร้ายแรงอย่าง Covid ผ่านพ้นไปแล้ว คำตอบนี้จึงอาจเป็น “ใช่” โดยคุณเอนริโก้เผยว่า พวกเขายังมีอะไรให้ต้องทำอีกมาก โดยเฉพาะการต่อสู้กับโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของมนุษย์ทุกวันนี้ เช่น โรคเบาหวาน และโรคอ้วน แต่เมื่อวันหนึ่งที่โรคดังกล่าวหมดไป คุณเอนริโก้เผยว่า Novo Nordisk ก็พร้อมที่จะปิดบริษัท พนักงานพร้อมจะตกงาน และกลับบ้านด้วยความภาคภูมิใจที่ทำภารกิจดังกล่าวสำเร็จแล้วนั่นเอง

 


แชร์ :

You may also like