Erin Brewer ซีอีโอ “Lyft” แพลตฟอร์มเรียกรถคู่แข่ง Uber ออกมายอมรับความผิดพลาดในการแถลงผลประกอบการไตรมาส 4 ของบริษัท หลังปรากฏว่ามีเลขศูนย์เกินมา 1 ตัวในตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของรายได้ปี 2024 ด้านนักลงทุนที่ตัดสินใจซื้อขายผิดพลาดจากข้อมูลดังกล่าวได้เตรียมยื่นฟ้องให้ Lyft ชดใช้ในความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว
ความผิดพลาดในการแถลงผลประกอบการเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก แต่ก็เกิดขึ้นแล้วกับสตาร์ทอัพชื่อดังสัญชาติอเมริกัน เมื่อ Lyft ผู้ให้บริการเรียกรถระบุในเอกสารข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัทว่า มองเห็นโอกาสเติบโตด้านรายได้ในปี 2024 ถึง 5% หรือ 500 basis points ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมากของธุรกิจเรียกรถของสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ดี เมื่อเห็นตัวเลขดังกล่าว ซีอีโอของ Lyft อย่าง Erin Brewer ได้ออกมาชี้แจงกับนักลงทุนว่า ตัวเลขนี้ไม่ถูกต้อง และสิ่งที่ถูกต้องคือตัวเลขการเติบโตด้านรายได้ที่ 0.5% หรือ 50 basis points เท่านั้น โดยเขาได้ยอมรับว่าเป็นความผิดของเขาเองที่มีเลขศูนย์เกินมา 1 ตัวในเอกสารทางการเงินที่บริษัทเผยแพร่ออกไป แต่ก็ยอมรับด้วยว่า ยังรู้สึกขอบคุณที่พบความผิดพลาดนี้ได้ในที่สุด และแก้ไขมันได้ทัน
ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดการซื้อขายเปลี่ยนมือหุ้น Lyft มากกว่า 47.8 ล้านหุ้นในเวลาไม่กี่ชั่วโมงจากตัวเลขที่ผิดพลาดนั้น (อ้างอิงจาก New York Post) และทำให้มีนักลงทุนบางรายเตรียมยื่นฟ้อง Lyft ให้รับผิดชอบต่อความเสียหายด้วย อย่างไรก็ดี ตอนนี้หุ้นของ Lyft ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยไปอยู่ที่ 19.03 เหรียญสหรัฐฯ แล้ว (ช่วงที่เกิดดราม่าอยู่ที่ราคา 16.09 เหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น)
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 4 ของ Lyft นั้น พบว่าบริษัทมีรายได้ 1,220 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 4% โดยพบว่ามีการเรียกรถเพิ่มขึ้น 17%
สำหรับบริการที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นได้แก่ บริการเรียกรถไปยังสเตเดียม (Rides to stadiums) ที่เติบโตกว่า 35% ในปี 2023 เทียบกับปี 2022 ซึ่งปัจจัยที่ทำให้การเรียกรถเพิ่มขึ้นมาจากคอนเสิร์ตของศิลปินดัง เช่น Eras Tour ของ Taylor Swift หรือ Renaissance World Tour ของ Beyoncé รวมถึงอิเวนต์ด้านการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ นั่นเอง
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
เป็นเพื่อนกับเราได้ที่ LINE