เป็นสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว กับธุรกิจยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาที่พากันประกาศเลย์ออฟพนักงานกันอย่างพร้อมเพรียง โดยเราได้รวบรวม 5 บริษัทชื่อดังในตลาดสหรัฐอเมริกันที่ออกมาประกาศเลย์ออฟพร้อมเหตุผลที่ใช้ในการเลิกจ้าง ดังนี้
Nike เลิกจ้าง 2% ของพนักงานทั่วโลก
Nike ยักษ์ใหญ่ในวงการสปอร์ตแวร์ประกาศเลย์ออฟพนักงาน 2% ทั่วโลก จากพนักงานที่มีทั้งหมด 83,700 ตำแหน่ง โดยระบุว่า ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในสถานการณ์ที่ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า และผู้บริโภคก็ใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น อย่างไรก็ดี การออกมาประกาศดังกล่าวทำให้หุ้นของบริษัทเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาร่วงไปทันที 4%
ทั้งนี้ การเลย์ออฟพนักงานของ Nike คาดว่าจะช่วยให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายได้ราว 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยทางบริษัทระบุว่าจะแบ่งการเลย์ออฟออกเป็น 2 ช่วง การเลย์ออฟรอบแรกจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ และอีกกลุ่มหนึ่งจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4 ของปี
Cisco เลย์ออฟ 4,000 ตำแหน่ง
Cisco ยักษ์ใหญ่ด้านระบบเครือข่ายก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ประกาศเลย์ออฟพนักงาน 4,000 ตำแหน่ง จากพนักงานทั้งหมด 84,900 คนทั่วโลก โดยระบุว่า เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างองค์กรที่เคยประกาศไว้ ซึ่งคาดว่าจะเกิดค่าใช้จ่ายประมาณ 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เมื่อหันมองผลประกอบการ พบว่า ไตรมาสล่าสุดของ Cisco ทำกำไรได้ 2,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 65 เซนต์ต่อหุ้น ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่รายได้ลดลง 6% เหลือ 12,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อีกทั้งบริษัทยังคาดการณ์ด้วยว่าความต้องการฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ด้านเครือข่ายจะลดลงในช่วง 3 – 6 เดือนข้างหน้านี้
Estée Lauder หั่นพนักงาน 3,100 ตำแหน่ง
อีกหนึ่งธุรกิจที่มีการปรับลดพนักงานคือธุรกิจเครื่องสำอาง โดยยักษ์ใหญ่อย่าง Estée Lauder ได้ออกมาประกาศปรับโครงสร้างองค์กร พร้อมเลย์ออฟพนักงาน 3 – 5% ของพนักงานทั้งหมด (บริษัทมีพนักงาน 62,000 คน – ตัวเลขเมื่อเดือนมิถุนายน 2023)
PayPal เลย์ออฟ 2,500 ตำแหน่ง
บริษัทในธุรกิจฟินเทคอย่าง PayPal ก็หนีไม่พ้นวงจรของการเลย์ออฟเช่นกัน โดยได้ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 2,500 ตำแหน่ง พร้อมให้เหตุผลว่า เป็นการปรับลดเพื่อให้องค์กรมีขนาดที่ถูกต้องเหมาะสม และจะทำให้การเติบโตทำได้รวดเร็วขึ้น รวมถึงมีผลประกอบการที่ดีขึ้นด้วย
ทั้งนี้ จำนวนพนักงานที่เลย์ออฟ 2,500 ตำแหน่งนั้นคิดเป็น 9% ของพนักงานทั้งหมดที่ PayPal มีเลยทีเดียว
UPS เลย์ออฟ 12,000 ตำแหน่ง
นอกจากธุรกิจเครื่องสำอาง ฟินเทค เทคโนโลยี ฯลฯ แล้ว อีกหนึ่งธุรกิจที่มีการเลิกจ้างครั้งใหญ่ก็คือ UPS ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในตำนาน โดยได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานถึง 14% จากจำนวนพนักงานทั้งหมด 85,000 คน หรือคิดเป็นการเลย์ออฟ 12,000 ตำแหน่ง ซึ่ง UPS ระบุว่า จะสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ราว 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีนี้
สำหรับการเลย์ออฟของแบรนด์ดังในตำนานเหล่านี้ คาดว่าจะทำให้มีคนตกงานมากกว่า 23,000 คนเลยทีเดียว
ผลสำรวจพบ ผู้บริหาร 40% เล็งใช้ AI แทน
ขณะที่ผลสำรวจจาก ResumeBuilder พบว่า ผู้บริหาร 38% คาดการณ์ว่าบริษัทของตนมีแนวโน้มที่จะเลิกจ้างในปีนี้ และประมาณครึ่งหนึ่งยอมรับว่า มาจากความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอเมริกา ส่วนอีก 1 ใน 4 ยอมรับว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มีส่วนสำคัญ โดยพวกเขาจะเลิกจ้างพนักงานและแทนที่พนักงานด้วย AI เหมือนเช่นที่ Dropbox, Google และ IBM ได้ทำมาแล้วก่อนหน้านี้นั่นเอง