จากภาพของร้านสะดวกซื้อขนาดกะทัดรัด มาวันนี้ 7-Eleven ญี่ปุ่นที่เราคุ้นเคย เริ่มขยายโมเดลสู่ร้านขนาดใหญ่ และมีไอเท็มต่าง ๆ ให้เลือกซื้อมากขึ้นเท่าตัวแล้ว นัยว่าเพื่อเจาะหาลูกค้ากลุ่มใหม่ ทั้งชาวญี่ปุ่นเองและชาวต่างชาติ
สำหรับสาขาขนาดใหญ่ของ 7-Eleven นั้นถูกสร้างขึ้นในจังหวัดชิบะ โดยมีพื้นที่มากกว่าเดิมหนึ่งเท่า และมีสินค้ามากกว่า 2,000 รายการ ขณะที่ ทางบริษัทแม่อย่าง Seven & i ระบุว่า การวัดความสำเร็จของโปรเจ็คนี้ ตัวสาขาดังกล่าวจะต้องมียอดขายเฉลี่ยมากกว่า 700,000 เยนต่อวัน หรือประมาณ 167,500 บาทเลยทีเดียว
คุณเคสุเกะ ยามากุชิ (Keisuke Yamaguchi) ผู้บริหารระดับสูงของ Seven & i ยอมรับว่า ปัจจุบัน ร้านของ 7-Eleven นั้นยังไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มผู้หญิง ครอบครัว และกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทางบริษัทจึงมองว่า การเลือกสินค้าเพื่อวางขายในร้าน 7-Eleven คือตัวช่วยสำคัญ โดยร้าน 7-Eleven สาขานี้จะมาพร้อมสินค้าสำหรับเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ผลไม้สด กลุ่มอาหารพร้อมปรุง เครื่องสำอางที่กำลังอินเทรนด์ และสินค้าอื่น ๆ ที่ไม่อาจพบได้มากนักในร้าน 7-Eleven ทั่วไปของญี่ปุ่น
นอกจากนั้น ภายในร้านยังมีมุมกาแฟ ขนมอบสดใหม่ และเมนูพิซซ่าให้สั่งได้ด้วย
การปรับตัวของ 7-Eleven ไปสู่สาขาใหญ่ที่มีสินค้ามากขึ้นกว่าเดิมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มประชากรในญี่ปุ่น โดยทางบริษัทระบุว่า ต้องมองหาลูกค้าใหม่ ๆ ทั้งกลุ่มคนญี่ปุ่นเอง และชาวต่างชาติ และในส่วนของการเลือกสินค้า บริษัทได้ร่วมมือกับ Ito-Yokada บริษัทในเครือ Seven & i ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสินค้าด้านไลฟ์สไตล์มาช่วย พร้อมกับความหวังว่าจะดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
ทั้งนี้ ทาง 7-Eleven จะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนเพื่อประเมินว่า สินค้าชนิดใดตอบโจทย์ในร้านสาขาขนาดใหญ่นี้ และมีแผนจะเปิดอีกหนึ่งสาขาภายในปีหน้าด้วยเช่นกัน