“แฟชั่นรักษ์โลก” หรือ “Sustainable Fashion” เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะปัจจุบันเสื้อผ้าแฟชั่นถูกผลิตออกมาวางตลาดรวดเร็ว เพื่อเอาใจสายแฟที่ชอบนำเทรนด์ แต่ใส่ไม่กี่ครั้งก็เบื่อ จนกลายเป็นขยะสิ่งทอที่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาล อีกทั้งการผลิตเสื้อแต่ละตัวนั้นมีการใช้น้ำและปล่อยก๊าซคาร์บอนไม่ใช่น้อยเลย จึงส่งผลให้หลายปีมานี้ แบรนด์แฟชั่นระดับโลกหลายแบรนด์จึงเริ่มนำวัสดุเหลือใช้มาผลิตสินค้าแฟชั่นมากขึ้น เพื่อลดการสร้างขยะสิ่งทอและทรัพยากรในการผลิตใหม่ให้ได้มากที่สุด
รวมถึงแบรนด์แฟชั่นไทยอย่าง “YUEDPAO” (ยืดเปล่า) ที่ร่วมกับแบรนด์ผ้ารีไซเคิลชั้นนำของไทย “SC GRAND” นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ในธุรกิจ จนเกิดเป็น “เสื้อยืดรักษ์โลก” สุดคูล ในคอลเลกชัน EcoTech Timeless Wear เรื่องราวเสื้อยึดรักษ์โลกของยืดเปล่ามีแนวคิดอย่างไร? Brand Buffet พามาคุยกับ “คุณจิรโรจน์ พจนาวราพันธุ์” ผู้บริหารแบรนด์ SC GRAND และเสื้อผ้าแฟชั่น CIRCULAR กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงเจริญแกรนด์ ถึงจุดเริ่มต้น รวมถึงความพิเศษของคอลเลกชั่นนี้ และเป้าหมายการสร้างแฟชั่นยั่งยืนของแบรนด์ยืดเปล่ากันอย่างเจาะลึก
แบรนด์เสื้อยืด ที่ใส่สบาย และแคร์โลก
ท่ามกลางแบรนด์เสื้อยืดที่มีจำนวนมากในตลาด YUEDPAO นับเป็นแบรนด์ไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยจุดเริ่มต้นของแบรนด์เกิดจาก “คุณทนงค์ศักดิ์ แซ่เอี๊ยว” ที่เริ่มจากการเปิดแผงขายกางเกงบ็อกเซอร์ตามตลาดนัด จนรายได้เริ่มมากขึ้น ในปี 2011 จึงลงทุนเช่าพื้นที่ในตลาดจตุจักร พร้อมกับแตกไลน์ “เสื้อยืด” มาทำตลาดเพิ่ม โดยช่วงแรกนั้นยังไม่มีแบรนด์ ต่อมาในปี 2018 จึงสร้างแบรนด์ YUEDPAO ขึ้นมา เพื่อให้คนจดจำได้ง่าย บวกกับเอกลักษณ์ของผ้าที่มีความยืด แต่ไม่ย้วย ยับยากไม่ต้องรีด ทนทาน และราคาเข้าถึงได้ ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและค่อยๆ เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีสาขาถึง 55 แห่งทั่วประเทศแล้ว
ภาพจาก FB : Yuedpao
สำหรับเส้นทางรักษ์โลกนั้น คุณจิรโรจน์ เล่าว่า เกิดจาก YUEDPAO ที่เห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อม จากปัญหาที่ก่อตัวรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งสิ่งทอเองก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างมลพิษให้กับโลก จึงมองหาวิธีลดขยะจากการผลิตใหม่ กระทั่งในปี 2023 ได้เริ่มนำผ้ารีไซเคิลจากทาง SC GRAND มาผลิตเป็นคอลเลกชันรักษ์โลก ในชื่อ Rewild Collection ปรากฎว่าสินค้าขายหมดอย่างรวดเร็ว และมีการผลิตซ้ำ
ในปีนี้ YUEDPAO จึงอยากทำเรื่องแฟชั่นยั่งยืนจริงจังมากขึ้น โดยมีแนวคิดที่จะนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ เพราะเห็นว่าการตัดเย็บเสื้อในแต่ละครั้ง จะมี Waste ที่เป็นเศษผ้าเหลือทิ้งเป็นจำนวนมาก จึงต้องการนำผ้าเหลือทิ้งที่เป็นขยะสิ่งทอเหล่านี้กลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และในขณะเดียวกันยังต้องการราคาย่อมเยาด้วย เพราะอยากให้ทุกคนเข้าถึงเสื้อยืดจากผ้ารีไซเคิลได้ จึงพัฒนาโปรเจคร่วมกับ SC GRAND จนออกมาเป็น “เสื้อยืดสุดคูล” ในคอลเลกชัน EcoTech Timeless Wear
สร้าง “คุณค่า” ให้ขยะสิ่งทอ เป็นเสื้อยืดชิคๆ ใส่สบายๆ แถมรักษ์โลก
แม้ราคาจะเป็นหนึ่งในโจทย์ของการพัฒนาสินค้าครั้งนี้ เพราะคนส่วนใหญ่มักคิดว่าเสื้อรักษ์โลก ราคาต้องแพง แต่คุณจิรโรจน์ มองนิยามแฟชั่นรักษ์โลกว่าไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป เพราะ หนึ่งในหลายปัจจัย ของราคาเสื้อผ้ารีไซเคิลจะขึ้นอยู่กับ จำนวนการผลิต หากผลิตปริมาณมาก ต้นทุนก็ถูกลง ซึ่งการผลิตของ YUEDPAO แต่ละครั้งผลิตออกมาในปริมาณสูง รวมถึงมีเศษผ้าที่เหลือจากการตัดเย็บจำนวนมาก ราคาจึงไม่ใช่โจทย์ใหญ่ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ ทำอย่างไรให้เสื้อยืดรีไซเคิลแตกต่างจากเสื้อยืดทั่วไป
ดังนั้น แทนที่จะใช้กระบวนการผลิตผ้ารีไซเคิลแบบเดิม SC Grand จึงหยิบ “นวัตกรรม” มาใส่ในกระบวนการผลิตเป็นครั้งแรก ทำให้เนื้อผ้าออกมาโดดเด่น เพราะมี 2 ด้าน โดยด้านในเป็นผ้ารีไซเคิลแบบแห้งเร็ว ทอจากขวดพลาสติก PET ที่ไม่ใช้แล้ว จึงให้ผิวสัมผัสเหมือนผ้ากีฬา มีความลื่น ไม่ดูดซับน้ำ ทำให้ระบายอากาศได้ดี ในขณะที่ผ้าด้านนอก ทอจากคอตตอนรีไซเคิล ซึ่งเป็นเศษผ้าที่เหลือจากการตัดเย็บของ YUEDPAO ผิวสัมผัสจะเหมือนเสื้อยืดทั่วไป เมื่อนำมาผ่านกระบวนการ Closed-Loop และใช้เทคนิคการทอแบบพิเศษ จึงได้เสื้อยึด EcoTech Timeless Wear คุณภาพ ที่สวมใส่สบายได้ทุกวัน ทั้งยังยับยาก ไม่ย้วย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ไม่ว่าของเหลือใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอจะมาในรูปแบบไหน ขั้นตอนการผลิตไม่ต่างกัน เพราะเรามีวิธีการรีไซเคิลให้กลายเป็นเส้นใยที่เหมาะสม เพื่อนำไปปั่นเป็นเส้นด้ายและทอเป็นผ้าผืนใหม่ให้มีความน่าสนใจและเข้ากับทุกความต้องการ”
คุณจิรโรจน์ ย้ำถึงจุดแข็งของ SC GRAND โดยในช่วงแรกจะผลิตเสื้อยืดออกมา 3 สี คือ ขาว ดำ และเทา เพื่อให้ทุกคนได้ลองสวมใส่ก่อน โดยสีซิกเนเจอร์คือ Jelly in landfill หากมองเผินๆ จะเหมือนสีขาว แต่เมื่อมองลึกลงไปจะเห็นจุดเด่นของสีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเป็นเสน่ห์ของผ้ารีไซเคิล ปัจจุบันได้เริ่มวางตลาดแล้ว ในราคาตัวละ 350 บาท
แม้ความตั้งใจแรกของความร่วมมือกันในครั้งนี้ YUEOPAO ต้องการนำเศษผ้าที่ไม่ได้ใช้แล้วมาผลิตสินค้าใหม่ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับของเหลือใช้ที่ถูกทิ้ง เพื่อลดปัญหาขยะสิ่งทอ และใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตให้น้อยลง แต่ในอนาคต YUEOPAO ยังมีแผนขยายเส้นทางรักษ์โลกไปสู่วงกว้าง โดยจะตั้งจุด Drop เสื้อผ้าเก่าที่ขาด ชำรุด หรือไม่สามารถซ่อมได้แล้วในแต่ละสาขา เพื่อนำขยะสิ่งทอเหล่านี้มาผลิตเสื้อรักษ์โลกในรูปแบบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากเสื้อผ้ารีไซเคิลเป็น 10% ภายใน 3- 5 ปีด้วย
แฟชั่นตื่นรักษ์โลก สร้างธุรกิจเติบโตคู่โลกยั่งยืน
คุณจิรโรจน์ บอกว่า ปัจจุบันแฟชั่นแบรนด์ตื่นตัวกับเรื่องแฟชั่นยั่งยืนมากขึ้น เมื่อเทียบกับ 5 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้จากหลายแบรนด์มีการปรับแผนธุรกิจให้คำนึงถึงความยั่งยืน โดยนำวัสดุธรรมชาติ และของเหลือใช้จากกระบวนการผลิตสิ่งทอมาผลิตเป็นสินค้ารักษ์โลกมากขึ้น และไม่ได้แค่นำมาผลิตเป็นเสื้อโปโลเท่านั้น แต่ยังมีการออกแบบเป็นสินค้า Merchandise รูปแบบต่างๆ ให้น่าสนใจและใช้งานได้จริง เพื่อจำหน่ายกับลูกค้า
ดังเช่นกรณีการบินไทย ที่มีการนำวัตถุดิบสิ่งทอเหลือใช้มาผลิตเป็นเสื้อผ้าสไตล์ Airport Look สำหรับสวมใส่ในการเดินทาง และ อินฟลูเอนเซอร์รีวิวรถไฟฟ้า ‘EV Girls’ ที่นำเศษผ้าเก่ามารีไซเคิลเป็นของที่ระลึกคอลเลกชั่นพิเศษ โดยคุณจิรโรจน์เชื่อว่า ในอนาคตบรรดาแฟชั่นแบรนด์จะหันมาสนใจเรื่องแฟชั่นยั่งยืนและผลิตสินค้าจากวัสดุเหลือใช้ในอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาขยะจากสิ่งทอ และทำให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้นได้