ช่วงเวลาพิเศษ 4 ปีมีครั้งในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ผ่านมาหลายคนคงได้เห็นการจัดแคมเปญการตลาดของร้านอาหาร-แบรนด์ดังมากมาย หนึ่งในแคมเปญที่สร้างกระแสจนกลายเป็นไวรัลต่อคิวยาวกว่า 700 คิว คงหนีไม่พ้น “Sizzler 1 แถม 1 สเต๊กพร้อมสลัดบาร์ไม่อั้น ในราคา 299 บาท” จนสร้างปรากฏการณ์ด้านยอดขายและทราฟฟิกสูงเป็นประวัติการณ์ให้แก่ “ซิซซ์เลอร์” นับตั้งแต่มีการจัดแคมเปญในประเทศไทยมากว่า 33 ปี
ความสำเร็จดังกล่าวทำให้ไตรมาสที่ 1/67 ที่ซิซซ์เลอร์ยังคงมีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการในร้านเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 25% ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สะท้อนความสำเร็จของ “ซิซซ์เลอร์” กับการเดินหน้ากลยุทธ์ต่างๆในการรุกตลาดเมืองไทย
“อนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)” บอกว่า ปี 2566 ที่ผ่านมาถือเป็นปีทองของซิซซ์เลอร์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ลากยาวมาจนถึงช่วงไตรมาส 3-4 ที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการในร้าน สร้างการเติบโตในปี 2566 เพิ่มขึ้น 5-6% รั้งเบอร์ 1 ผู้นำตลาดสเต๊กเมืองไทยด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 30% (เพิ่มจากปี 2565 ที่มีอยู่ 35%) จากมูลค่าตลาดรวมสเต๊กพรีเมียมกว่า 9,000 ล้านบาท และยังสามารถขยายฐานสมาชิกได้มากกว่า 550,000 ราย จากเดิมที่มีอยู่ 250,000 ราย โดย 25% หรือ 1ใน 4 เป็นยอดขายมาจากสมาชิกจากเดิมที่มีอยู่ 12%
อย่างไรก็ตามหลังดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “Fresh Premium Quality” ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาปีนี้ “ซิซเลอร์” ยังคงสร้างการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยทิศทางการดำเนินงานของปี 2567 บริษัทยังคงตั้งเป้าเดินหน้าส่งมอบประสบการณ์ ”Extraordinary Experience” ผ่านกลยุทธ์ที่น่าสนใจใน 4 ประเด็นได้แก่
1.โฟกัส CRM-Seasonal Marketing ขยายฐานลูกค้า
Seasonal Campaign คือกลยุทธ์แรกที่ “ซิซซ์เลอร์” จะนำมาใช้ในการสร้างการเติบโตให้แก่แบรนด์ในปี 2567 นี้ โดยจะมีการจัดแคมเปญตามเทศกาลต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและยังเป็นการเพิ่ม
แม้จะมียอดขายจากสเต๊กเป็นสัดส่วนหลักถึง 60-70% อยู่แล้ว ทว่าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการพร้อมทั้งเพิ่ม Occession ในการรับประทานให้แก่ลูกค้ามากขึ้น ทำให้ปีนี้มีแผนเปิดตัวเมนูใหม่ที่หลากหลายมากขึ้น
“เราต้องการเป็นผู้นำให้แก่ลูกค้าในแต่ละ Occassion ของการรับประทานไม่ว่าจะเป็นธรรมดาไปจนถึงวันพิเศษ ตั้งแต่สงกรานต์ ปีใหม่ ไปจนถึงเทศกาลสำคัญ โดยปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวชีสโทสต์ซึ่งเป็นแคมเปญตามฤดูกาลเพื่อเพิ่มโอกาสทางการรับประการทานอีกหนึ่งโอกาสได้เป็นอย่างดี”
จากการจัดแคมเปญ “Sizzler 1 แถม 1” ในวันที่ 29 ก.พ.67 ที่ผ่านมา “ซิซซ์เลอร์” พบว่า ลูกค้ากว่า 90% มีจุดหมายคือการมารับประทานสเต๊กมากที่สุด ดังนั้นการจัดแคมเปญการตลาดหรือ Seasonal Marketing Campaign นอกจากจะสร้างการเติบโตด้านยอดขายแล้วยังเป็นการย้ำภาพความเป็นผู้นำในตลาดสเต๊กเมืองไทยที่ผู้บริโภคนึกถึง
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา “ลอยัลตี้โปรแกรม” หรือกลยุทธ์การตลาดใระบบสมาชิก ด้วยการมอบสิทธิต่างๆในรูปแบบ CRM มากขึ้น หลังปีที่ผ่านมาซิซซ์เลอร์พบว่า ยอดขายที่มาจากสมาชิกสูงถึง 25% หรือคิดเป็นยอดขาย 1 ใน 4 จากยอดขายทั้งหมดของซิซซ์เลอร์ เพิ่มจากปี 2565 ที่มีสัดส่วนเพียง 12% นั้นทำให้ทางแบรนด์เดินหน้ากลยุทธ์ดังกล่าว เพื่อดึงดูดสมาชิกใหม่ และเน้นกระตุ้นการมาใช้บริการมากขึ้น
“จากการจัด Seasonal Campaign อย่างต่อเนื่อง ทำให้เราวางเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ไตรมาสละ 10% ในทุกๆไตรมาสจากนี้ไป” คุณอนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ กล่าว
โดยในไตรมาส 2 นี้ได้ปล่อยเมนูใหม่ออกมาทำตลาดรองรับเทศกาลสงกรานต์ ภายใต้ธีม The New Sizzling USA BBQ เมนูพรีเมียมในรูปแบบบาร์บีคิวเสียบไม้ และไก่ทอดราดซอสซิกเนเจอร์ ตามแบบฉบับอเมริกันแท้ ถ่ายทอดเรื่องราวกว่า 66 ปีของแบรนด์ (นับตั้งแต่วันแรกที่มีการก่อตั้ง) ผ่านเมนูที่สะท้อนแบบฉบับอเมริกันแท้ๆ อย่าง “บาร์บีคิว” ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวอเมริกันในช่วงหน้าร้อนอีกด้วย
2.เพิ่มเมนูใหม่อาหาร-เครื่องดื่ม ย้ำภาพ Casual Western Dining
การเปิดตัว “เมนู” ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม คืออีกหนึ่งจุดแข็งที่แบรนด์นำมาใช้ในการกระตุ้นลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการภายในร้าน โดยจะมีการพัฒนาเมนูพรีเมียมสเต๊กใหม่ การนำเมนูสุดคุ้ม กลับมาให้บริการเพื่อเพิ่มยอดผู้บริโภคแบบไดน์อิน อาทิ เมนูซี่โครงหมูบาร์บีคิว และเมนูสเต๊กเนื้อนิวยอร์คที่มีการเพิ่มปริมาณในราคาปกติ ตลอดจนการเพิ่มเติมเมนูของหวาน การปรับเมนูสเต๊ก Sizzling ซีรีส์ในราคาสุดคุ้มค่า การพัฒนาเมนูสลัดบาร์ในคอนเซปต์ใหม่ตามฤดูกาล ด้วยการนำเอาผลไม้ยอดนิยมตามฤดูกาลมาทำเป็นเมนูสลัดบาร์ โดยเมนูใหม่ที่เปิดตัวมาทำตลาด ได้แก่
- บาร์บีคิวเนื้อ & บัฟฟาโลวิงส์แรนช์ซอส จานละ 649 บาท (ปกติ 799 บาท)
- บาร์บีคิวหมู & บัฟฟาโลวิงส์แรนช์ซอส จานละ 599 บาท (ปกติ 749 บาท)
- บาร์บีคิวปลากะพง และกุ้งลายเสือ & บัฟฟาโลวิงส์แรนช์ซอส จานละ 599 บาท (ปกติ 749 บาท)
และยังมีเมนูของหวานเข้ามาเพิ่มเติมอีก 3 เมนูใหม่ ราคาแก้วละ 129 บาท (ปกติ 199 บาท) เพื่อให้ทุกคนได้เพลิดเพลินอย่างเต็มที่ ได้แก่
- ประกอบด้วย ช็อกโกแลต บราวนี่ มิลค์เชค
- แบล็กฟอเรสต์ มิลค์เชค
- ซอลท์เท็ด คาราเมล มิลค์เชค
นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัวเมนูบรันช์ (Brunch) รูปแบบใหม่ออกมาทำตลาดด้วยโดยมองว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายจากเมนูกลุ่มนี้ได้ 5-10%
3. ยูนิฟอร์มใหม่สร้างบรรยากาศที่ดีแก่ลูกค้าในร้าน
ขณะที่กลยุทธ์ประการต่อมา คือ การตอบสนองความต้องการ “Extraordinary Experience” หรือความธรรมดาที่แสนพิเศษให้แก่ลูกค้า ในรูปแบบต่างๆ ทั้งบริการ ประสบการณ์ที่จะได้จากการเข้ามารับประทานภายในร้าน
โดยทำการรีแบรนด์ดิ้งชุดพนักงานโฉมใหม่ให้แก่พนักงานกว่า 2,400 คนทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็น เชฟ พนักงานเสิร์ฟภายในร้าน โดยคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดในช่วงเดือนมิถุนายน 2567 นี้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจให้ลูกค้าถึงบรรยากาศความสดใหม่ ตลอดจนมอบความภาคภูมิใจให้แก่พนักงาน ให้สามารถใส่กลับบ้านมาทำงานได้โดยไม่เขินอาย ผ่านรูปแบบดีไซน์ที่ทันสมัยและสวยงาม
4.ขยายตลาดต่างประเทศ
หนึ่งในกลยุทธ์การเติบโตของ “ซิซซ์เลอร์” ไม่หยุดแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังได้ขยายตลาดไปยังต่างประเทศในรูปแบบแฟรนไชส์ โดยญี่ปุ่นถือเป็นประเทศแรกที่ขยายเข้าไปทำตลาดมีจำนวนสาขาแล้วทั้งสิ้น 10 สาขา ส่วนประเทศลำดับที่ 2 ที่ “ซิซซ์เลอร์” ขยายเข้าไปทำตลาดคือที่ “เวียดนาม” โดยได้เข้าไปขยายสาขาแรกที่เมืองโฮจิมินห์ เมื่อช่วงไตรมาส 1/67 ในรูปแบบแฟรนไชส์ร่วมกับพันธมิตรอย่าง บริษัท โกลด์ซัน กรุ๊ป จำกัด (ซึ่งเป็นผู้ถือสิทธิ์แบรนด์ในเครือไมเนอร์ฯอย่าง DQ พิซซ่า อยู่แล้ว ) นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสาขาไปยังประเทศ อื่นๆในภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในประเทศไทยจะขยายเพิ่มอีก 3 แห่งในปีนี้ โดยได้เปิดให้บริการไปแล้วเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 1 สาขา ที่ เซ็นทรัล นครปฐม ขณะที่อีก 2 สาขา จะเป็นการขยายไปเปิดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งจะทำให้สิ้นปีจะมีสาขาทั้งหมด 67 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 64 สาขา
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE
อ่านเพิ่มเติม
13 เรื่อง ของ 30 ปี Sizzler หวนคืนสู่เมนูหลัก เมื่อ “สเต๊ก” ต้องสวมบทพระเอก แทน “สลัดบาร์”