บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR สรุปผลประกอบการไตรมาสแรก 2567 มีรายได้ขายและบริการ 177,867 ล้านบาท ลดลง 7.6% จากไตรมาสก่อน โดยหลักมาจากปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่ลดลงทั้งในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันและธุรกิจตลาดพาณิชย์ ของกลุ่มธุรกิจ Mobility
– รายได้กลุ่มธุรกิจ Mobility 163,788 ล้านบาท ลดลง 8.6% จากไตรมาสก่อน
– รายได้กลุ่มธุรกิจ Lifestyle 5,905 ล้านบาท ลดลง 0.5% จากไตรมาสก่อน
– รายได้กลุ่มธุรกิจ Global 12,894 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9% จากไตรมาสก่อน
– รายได้ธุรกิจอื่นๆ 285 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4% จากไตรมาสก่อน
กลุ่มธุรกิจ Mobility ภาพรวมกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Global ที่กำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรฟื้นตัวในประเทศฟิลิปปินส์ สำหรับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้นทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มธุรกิจค้าปลีกอื่น และภาพรวมของค่าใช้จ่ายดำเนินงานสุทธิลดลง
ไตรมาสแรกปีนี้ OR มีกำไรสุทธิ 3,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 100% จากไตรมาสก่อน ส่วน EBITDA จำนวน 6,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 100% จากไตรมาสก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจ และมีกำไรสุทธิ 3,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.31 บาท
ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ธุรกิจ Lifestyle มีร้าน Cafe Amazon รวม 4,221 สาขา ทั้งไทยและต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 272 สาขา เทียบไตรมาสแรกปีก่อน โดยมียอดขาย 99 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้น 8.8%
ในประเทศไทยมีร้าน Cafe Amazon 4,196 สาขา อยู่ในสถานีบริการ 2,248 สาขา สัดส่วน 53.6% และนอกสถานีบริการ 1,948 สาขา สัดส่วน 46.4% ส่วนร้าน Cafe Amazon ในต่างประเทศ คือ ญี่ปุ่น โอมาน เมียนมา มาเลเซีย และซาอุดิอาระเบีย มีจำนวน 25 สาขา
ร้านเท็กซัส ชิคเก้น มีเครือข่าย 101 สาขา สำหรับร้านอาหารและเครื่องดื่มอื่นมีเครือข่าย 125 สาขา ได้แก่ เพิร์ลลี่ทีและ Pacamara Coffee Roasters สำหรับธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ มีร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ 7-Eleven และภายใต้แบรนด์ “จิฟฟี่” ในประเทศไทย 2,241 สาขา โดยรวมธุรกิจ Lifestyle ไตรมาสแรกปีนี้มีเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม 4,447 สาขา
นอกจากนี้ OR ได้ขยาย ธุรกิจ Lifestyle อย่างต่อเนื่อง โดยลงทุนธุรกิจสุขภาพและความงาม (Health & Beauty) ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ทั้งจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และจะเปิดตัวร้านสาขาแรกในเร็วๆ นี้
คุณดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่าปีนี้ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ ผู้ดำเนินธุรกิจร้าน “โอ้กะจู๋” ซึ่ง OR เป็นผู้ถือหุ้น 20% ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือขี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) แสดงให้เห็นถึงการเติบโตและความสำเร็จของพันธมิตรทางธุรกิจของ OR โดยใช้ศักยภาพที่ OR มีร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพในการสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE