HomeBrand Move !!ส่องความสำเร็จ เซ็นทรัล รีเทล ปิดไตรมาสแรกโกยรายได้  67,255  ล้านบาท โตเพิ่ม 6% เร่งเครื่องขยายธุรกิจต่อเนื่อง

ส่องความสำเร็จ เซ็นทรัล รีเทล ปิดไตรมาสแรกโกยรายได้  67,255  ล้านบาท โตเพิ่ม 6% เร่งเครื่องขยายธุรกิจต่อเนื่อง

แชร์ :

ธุรกิจค้าปลีกยังโตต่อเนื่อง “เซ็นทรัล รีเทล” เปิดผลประกอบการไตรมาส 1/67 มีรายได้  67,255 ล้านบาท เติบโตเพิ่ม 6% จากปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิหลัก  2,524 ล้านบาท ในส่วนของยอดขายผ่านแพลตฟอร์มออมนิแชแนลมีสัดส่วนอยู่ที่ 19% ซึ่งการเติบโตดังกล่าว มาจากการมีอีโคซิสเต็มที่แข็งแกร่งและพอร์ตฟอลิโอที่มีความยืดหยุ่น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สำหรับไฮไลท์ความสำเร็จของธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล มีดังนี้

1. กลุ่มแฟชั่น

ห้างเซ็นทรัล ชิดลม “The Store of Bangkok” ได้พลิกโฉมใหม่ ด้วยงบลงทุนกว่า 4 พันล้านบาท เพื่อยกระดับสู่การเป็น World Class Luxury Destination ในรูปแบบ One-Stop-Shopping ที่รวบรวมแบรนด์สินค้าลักชัวรี่จากทั่วทุกมุมโลก อาทิ Bottega Veneta, Burberry, Celine, Dolce & Gabbana, Emilio Pucci, Kenzo, Loewe, Louis Vuitton, Missoni, Roger Vivier และ Versace โดยมีไฮไลท์สำคัญอย่าง “Shoes Avenue” ที่รวบรวมแบรนด์รองเท้าชั้นนำไว้ในที่เดียวครั้งแรกของไทย อาทิ Christian Louboutin, Gucci, Jimmy Choo, Mach & Mach, Rene Caovilla, Sergio Rossi, The Attico, TOD’S, Tom Ford และ Tory Burch

 

Central Chidlom

ห้างเซ็นทรัล ชิดลม โฉมใหม่  “The Store of Bangkok”

 

CMG (เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป) หนึ่งในธุรกิจภายใต้กลุ่ม Central Brand & Specialty ได้รับสิทธิ์เป็นผู้จัดจำหน่าย Paul Smith แบรนด์แฟชั่นลักชูรี่ระดับไอคอนิคจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเตรียมเปิด Flagship Store แห่งใหม่ที่ศูนย์การค้า Central Embassy นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิ์เป็นผู้จัดจำหน่าย Jung Saem Mool (จองแซมมุน) แบรนด์จากเมกอัพอาร์ทิสต์ชื่อดังของประเทศเกาหลี อีกทั้งยังนำแบรนด์ระดับโลกที่ได้รับความนิยมเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่อง

 

 

2. กลุ่ม B2B / B2C

GO Wholesale หลังจากเปิดตัวมา 7 เดือน ได้ลุยเปิดไปแล้วทั้งสิ้น 7 สาขา โดยโชว์ความโดดเด่นในด้านการเป็น King of Fresh ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทุกกลุ่ม ด้วยจุดแข็งของ GO Wholesale ที่เข้าใจทุกความต้องการของลูกค้าทั้งด้านสินค้าที่สดใหม่ บริการพิเศษ และความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอย พร้อมเร่งเครื่องเปิดเพิ่มอีก 4 สาขาในครึ่งปีหลัง ทำให้เตรียมปิดปีด้วยจำนวน 11 สาขาทั่วไทย

 ไทวัสดุ  เตรียมปูพรมสู่ 100 สาขาทั่วไทย โดยในปีนี้เตรียมขยายไทวัสดุอีก 9 สาขา และปรับโฉมใหม่ Flagship Store สาขาบางนาและสาขาบางบัวทอง ด้วยการอัพเกรดขึ้นมาเป็นรูปแบบไฮบริดสโตร์ ที่รวมจุดแข็งของทั้งไทวัสดุและบีเอ็นบี โฮม เข้าไว้ด้วยกันในที่เดียว เพื่อตอบโจทย์เรื่องงานช่างและเรื่องบ้านอย่างครบวงจร นอกจากนี้สินค้า Private Label ของไทวัสดุยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีสัดส่วนเป็น 18% ของสินค้าทั้งหมดที่จำหน่ายในไทวัสดุ

 

 

3. ประเทศเวียดนาม

เตรียมขยายสาขาทั้งศูนย์การค้า GO! และ ไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! อีก 3 สาขาในปีนี้ พร้อมทั้งเตรียมรีโนเวทสาขา Flagship Store ที่ฮานอยและโฮจิมินห์ ซึ่งจะเสร็จสิ้นภายในปี 2568 ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาเซ็นทรัล รีเทล ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการรีโนเวทศูนย์การค้า GO! 8 สาขา ทำให้มีรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น 12%

นอกจากนี้ยังได้เข้าไปขยายธุรกิจในกลุ่มไลฟ์สไตล์และแฟชั่น ด้วยการเป็น Brand Distributor ให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ Dyson, Crocs และ FitFlop เพื่อตอบสนองกลุ่มไลฟ์สไตล์ กลุ่มคนมีกำลังซื้อสูง คนรุ่นใหม่ และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในประเทศเวียดนาม

“ความสำเร็จทั้งหมดนี้มาจากกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งของเซ็นทรัล รีเทล ที่ได้วางไว้บนคอนเซ็ปต์ Leading Excellence and Advancing Sustainability คือ การเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ที่มีผลประกอบการและผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม ในทุกกลุ่มธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ทั้งนี้เราจะยังเดินหน้าพัฒนาธุรกิจในเครืออย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี” คุณญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวทิ้งท้าย

 

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like