TCL แบรนด์ใหญ่จากจีน ประกาศเป้าขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าไทยภายใน 5 ปี เล็งเปิดตัวโปรดักต์กลุ่ม Mid-to-High และกลุ่มไฮเอนด์เพิ่ม พร้อมดึงเทรนด์การ Live จากจีนแผ่นดินใหญ่มาปรับใช้กับตลาดไทย ด้านผู้บริหารใหญ่ “คุณจอห์นนี่ หยี” เผยมีแผนลงทุนสร้างโรงงานในไทยภายใต้งบประมาณสูงถึง 5 แสนล้านบาท แต่ยังอุบรายละเอียดทั้งหมด
เรียกว่าสร้างความฮือฮาไม่น้อยสำหรับทีซีแอล (TCL) ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่ประกาศว่าในปี 2567 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พร้อมประกาศเป้าหมายสู่การเป็น Top 2 ของตลาดไทยใน 3 ปี และก้าวขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งภายใน 5 ปี (ภาพรวมของทั้งบริษัท) ซึ่งหากมองถึงกลุ่มสินค้าที่ TCL ทำตลาดในไทยจะพบว่ามี 4 กลุ่มได้แก่
- สินค้ากลุ่ม Innovation เช่น ทีวีจอยักษ์ขนาด 115 นิ้ว ตู้เย็นแบบ Free Built-in
- ทีวี
- เครื่องปรับอากาศ
- Home Appliance โดยสินค้าในกลุ่มนี้ประกอบด้วย ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ฯลฯ
จอยักษ์-บอลยูโร ดันธุรกิจทีวี “รุ่ง”
สำหรับธุรกิจทีวีในปีนี้ คุณเฉลิมชัย รัตนเอม ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ TCL เผยว่า พบพฤติกรรมผู้บริโภคให้ความสนใจกับทีวีจอยักษ์มากขึ้น ซึ่งทีวีของ TCL ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาดตอนนี้ คือ ทีวีขนาด 115 นิ้ว รุ่น 115X955 Max QD MiniLED และ TV Gaming series C747
“ในไตรมาสแรกของปีนี้ ทิศทางของตลาดเมื่อเทียบกับปี 2566 มีการปรับตัวลดลงประมาณ 10% ในทางกลับกัน TCL ยังสามารถรักษาตัวเลขได้ดี โดยมียอดขายโตสวนกับทิศทางของตลาดถึง 10% และสินค้าในกลุ่ม QLED, MiniLED เป็นสินค้าที่มาแรง โดยเทรนด์ของตลาดตอนนี้เติบโตขึ้น 13% ขณะที่ TCL เติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 60% และอยู่ในตำแหน่ง Top 2 ของตลาด ส่วนทีวีจอยักษ์นั้น TCL เติบโตขึ้น 118%”
จากแผนงานทั้งหมดนี้ TCL ยังมองว่าตลาดทีวีปีนี้อาจจะเติบโตประมาณ 20% ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร และในช่วงมหกรรมการแข่งขันโอลิมปิกด้วย
ปรับอากาศเล็งเจาะกลุ่มพรีเมียม – เลี้ยงสัตว์
ส่วนธุรกิจเครื่องปรับอากาศนั้น คุณจีรชัย ศักดิ์สง่าวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายเครื่องปรับอากาศ TCL เผยว่า ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ตลาดเติบโต 21.4% (by unit) และ 20.7% (by value) ส่วน TCL เติบโต 144.2% (by unit) และมีส่วนแบ่งการตลาด ณ เดือน มีนาคม 2567 อยู่ที่ 14.3% (by unit) ซึ่งเป็นลำดับที่ 1 ของตลาด และเป็นเบอร์หนึ่งติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 แล้ว นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2566
ส่วนในปีนี้ ทาง TCL ยังได้เปิดตัวสินค้าเจาะกลุ่มพรีเมียม และกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์ เช่น การเพิ่ม function แลกเปลี่ยนอากาศจากภายนอกพร้อมระบบกรองอากาศในตัว ฯลฯ โดยปัจจุบัน TCL มีส่วนแบ่งในตลาดเครื่องปรับอากาศแล้ว 12.7% และเป็นอันดับหนึ่ง
ลงทุนโรงงาน “ซักผ้า-แอร์”
สุดท้ายคือธุรกิจ Home Appliance หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องอบผ้า โดยคุณเอกชัย ชื่นศิริกุลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายขายตู้เย็นและเครื่องซักผ้าเปิดเผยว่า ในไตรมาสแรก ยอดขายตู้เย็นเติบโต 12% (จากปัจจัยสภาพอากาศ) โดยตู้เย็นประเภท Side by Side มีอัตราการเติบโตมากที่สุดถึง 50% รองลงมา คือ ตู้เย็น 4 ประตู เติบโต 20% ซึ่งสะท้อนความต้องการของผู้บริโภคว่าต้องการตู้เย็นที่มีความจุมากขึ้น และมีความพรีเมียมมมากขึ้น ทำให้ทาง TCL มีเเผนจะ Upgrade line up สินค้าตู้เย็นประเภท 4 ประตูให้มากขึ้น
ขณะที่กลุ่มเครื่องซักผ้า – อบผ้า ในไตรมาสเเรกปีนี้ ถือว่าตลาดยังทรงตัว ยกเว้นกลุ่มเครื่องซักผ้าประเภทซักเเละอบผ้า เติบโตมากถึง 39% ในไตรมาสแรกของปี โดยคุณเอกชัยวิเคราะห์ว่ามาจากปัญหา PM 2.5 ที่ทำให้ผู้บริโภคต้องการอบผ้าให้เสร็จไปเลย รวมถึงการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปอยู่คอนโดมิเนียมกันมากขึ้น ทำให้ไม่ค่อยมีพื้นที่ตากผ้ามากนัก
ทั้งนี้ ส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องซักอบพบว่ามีส่วนเเบ่งทางการตลาดมากถึง 20% ทำให้ในช่วงครึ่งปีหลัง ทาง TCL จะทำการ Upgrade line up สินค้า รวมไปถึงการเพิ่มฟังก์ชันต่าง ๆ เเละการออกเเบบโดยเน้นความสวยงาม โดยมีเป้าหมายส่วนเเบ่งทางการตลาดมากกว่า 30% ภายในสิ้นปี 2567 เลยทีเดียว
เจาะเทรนด์จากจีนปรับใช้ในไทย
สำหรับกลยุทธ์ที่ TCL จะนำมาปรับใช้ในไทยในปีนี้ นอกเหนือจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์แล้วก็คือช่องทางการขาย โดยคุณเอกชัยเผยว่า จะมีการนำแนวคิดที่ประสบความสำเร็จของตลาดจีน เช่น การใช้ KOL ช่วยไลฟ์ขายสินค้าผ่าน TikTok มาทำในไทยด้วยเช่นกัน และมีการสร้างห้อง Live สินค้าและมีทีมอีคอมเมิร์ซดูแลแล้ว
ยืนยันลงทุน 5 แสนล้านผุดโรงงานใน “ไทย”
ในแง่การลงทุน ปัจจุบัน TCL มีการนำชิ้นส่วนทีวีเข้ามาประกอบที่ประเทศไทย ส่วนเครื่องซักผ้า – ตู้เย็น ฯลฯ นั้นยังเป็นการผลิตในจีนแผ่นดินใหญ่ และนำเข้ามาขายในไทยทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อถามถึงการลงทุนเพิ่มเติม คุณจอห์นนี่ หยี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้เผยว่า บริษัทมีแผนจะลงทุนในไทยด้วยจำนวนเงินสูงถึง 500,000 ล้านบาท โดยระบุรายละเอียดแต่เพียงคร่าว ๆ ว่า เป็นโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น และจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังตลาดโลก
อย่างไรก็ดี ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทระบุว่า TCL จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนดังกล่าวในเร็ว ๆ นี้