HomeBrand Move !!คนไทยใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มมากที่สุดในโลก! ดาวน์นี่ฯ ดึง “น้องเกล” Brand Ambassador เด็กคนแรก

คนไทยใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มมากที่สุดในโลก! ดาวน์นี่ฯ ดึง “น้องเกล” Brand Ambassador เด็กคนแรก

แชร์ :

“น้ำยาปรับผ้านุ่ม” หนึ่งในตลาดที่มีการเติบโตในไทยมาอย่างต่อเนื่องทุกปี จนมูลค่าทะยานไปแล้วกว่า 14,398 ล้านบาท โดยปีที่ผ่านมาเติบโตเพิ่มขึ้น 7% และปีนี้คาดการณ์ว่าจะเติบโต 8% เรียกว่าเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ FMCG อื่นๆที่มีอัตราการเติบโตราว 4.5-4.9% เท่านั้น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ปัจจัยหลักของการเติบโตยังคงมาจากการที่พฤติกรรมของคนไทยให้ความสำคัญในเรื่องกลิ่นหอมเป็นพิเศษ ทั้งกลิ่นหอมภายในบ้าน น้ำหอม เสื้อผ้า และอื่นๆ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างนำ้ยาปรับผ้านุ่ม มีการเติบโตที่ดีตามไปด้วย และมีผู้เล่นเข้ามาทำตลาดมากขึ้น โดยมี “ดาวน์นี่” เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 37% หรือคิดเป็นมูลค่า 5,000 ล้านบาทจากตลาดรวมทั้งหมด

คุณธัญภัค ทองถาวรกุล ผู้อำนวยฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มซักผ้า ปรับผ้านุ่มและปรับอากาศ ดาวน์นี่ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ในโลกที่นิยมใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือคิดเป็น 91% ของครัวเรือนทั้งหมดในประเทศ มากกว่าประเทศอื่นๆ ที่มีอัตราการใช้อยู่ราว 70-80% ขณะที่ในบางประเทศมีอัตราการใช้เพียง 50% เท่านั้น

 

คุณธัญภัค ทองถาวรกุล

คุณธัญภัค ทองถาวรกุล

ดึงอินไซต์คนไทย แก้ Pain Point ติดหอม ละมุน ตลอดวัน

แม้คนไทยจะนิยมการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มมากที่สุดในโลก ทว่าในตลาดน้ำยาปรับผ้านุ่มยังมีอีกหนึ่งโจทย์ที่ต้องแก้ไข นั่นคือความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยในตลาดน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นหอมละมุน บอบ บาง ขณะเดียวกันก็พบว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มส่วนใหญ่ติดอยู่บนเสื้อผ้าครึ่งวันก็หาย  และบางคนก็กลัวกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่รุนแรงเกินไปจะกลบกลิ่นน้ำหอมจนหมด

ขณะเดียวกันก็มีผู้บริโภคหลายคนชื่นชอบให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมแบบอ่อนโยนไม่ฉุน แต่ยังคงกลิ่นหอมยาวนาน แบบสูตรเข้มข้น ดาวน์นี่เล็งเห็นความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มนี้ จึงพัฒนาน้ำยาปรับผ้านุ่ม “ดาวน์นี่ ละมุน” ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มดังกล่าว โดยมี Top Notes (กลิ่นนำ) เป็นกลิ่นดอกชาขาวแสนอ่อนโยน Middle Notes (กลิ่นหลัก) เป็นกลิ่นดอกไม้สีขาวนานาชนิดและลาเวนเดอร์ และสุดท้าย Base Notes (กลิ่นรอง)

โดยยังคงจุดเด่นของแบรนด์ เรื่องการต้านกลิ่นอับชื้นเอาไว้ นอกจากนี้ ดาวน์นี่กลิ่นใหม่ ยังเหมาะกับผู้บริโภคที่ต้องการซักผ้าของทุกคนในครอบครัวพร้อมกันในถังเดียว ให้เสื้อผ้าหลังซักมีกลิ่นหอมละมุนเหมาะกับทุกคนและยังใช้ได้กับเสื้อผ้าเด็กอ่อนอีกด้วย

คุณธัญภัค กล่าวเพิ่มเติมว่า ปกติการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มผ่านไปครึ่งวันกลิ่นหาย แต่อินไซต์ของผู้บริโภคต้องการกลิ่นหอมละมุน และหอมทั้งวัน จึงเป็นที่มาของการพัฒนาโปรดักต์ใหม่ “ดาวนี่ละมุน” ขึ้นมา นอกจากจะเป็นการขยายฐานลูกค้าเพิ่มแล้ว ยังต้องการดึงกลุ่มคนใช้ที่ปัจจุบันยังมีผู้บริโภค 24%ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มแบบธรรมดามาใช้แบบเข้มข้นมากขึ้น

“จากอินไซต์คนที่เลือกใช้สูตรธรรมดาใน เพราะต้องการกลิ่นหอม ละมุน และอ่อนโยน โดยเฉพาะกับเด็ก ทำให้พ่อแม่เลือกใช้นำ้ยาปรับผ้านุ่มมากกว่า 1 ชนิด และไม่กล้าใช้แบบข้มข้นมากนัก เพราะเป็นกังวลเรื่องของความเข้มขนและระคายเคือง เราจึงนำ Pain Point เหล่านี้มาพัฒนาสูตรละมุนขึ้น เพื่อดึงลูกค้ากลุ่มนี้เข้ามาใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์และเป็นลูกค้ามากขึ้น”

 

 

 ดึง “น้องเกล” ผ่านคอนเซปต์ “ละมุนแน่ แม่ๆ ชอบ” เจาะทุกไลฟ์สไตล์ของคุณแม่

เส้นทางการเติบโตของผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม “ดาวน์นี่” ในไทยที่ผ่านมา นอกจากกิจกรรมการตลาดและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายแล้ว ยังมีนางเอกเบอร์ต้นของเมืองไทย “ชมพู่-อารยา” ครองตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์มานานกว่า 10 ปี จนกลายเป็นภาพจำของแบรนด์สำหรับใครหลายคน

ล่าสุดเพื่อรองรับตลาดผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม “ดาวน์นี่” ได้เปิดเกมรุกในตลาดอีกครั้งด้วยการเดินเกมการตลาดเชิงรุก ภายใต้คอนเซปต์ “ละมุนแน่ แม่ๆ ชอบ” ครั้งนี้  ทางแบรนด์ยังคงเลือกใช้ “ชมพู่-อารยา” เป็นตัวแทนของแบรนด์ หากแต่ครั้งนี้  ยังเพิ่ม  “น้องเกล-แอบิเกล รังษีสิงห์พิพัฒน์” เป็น Brand Ambassador เด็กคนแรกในโลกของดาวน์นี่คู่กับ “แม่ชม” เพื่อสื่อสารความเป็น “ดาวน์นี่ ละมุน” เหมาะกับทุกคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ผ่านงบประมาณกว่า 70 ล้านบาท

 

วิถีเซเลบบริตี้ ของ "เจ๊เกล" โชว์ TWERK

 

“การนำน้องเกล มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อการสื่อสารในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของดาวน์นี่ในโลก ที่ใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ที่เป็นเด็ก ในการสร้างภาพจำแบรนด์ขยายฐานกลุ่มเป้าหมาย โดยน้องเกลคือตัวของไลฟ์สไตล์ที่เพิ่มขึ้นมาอีกขั้น หลังจาก “แม่ชม” แบรนด์แอมบาสเดอร์ที่อยู่กับเรามานาน มีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ตั้งแต่การเป็นสาวโสด แต่งงาน จนมีครอบครัว โดยน้องเกลจะเข้ามาเสริมทัพไลฟ์สไตล์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ”

พร้อมกันนี้ยังส่งภาพยนตร์โฆษณา นำแสดงโดย “น้องเกล-แม่ชม” มาตอกย้ำความหอมละมุนของผลิตภัณฑ์ฯ ผ่านนิยามของคำว่า “แม่ๆ” ไม่ใช่แค่แม่-ลูก แต่ดาวน์นี่จึงนิยามของทุกคำว่า “แม่” ที่หลากหลายบริบทมาใช้ในแคมเปญ ทั้งตัวแม่ ขุ่นแม่ หรือแม่ๆของวงการต่างๆ รวมทั้งทำการตลาดทั้งช่องทาง Offline และ Online เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ  โดยวางเป้าหมายว่าสูตรใหม่จะมีส่วนแบ่ง 5% หรือมียอดขาย 500 ล้านบาท หลังเปิดตัวในช่วง 1 ปีแรก ซึ่งจะทำให้แบรนด์ดาวนน์นี่ครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 40% รั้งตำแหน่งผู้นำตลาดต่อเนื่อง

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE

 


แชร์ :