HomeBrand Move !!ร้านกาแฟนอกบ้านแข่งดุ “อินทนิล” พลิกร้านกาแฟสู่ “คาเฟ่ครบวงจร” เปิดขาย “หมูปิ้ง-โจ๊ก-ข้าว-เหนียวมะม่วง-ข้าวต้มมัด” สารพัดเมนูเซอร์ไพรส์เจาะลูกค้า

ร้านกาแฟนอกบ้านแข่งดุ “อินทนิล” พลิกร้านกาแฟสู่ “คาเฟ่ครบวงจร” เปิดขาย “หมูปิ้ง-โจ๊ก-ข้าว-เหนียวมะม่วง-ข้าวต้มมัด” สารพัดเมนูเซอร์ไพรส์เจาะลูกค้า

แชร์ :

ตลาดกาแฟนอกบ้าน  (Coffee Chain Store) มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท เติบโตมีการแข่งขันที่รุนแรงต่อเนื่องทุกปี โดยส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้ตลาดมีการเติบโตคือ การแข่งขันของเชนร้านกาแฟที่มาจากสถานีบริการน้ำมัน ที่ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,000 สาขา จากผู้เล่น 3 รายหลัก เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมให้มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

“ร้านกาแฟอินทนิล” ของบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด คือหนึ่งในผู้เล่นหลักของตลาดยาวนานกว่า 18 ปี มีจำนวนสาขามากกว่า 1,000 แห่งทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมันบางจาก จนครอบคลุมทุกภูมิภาคในประเทศไทยทั้งในรูปแบบแฟรนไชส์ และลงทุนเอง ตลอดช่วงที่ผ่านมา “อินทนิล” สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์การตลาดหลากหลายรูปแบบพื่อให้ใกล้ชิดลูกค้ากลุ่มต่างๆมากขึ้น

จากการสำรวจของ “อินทนิล” ในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ปัจจุบันคนเข้าปั๊มบางจากจะใช้เวลาในปั๊มพียง 15 นาทีแล้วก็ออกไป โดยประมาณ 20% ของลูกค้าเข้ามาปั๊มเพราะธุรกิจ Non-Oil ขณะที่กลุ่มคนที่ใช้รถไฟฟ้าจะใช้เวลา 30-40 นาที และมีค่าใช้จ่ายต่อบิล 100 บาท (ไม่รวมน้ำมัน) และด้วยพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น  บวกกับแนวโน้มตลาดกาแฟนอกบ้านเมืองไทยมีตัวแปรเข้ามาเพิ่ม ตั้งแต่เรื่องของเทรนด์ คู่แข่ง ตลอดจนการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ Disrupt พฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้การเป็นเพียง “ร้านกาแฟ” ไม่เพียงพอต่อความต้องการ อีกทั้งยังไม่มากพอที่จะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ ทำให้แบรนด์เริ่มมองหาแม็กเนตใหม่ๆให้กับร้านเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าแวะเวียนเข้ามาตลอดทั้งวัน

คุณยศธร อรัญนารถ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากรีเทล จำกัด กล่าวว่า “ในเมื่อถนนเส้นหนึ่งมีมินิมาร์ท และปั๊มน้ำมันทุก 200 เมตร ตลอดจนคอนโด สถานที่ต่างๆ ก็มีร้านซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านกาแฟ ไว้คอยบริการภายในพื้นที่อยู่แล้ว… แล้วทำไมคนจะต้องมาที่เรา?  และนั่นคือโจทย์ใหญ่ที่ต้องทำ (ปรับวิธีการบริหารจัดการร้านอินทนิล) เพื่อให้ “อินทนิล” และ “ปั๊มบางจาก” ตลอดจนร้านค้าภายในเป็นหมุดหมายของลูกค้าที่สามารถมาได้ทุกวัน และตลอดเวลา แบบ All Time ให้ได้”

 

เพิ่มแม็กเนตใหม่ “เครื่องดื่ม-อาหาร-Shop in Shop” ปลุกทราฟฟิกแบบ All Time เพิ่มสัดส่วน Non Drink 50% ในอนาคต

โดยแนวทางการบุกตลาดของร้าน “อินทนิล” จากนี้ไปจะเน้นการดำเนินงานภายใต้สโลแกน “อินทนิล เพื่อคุณเพื่อโลก” เน้นสร้างผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน  ซึ่งนอกจาก 3 เมนูเครื่องดื่มขายดีอย่าง 1. อเมริกาโน่เย็น จากอาราบิก้า 100%  2.เมนูโกโก้ เมนูซิกเนเจอร์ ขายดี และ 3. เมนูชาไทย ที่ชงจากเครื่องชง เป็นเมนูเรือธงที่ขายดีภายในร้านแล้ว

“อินทนิล” ยังได้มีการนำเมนูอาหารข้าวเหนียวหมูปิ้ง ข้าวต้มมัดโบราณ ขนมใส่ไส้ นำร่องบริการในปั๊มน้ำมัน 6-7 แห่ง อาทิ ในพื้นที่กรุงเทพกรีฑา ศาลายา ร่มเกล้า เพื่อดึงลูกค้าทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาร้านกาแฟได้ตลอดวัน จากปกติที่ช่วงเวลาขายดีของร้านจะอยู่ตอนเช้าและกลางวัน ก่อนที่สิ้นปีนี้จะเปิดตัว “เมนูโจ๊ก” และ “ผลไม้สดตัดแต่งตามฤดูกาล” ออกมาเพิ่มเติม และยังมีโครงการทำโรงเรียนสอนและฝึกผู้ประกอบการให้เรียนรู้การตัดผลไม้สดอย่างสวยงาม ถูกวิธีได้มาตรฐานของร้านอินทนิล

 

 

“เราพบว่าหลังจากการนำเมนูขวัญใจมหาชนอย่างข้าวเหนียวหมูปิ้ง มาวางจำหน่ายภายในร้านพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เมนูหมูปิ้งของเราไม่ใช่การใช้สินค้าโฟรเซ่นแล้วอบ แต่คือการปิ้งกันสดๆหน้าร้าน ที่ต้องสดใหม่ทุกวัน ซึ่งทำให้ลูกค้าพอใจ และจากนี้ไปเราจะเติมเมนูท้องถิ่น-เมนูแปลกใหม่เข้าไปเพิ่มมากขึ้น โดยส่วนหนึ่งเรายังให้สิทธิ์ผู้ซื้อแฟรนไชส์สัดส่วนสินค้าอื่นๆ และสามารถ Customize ตามความต้องการของลูกค้าในย่าน” คุณยศธร กล่าว

นอกจากนี้ยังเปิดโมเดลใหม่ คือ โมเดลช็อปอินช็อป บนพื้นที่กว่า 100 ตร.ม. ภายในร้านกาแฟอินทนิลสาขาสุขุมวิท 62 ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ด้วยการจัดพื้นที่จำหน่าย “ข้าวเหนียวมะม่วง” ระดับมิชลินเป็นทางเลือกให้ลูกค้าด้วย  จากเดิมที่มีทั้งกาแฟ เบเกอรี่ ครัวซองค์ อยู่แล้ว และยังได้ขยายเพิ่มอีกหนึ่งสาขาที่ถนนบายพาสภาคตะวันออกในจังหวัดชลบุรี  โดยมีเมนู “ขนมครกแม่ศรีเรือน” ให้บริการ ซึ่งแผนงานทั้งหมดมีเป้าหมายขยายสัดส่วนสินค้ากลุ่ม Non-Drink เพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 20%

ไม่เพียงแต่กลุ่ม Non-Drink แต่อินทนิล ยังต่อยอดเครื่องดื่มกลุ่มใหม่ อย่างเครื่องดื่มเมนูผลไม้ปั่นสด เข้ามาเป็นไฮไลต์  ไม่ว่าจะเป็น แตงโมปั่น น้ำมะพร้าวปั่น มะยังชิดปั่น นำ้ส้มปั่น  อะโวคาโด้ปั่น ตลอดจนเครื่องดื่มเมนูใหม่ และยังมีซีซันนอลเมนูออกใหม่ทุกๆ 2 เดือน ควบคู่กับการเพิ่มเมนูเครื่องดื่ม D.I.Y .ให้ลูกค้าสามารถครีเอท หรือใส่เพิ่มเครื่องดื่มต่างๆ ตามใจชอบได้ เพื่อเป็นการเพิ่ม Life Time ให้แก่ลูกค้า ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาดจนสามารถสร้างยอดขายเพิ่มมากกว่า 20% ให้แก่กลุ่มเครื่องดื่มในร้านได้อีกด้วย

อย่างไรก็ดีจากการปรับเปลี่ยนแผนงาน ตลอดจนไอเทมใหม่ๆในร้าน ทำให้ยังทำให้ผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์สามารถคืนทุนได้เร็วขึ้น ซึ่งหากทำตลาดถูกวิธีก็สามารถคืนทุนได้ใน 1 ปี จากปกติคืนทุน 5 ปี 

 

 

เปิดเพิ่มปีละ 200 สาขาทั้งแฟรนไชส์-ลงทุนเอง พร้อมให้สิทธิ์ผู้ซื้อแฟรนไชส์ร่วมออกแบบร้าน​เพิ่ม Unique Design 

อีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทางแบรนด์ต้องเร่งผลักดันเพิ่มมากขึ้น จากนี้ไปคือการเดินหน้าขยายสาขาใหม่ปีละ 200 สาขา จากปกติที่ขยายปีละ 150 สาขา ซึ่งจะเป็นการเพิ่มสปีดในการขยายสาขาไปยังทำเลใหม่ๆ ในอนาคต โดยวางเป้าขยายสาขาจนครบ 1,060 สาขาในสิ้นปี 2567  แบ่งเป็น  แฟรนไชส์ 75% บริษัทลงทุนเอง 25%  และสัดส่วนสาขาในปั๊ม 60% นอกปั๊ม 40% นอกจากนี้ยังมีสาขาในสปป.ลาว 5 สาขาและกัมพูชา 1 สาขา

“ปัจจุบันเรามีปั๊มน้ำมันทั้งที่เป็นของบางจาก และหลังจากซื้อกิจการเอสโซ่เข้ามารวมกันที่  2,200 สาขา ขณะที่ร้านอินทนิลเรามี 1,000 สาขาเท่านั้น ทำให้เรายังมีโอกาสอีกมากในการขยายสาขาออกไป แม้ในสาขาที่เป็นปั๊มเอสโซ่เดิมจะเป็นเชนร้านกาแฟจากแบรนด์อื่นมีสัญญาอยู่ แต่ในระยะยาวหากมีโอกาสหรือช่วงเวลาที่เหมาะสมเราก็พร้อมที่จะขยายเข้าไปทันที แต่ก็ต้องดูปริมาณคน ทราฟฟิกก่อน นอกจากนี้ยังมีทำเลนอกปั๊มที่เราจะขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง”

สำหรับรูปแบบของแต่ละสาขาจะต้องมีการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ ทั้งผู้ได้รับสิทธิแฟรนไชส์ ผู้ประกอบการต่างๆในการพัฒนาความแปลกใหม่ร้านร่วมกัน ซึ่งแต่ละสาขาจะต้องมีความเป็น Unique Design โดดเด่น ตอบโจทย์แต่ละทำเล ที่แตกต่างกันในแต่ทำเล  และผู้ประกอบการและอินทนิลได้การร่วมกันออกแบบดีไซน์ทั้งภายในภายนอก ปรับโฉมใหม่ให้ร้านน่าสนใจและแตกต่าง ส่วนทางอินทนิลจะทำหน้าที่ในการพัฒนาด้านการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การดูแลลูกค้าผ่านบัตรกรีนไมล์ ที่มีอยู่ 8 ล้านสมาชิก ให้ได้รับสิทธิพิเศษ ผ่านระบบ CRM ต่างๆ และการพัฒนาโปรแกรมการตลาดเพื่อจับ Gen Z มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของเทคโนโลยี QR Code Smart Order ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์สามารถเลือกเมนูและจ่ายบนมือถือได้เลยทันที สิทธิและโปรโมชันต่างๆ เพื่อให้ได้ร้านอินทนิลที่ดีที่สุดในพื้นที่แห่งนั้น

“อดีตภาพกาแฟในปั๊มน้ำมัน เป็นเพียงสถานที่แวะเติมน้ำมันและซื้อของระหว่างทาง … แต่เราต้องการเปลี่ยนให้ร้านกาแฟเป็นสถานที่นัดพบ พบปะระหว่างเพื่อนฝูง จึงต้องพัฒนาคอนเซปต์ให้ตอบโจทย์มากขึ้น ทั้งเพิ่มขนาดพื้นที่ เพิ่มฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการ อย่างห้องประชุม ตลอดจนการเพิ่มมุมพิเศษเข้าไปในร้าน เช่น อาร์ตทอย ซึ่งเป็นการ “Customize” รูปแบบสาขาตามโลเคชันของแต่ละพื้นที่” คุณยศธรกล่าวทิ้งท้าย

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like