ธุรกิจค้าปลีก “ร้านสะดวกซื้อ” เป็นสมรภูมิที่มีการแข่งขันสูง ในปี 2566 มีร้านสะดวกซื้อ จำนวน 21,481 สาขา ร้าน 7-Eleven มีส่วนแบ่งการตลาดจำนวนสาขาของร้านสะดวกซื้อ 68% หรือกว่า 14,545 สาขา รองลงมาได้แก่ โลตัส โก เฟรช 8% และมินิ บิ๊กซี 7%
ดังนั้นผู้ประกอบการที่จะเข้าสู่ธุรกิจร้านสะดวกซื้อจึงต้องลงทุนอย่างหนัก เร่งขยายสาขา ทำสเกลให้ได้เพื่อแข่งชิงตลาด แต่การลงทุนจำนวนมากก็เสี่ยงขาดทุนได้เช่นกัน
ขณะที่ร้าน LAWSON108 (ลอว์สัน 108) ภายใต้ “สห ลอว์สัน” บริษัทร่วมทุน “ลอว์สัน” ร้านสะดวกซื้อเบอร์ 2 ในประเทศญี่ปุ่น กับ “สหพัฒนพิบูล” เครือสหพัฒน์ เข้ามาลงทุนธุรกิจร้านสะดวกซื้อในไทยปีนี้ครบรอบ 11 ปี ปัจจุบันมี 300 สาขา
ปีที่ผ่านมา “ลอว์สัน 108” ในประเทศไทยครบรอบ 10 ปี และเป็นปีแรกที่ทำ “กำไร” แนวโน้มปีนี้ก็ยังทำกำไรต่อเนื่อง
คุณเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC และกรรมการบริษัท สห ลอว์สัน จำกัด กล่าวว่าจุดพลิกของ “ลอว์สัน 108” ที่ไม่ต้องเน้นขยายสาขาจำนวนมากหรือเป็นพันสาขา แต่ก็ทำกำไรได้ มาจากการเลือกทำเลที่เหมาะสมเพื่อให้บริการลูกค้าอีกกลุ่มที่แตกต่างจากร้านสะดวกซื้ออื่นๆ
“ลอว์สัน” เป็นแบรนด์ร้านสะดวกซื้อจากญี่ปุ่น มีภาพลักษณ์ที่ดี คนไทยที่ไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น รู้จักและชื่นชอบแบรนด์ จุดเด่นของ “ลอว์สัน 108” ในประเทศไทย คือของกินสไตล์ญี่ปุ่น เช่น ขนม โอเด้ง ที่ร้านสะดวกซื้ออื่นๆ ไม่มี เป็นสินค้ากลุ่มพรีเมียมที่ลูกค้านิยมซื้อ และมียอดจับจ่ายต่อคนสูงกว่าร้านสะดวกซื้ออื่นๆ ทำให้ยอดขายเติบโตและธุรกิจทำกำไร
“ปี 2568 วางแผนเปิด ลอว์สัน 108 อีก 50 สาขา ไม่เน้นเปิดเป็น 1,000 สาขา เพราะเปิดมากก็ขาดทุนได้ เรารู้จักลูกค้า รู้ว่าแต่ละทำเลลูกค้าต้องการอะไร การเลือกทำเลเปิดสาขาใหม่จึงต้องอยู่ได้และทำกำไร”
ในโอกาสครบรอบ 11 ปี “สห ลอว์สัน” ในปีนี้ ได้เปิดร้าน LAWSON108 Flagship Store แห่งแรกในประเทศไทย ที่ชั้น G อาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ สีลม ตกแต่งร้านด้วยคอนเซปต์ “Japanese Modern Style × Neo future Style” พื้นที่ขนาดใหญ่ 200 ตร.ม. สามารถจัดวางสินค้าได้หลากหลายมากขึ้น อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้ลูกค้าได้นั่งในร้านได้อีกด้วย
สาขาแฟลกชิปมีสินค้าสไตล์ญี่ปุ่น เช่น โอเด้ง ข้าวกล่องปรุงสดในร้าน ข้าวปั้น ของทอด รวมถึงขนมหวาน เช่น พุดดิ้งและเค้ก มีสินค้าไฮไลต์จำหน่ายเฉพาะสาขานี้ด้วย โดยเฉพาะ “L chiki” ไก่ทอดสูตรเดียวกับที่ขายที่ร้านลอว์สัน ประเทศญี่ปุ่น และจะมีขายในไทยเป็นครั้งแรก อีกทั้ง ไอศครีม “เจลาโต้” รสนมฮอกไกโดและรสมัทฉะ รวมถึงกาแฟ “Champion Blend” ที่ใช้เมล็ดกาแฟพิเศษจากแบรนด์ “LAWSON Cafe” รวมทั้งสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น
“กลยุทธ์การเปิดสาขาแฟลกชิปในรูปแบบที่แตกต่างจากเดิม เป็นการให้ความสำคัญนำเสนอประสบการณ์ใหม่ระดับพรีเมียมให้กับลูกค้าในการเข้าร้านสะดวกซื้อด้วยสินค้าที่มีเอกลักษณ์และแตกต่าง”
ปัจจุบันร้าน ลอว์สัน 108 กระจายอยู่ตามอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล คอนโดมิเนียม รวมถึงร้านบนสถานีรถไฟฟ้า BTS ซึ่งเป็นสาขาที่มีพื้นที่ไม่มาก จึงเลือกวางจำหน่ายสินค้าสำหรับกลุ่มที่กำลังเดินทาง โดยเฉพาะเมนูอาหารและเครื่องดื่มรูปแบบ Grab & Go ที่สะดวกรวดเร็ว โดยมีเครื่องดื่มกาแฟชงสดเข้ามาให้บริการเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีสาขาใน Metro Mall สถานี MRT
แนวทางการขยายสาขารูปแบบร้านทั่วไปหลังจากนี้จะเน้นทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าใหม่ที่มีเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศหรือสินค้าที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE