HomePR Newsโรยัล เอ็นฟีลด์ เปิดแผนบุกตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง เดินครื่องกลยุทธ์เต็มสูบเร่งเติบโต 20% ในไทย [PR]

โรยัล เอ็นฟีลด์ เปิดแผนบุกตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง เดินครื่องกลยุทธ์เต็มสูบเร่งเติบโต 20% ในไทย [PR]

แชร์ :

โรยัล เอ็นฟีลด์ (Royal Enfield) ผู้นำระดับโลกในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง (250cc-750cc) จัดเต็มกลยุทธ์บุกตลาดในไทย เปิดตัวรถรุ่นใหม่ ส่งคอลเลกชันเครื่องแต่งกายเอาใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เร่งขยายตัวแทนจำหน่ายเพิ่มอีก 14 แห่ง จาก 30 แห่ง ภายในมีนาคม 2567 รองรับความต้องการของลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าสร้างประสบการณ์ร่วมแบรนด์กับผู้บริโภคผ่าน ‘คอมมูนิตี้ มาร์เก็ตติ้ง’ มากกว่า 50 คลับ ตั้งเป้าปี 67 เติบโต 10-20%

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

นายอนุจ ดัว หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ โรยัล เอ็นฟีลด์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของโรยัล เอ็นฟีลด์ เปิดเผยว่า โรยัล เอ็นฟีลด์ (Royal Enfield) ผู้นำระดับโลกในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง (250cc-750cc) ประสบความสำเร็จในตลาดประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2558 และเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา มีฐานลูกค้ามากกว่า 20,000 ราย และ ตัวแทนจำหน่ายกว่า 30 แห่ง ใน 24 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีการรวมตัวกันสร้างเป็นชุมชน (Community) ของคนที่รักในแบรนด์ โรยัล เอ็นฟีลด์ (Royal Enfield) มากกว่า 50 คลับทั่วประเทศไทย

ทั้งนี้ ท่ามกลางภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (250-750 ซีซี.) ในประเทศไทย ประมาณ 25,000-27,000 คันเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองในประเทศไทยที่ยังไม่ฟื้นตัว อย่างไรก็ดี คาดหวังว่าหลังจากนี้เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยนิ่งแล้วจะส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ในขณะที่ทาง โรยัล เอ็นฟีลด์ (Royal Enfield) ยังคงมองเห็นโอกาสที่ดีในอนาคต โดยคาดการณ์การเติบโตของยอดขายไว้ที่ 10-20% ในปีงบประมาณ 2567/2568 เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มียอดขาย 4,000 คัน ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากปัจจัยด้านกลยุทธ์การขยายธุรกิจ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และการมีส่วนร่วมของชุมชนที่แข็งแกร่ง เช่น โครงการฝึกอบรมผู้ขับขี่ อิสระในการแต่งรถหรือคัสตอม

“บริษัทฯ ได้ทำงานร่วมกับดีลเลอร์อย่างใกล้ชิดเพื่อวางแผนการดำเนินธุรกิจในสภาวะตลาดชะลอตัว โดยคาดว่าตลาดในภาพรวมจะทยอยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาอีก 1 รุ่น เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และเตรียมเปิดตัวอีกอย่างน้อย 3 รุ่น ในปีหน้า” นายอนุจ กล่าว

สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจและการตลาด ในปี 2567 มุ่งเน้นไปที่การมอบประสบการณ์การขับขี่และบริการหลังการขาย พร้อมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนการขับขี่ที่แข็งแกร่งทั่วประเทศไทย เพื่อสร้างความรักและเชื่อมั่นในแบรนด์อย่างต่อเนื่อง

ด้านแคมเปญทางการตลาด เตรียมนำเสนอแคมเปญแบบบูรณาการเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น พร้อมทั้งขยายตัวแทนจำหน่ายเพิ่มอีก 14 แห่ง ภายในมีนาคม 2567 เพื่อครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทั่วประเทศ ตลอดจนการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง รองรับความต้องการของผู้ขับขี่ชาวไทย ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ

นอกจากนี้ ยังมีการขยายความร่วมมือกับสถาบันการเงิน เพื่อเสนอแนวทางและทางเลือกในการเข้าถึงสถาบันทางการเงินให้กับลูกค้า รวมทั้งขยายธุรกิจฟลีทเพื่อเข้าถึงโอกาสทางการค้าใหม่ๆ และการเพิ่มไลน์สินค้าไลฟ์สไตล์และเครื่องแต่งกาย โดยเตรียมเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ออกมาเอาใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย พร้อมกันนี้ก็ได้เตรียมขยายการรับรู้ของแบรนด์บนดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น

ที่ผ่านมา โรยัล เอ็นฟีลด์ (Royal Enfield) ให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทยซึ่งเป็นฐานสำคัญในระดับภูมิภาค และอยู่ระหว่างการดำเนินงานสำหรับแผนการลงทุนในระดับโลกที่ประเทศไทยเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันบริษัทมีสำนักงานย่อยในประเทศไทย 1 แห่งจาก 6 แห่งทั่วโลก โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจประกอบรถจักรยานยนต์จำนวน 7 รุ่น เพื่อจำหน่ายในประเทศ

“โรยัล เอ็นฟีลด์ (Royal Enfield) ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในตลาดประเทศไทย จากการที่ไม่ได้ขายแค่รถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น แต่ขายประสบการณ์การขับขี่ ทำให้เกิดความแตกต่างด้านผลิตภัณฑ์และวัฒนธรรมการขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนการมีแผนกลยุทธ์ที่หลากหลาย แคมเปญทางการตลาด และ การมีส่วนร่วมของชุมชนการขับขี่ที่แข็งแกร่ง พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนจากลูกค้า ตัวแทนจำหน่าย และพันธมิตร เราจึงมีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์และประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางที่แข็งแกร่งในประเทศไทย” นาย อนุจ ดัว กล่าว

โดย โรยัล เอ็นฟีลด์ สามารถก้าวเป็นผู้นำในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางได้สำเร็จทั้งในตลาดประเทศอินเดียและทั่วโลก ไปจนถึงการสร้างมาตรฐานใหม่ จากการเป็นแบรนด์พรีเมียมระดับโลกรายแรกจากอินเดีย และมีโรงงานผลิตที่ทันสมัย 3 แห่งในอินเดีย ศูนย์เทคนิค 2 แห่งในสหราชอาณาจักรและอินเดีย และเครือข่ายบริษัทสาขาที่แข็งแกร่งทั่วโลก รวมถึง โรยัล เอ็นฟีลด์ ในประเทศไทย


แชร์ :