HomeBrand Move !!35 ปี นารายา (NaRaYa) จากพื้นที่ขาย 2 ตร.ม. มุ่งหน้าสู่ Digital Marketing  ขยายตลาด – สินค้าครอบคลุมทุกวัย ดันรายได้เพิ่ม 30%

35 ปี นารายา (NaRaYa) จากพื้นที่ขาย 2 ตร.ม. มุ่งหน้าสู่ Digital Marketing  ขยายตลาด – สินค้าครอบคลุมทุกวัย ดันรายได้เพิ่ม 30%

แชร์ :

หากพูดถึงสินค้าแบรนด์ที่ไทยยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ที่มักจะซื้อไปเป็นของขวัญของฝากหากมาเยือนเมืองไทยหลายคนคนนึกถึง “นารายา (NaRaYa)” แบรนด์กระเป๋าผ้าสัญชาติไทยที่มียอดขายหลักพันล้านบาท

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ทว่ากว่าจะประสบความสำเร็จจนกลายเป็นกระเป๋าขวัญใจมหาชน (นักท่องเที่ยว) ได้แบบในปัจจุบัน “นารายา” ต้องเผชิญมรสุมหลายระลอก วิกฤตต่างๆ นานา ตั้งแต่ราคาวัตถุดิบ การเข้ามาของแบรนด์ใหม่ๆ ที่ไทยและต่างชาติ ตลอดจนวิกฤตการโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างหนัก เพราะขาดทั้งนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักกว่า 80% (ในเวลานั้น)  ตลอดจนการปิดตัวของสาขาในศูนย์การค้าเป็นเวลาหลายเดือน

ทำให้ยอดขายที่มีอยู่ 1.2 พันล้านบาทในปี 2562 (ในปี 2558 ทำยอดขายได้ถึง 1.8 พันล้านบาท) ลดลงเหลือ 451 ล้านบาทในปี 2563 แม้ยอดขายจะลดลงแต่ระหว่างทางที่แบรนด์ต้องเผชิญปัจจัยลบรอบด้าน ก็ยังเดินหน้าปรับตัวตลอดเวลา ตั้งแต่ การปรับภาพลักษณ์สินค้าให้ดูเด็กลง Look Younger เพื่อขยายไลน์สินค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น การขยายเข้าไปในช่องทางออนไลน์ จนทำให้ในปี 2566 สามารถทะยานรายได้กว่า 557 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2567 นี้

 

 

เพื่อเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ในโอกาสครบรอบ 35 ปี “นารายา” จึงได้จัดงานฉลอง 35 ปีสุดยิ่งใหญ่ ภายใต้ชื่องาน  “NaRaYa 35 Year Anniversary” ในรูปแบบ Event Exhibition นิทรรศการเสมือนจริงบนพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตร เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เร่ิมตั้งแต่ก้าวแรกในปี พ.ศ.2532 จนผ่านห้วงเวลาที่สำคัญและการเปลี่ยนแปลงมากมาย จนครบ 35 ปีและได้รับการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น จากพื้นที่จำหน่ายเพียง 2 ตารางเมตร ด้วยสินค้าที่เน้นในเรื่องคุณภาพและการใช้งานที่คงทน หลากหลาย กลายเป็น Word of Mouth Marketing จากลูกค้าถึงลูกค้าด้วยกันเอง จนมีสินค้าส่งออกไปวางจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลก และมีสาขากว่า 18 สาขาในประเทศไทย

กลายเป็นสินค้าขายดีที่เป็น must have item ของชาวต่างชาติเมื่อมาท่องเที่ยวประเทศไทยในปัจจุบัน “ด้วยลวดลายและรูปแบบที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์” ของนารายา รวมถึงการรักษาจุดขายที่โดดเด่น 4 ด้านอยู่เสมอ คือ

  • Quality คุณภาพ
  • Functional ฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย
  • Variety ความหลากหลายของสินค้า
  • Affordable price ราคาที่จับต้องได้

คุณพศิน ลาทูรัส รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์อินเตอร์เทรด จำกัด (NaRaYa) กล่าวว่า ปัจจัยทั้งหมดทำให้แบรนด์สามารถอยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน และนอกจากนี้ กระเป๋าทุกใบของแบรนด์นารายา ล้วนผลิตขึ้นจากฝีมือคนไทย 100% ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ไปจนถึงการตัดเย็บ รวมทั้งวัตถุดิบในการผลิตส่วนใหญ่ก็มาจากประเทศไทย ด้วยเช่นเดียวกัน

 

เดินหน้าสู่ Digital Marketing ขยายตลาด – สินค้าครอบคลุมทุกวัย ดันรายได้เพิ่ม 30%

สำหรับทิศทางของแบรนด์ต่อจากนี้ “นารายา” จะเริ่มรุกเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ รวมทั้งเพิ่มรูปแบบ และลวดลายของสินค้าให้มีความหลากหลายและครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงการขยายสาขา และการรุกเข้าสู่ Digital Marketing มากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการเลือกและการซื้อสินค้าของลูกค้าที่เปลี่ยนไปในยุคปัจจุบัน 

 

คุณพศิน ลาทูรัส

คุณพศิน ลาทูรัส

 

รวมถึงการแสวงหาโอกาสและความร่วมมือกับบริษัทฯ หรือสินค้าประเภทอื่นๆ ในรูปแบบของการ Collaboration เพื่อเพิ่มโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ ซึ่งคาดว่า การดำเนินการทั้งหมด จะช่วยกระตุ้นยอดขายสินค้าของปี 2567 ให้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และเพิ่มขึ้นอีก 30% ในปี 2568

นอกจากเรื่องการดำเนินธุรกิจแล้ว “คุณพศิน ลาทูรัส” ยังบอกอีกว่า นารายา ยังมีโครงการ “Beyond Sight” เป็นความร่วมมือระหว่างนารายาและกลุ่มคนตาบอด เพื่อจ้างงานกลุ่มคนตาบอดในการตัดเย็บกระเป๋า โดยทุกคนจะได้รับค่าจ้างที่มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำและเทียบเท่าการจ้างงานคนปกติทั่วไป ซึ่งในโอกาสฉลองครบ 35 ปีผลิตสินค้าคอลเล็กชันพิเศษภายใต้โครงการนี้ออกมาวางจำหน่ายเช่นกัน 

โดยใช้ชื่อว่า “Beyond Sight Collection” เพื่อเป็นการมอบโอกาสให้กับผู้ที่มีความสามารถ ได้แสดงฝีมืออย่างไร้ข้อจำกัด และรายได้จากการจำหน่ายสินค้าในคอลเล็กชันดังกล่าว ยังช่วยสนับสนุนกลุ่มคนตาบอด ให้มีงาน มีอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like