หลังหุ้น บมจ.อาร์เอส ที่มี “เฮียฮ้อ คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เจอแรงถล่มเทขายหุ้นจนราคาร่วงมาทำราคาต่ำสุด (ฟลอร์) 3 วันติด ทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) หายไปเกือบ 8,000 ล้านบาท
ล่าสุด RS ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ จากการตรวจสอบพบว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเกิดจากธุรกรรมทางการเงินส่วนบุคคลของผู้บริหาร ซึ่งใช้หุ้นจำนวนหนึ่งเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับธุรกรรมทางการเงินส่วนบุคคล เมื่อราคาหุ้นปรับลดลง จึงเกิดการขายหลักทรัพย์ตามเงื่อนไข (Forced sell)
ขณะที่อีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากปัจจัยภายนอกและกลไกตลาด โดย RS ยืนยันว่าธุรกรรมดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัท รวมทั้งไม่มีปัจจัยภายในที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ โดย RS ยังเดินหน้าตามวิสัยทัศน์และแผนกลยุทธ์ที่วางไว้
คณะกรรมการบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อออกมาตรการและทบทวนนโยบายการกำกับดูแลกิจการตามหลักธรรมาภิบาล รวมถึงการปรับปรุงนโยบายการบริหารความเสี่ยง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันและเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียในอนาคต
รายงานข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า “เฮียฮ้อ คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” ผู้ถือหุ้นใหญ่ RS ด้วยสัดส่วน 22.32% หรือจำนวน 487 ล้านหุ้น ถูกบังคับขายหุ้น (Forced sell) จากการนำหุ้นของตัวเองไปจำนำนอกตลาดรวมมูลค่า 1,000 ล้านบาท ทำให้ราคาหุ้น RS ร่วงแรงตลอด 3 วันที่ผ่านมา
ราคาหุ้น RS ทำราคาต่ำสุด 3 วันต่อเนื่อง
– วันที่ 7 ม.ค. 2568 ราคาปิดที่ 3.74 บาท ลดลง 1.61 บาท หรือ -30.09% (มาร์เก็ตแคป 8,161 ล้านบาท)
– วันที่ 8 ม.ค. 2568 ราคาปิดที่ 2.60 บาท ลดลง 1.14 บาท หรือ -30.48% (มาร์เก็ตแคป 5,673 ล้านบาท)
– วันที่ 9 ม.ค. 2568 ราคาปิดที่ 1.81 บาท ลดลง 0.79 บาท หรือ -30.38% (มาร์เก็ตแคป 3,949 ล้านบาท)
หลังจากหุ้น RS ทำราคาฟลอร์ 3 วันติด ส่งผลให้มาร์เก็คแคปลดลงไป 7,944 ล้านบาท เทียบจากราคาหุ้น ณ วันที่ 30 ธ.ค.2567 หุ้น RS ราคาอยู่ที่ 5.45 บาท มีมาร์เก็ตแคป 11,893 ล้านบาท
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE