HomeBrand Move !!ท็อปส์ จับอินไซต์ “ตรุษจีน 2025” คนรุ่นใหม่กันจับจ่ายสินค้ามากขึ้น แต่ต้องมี “สตอรี่-มูเตลู-คุ้มค่า” ส่วน Baby Boomer ครองแชมป์ใช้จ่ายสูงสุด 5,000 บาท/บิล

ท็อปส์ จับอินไซต์ “ตรุษจีน 2025” คนรุ่นใหม่กันจับจ่ายสินค้ามากขึ้น แต่ต้องมี “สตอรี่-มูเตลู-คุ้มค่า” ส่วน Baby Boomer ครองแชมป์ใช้จ่ายสูงสุด 5,000 บาท/บิล

แชร์ :

ปีใหม่ผ่านพ้นไป “ตรุษจีน” ก็ใกล้เข้ามา หลายธุรกิจต่างเตรียมแผนงานเพื่อรับมือกับภาคประชาชนที่จะออกมาร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลสำคัญ โดยเฉพาะในภาคค้าปลีกและบริการที่ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงไฮไลต์สำคัญ เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่สามารถสร้างเม็ดเงินสะพัดและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกได้เป็นอย่างดี

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ข้อมูลจาก  Euromonitor ปี 2567 ระบุว่า ตลาดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคของไทย มีมูลค่าประมาณ 2 ล้านล้านบาท ฟื้นตัวเต็มที่จากสถานการณ์โควิด-19 โดยคาดการณ์ว่า ตลาดจะเติบโตที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 4.6% ในช่วงปี 2568-2570 ทำให้มูลค่าตลาดขยายตัวเป็น 2.3 ล้านล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 คาดว่าได้รับอานิสงส์จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่าง มาตรการ ‘EASY e-RECEIPT’ และภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง

คุณจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า จากตัวเลขการเติบโตของสินค้าอุปโภคบริโภครวมถึงมาตรการของภาครัฐ ทำให้มองว่าเทศกาลตรุษจีนนับเป็นอีกหนึ่งบิ๊กโมเมนตัมของธุรกิจค้าปลีกที่ต่อเนื่องมาจากช่วงปีใหม่ ที่จะสร้างความคึกคักและก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาพรวมทั่วประเทศ

 

 

“ท็อปส์”  เล็งเห็นโอกาสในการกระตุ้นภาคการบริโภคของตลาดในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ จึงเดินหน้าจัดแคมเปญใหญ่ครั้งแรกของปี THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 ต้อนรับปีมะเส็ง ด้วยสารพัดสินค้าและเอ็กซ์คลูซีฟไอเท็มที่หลากหลายและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ท็อปส์ได้เป็นจุดหมายของการจับจ่ายและซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน”

 

ส่องเทศกาล “ตรุษจีน” ปี 68กับ 5 กลุ่มสินค้ายอดนิยม วัยไหน ใช้จ่ายอะไรบ้าง?

จากดาต้าของลูกค้าท็อปส์ในช่วงเทศกาล “ตรุษจีน” ปี 2567 ที่ผ่านมาพบว่า 54% ของลูกค้าที่มาจับจ่ายมีอายุระหว่าง 35 – 54 ปี หรืออยู่ในช่วงระหว่าง Gen Y และ Gen X เป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนของลูกค้าผู้หญิงมากถึง 76% และกว่า 69% อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล

นอกจากนี้ ยังพบว่าช่วงระยะเวลาดังกล่าว มียอดจับจ่ายซื้อสินค้าต่อตะกร้า (Basket Size) เติบโตขึ้น 23% เทียบกับช่วงเวลาปกติ รวมทั้งในปี 2567 มียอดขายการสั่งซื้อสินค้าตรุษจีนล่วงหน้า (พรีออเดอร์) ของท็อปส์ที่เติบโตขึ้น 59% เทียบกับปี 2566 และมียอดขายสูงสุด ในวันจ่ายเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ  โดยที่ 5 หมวดหมู่สินค้าขายดีในช่วงตรุษจีนปี 2567  และคาดการณ์ว่าในปี 2568 ก็จะยังเป็นกลุ่มสินค้าที่ได้รับความสนใจ ประกอบด้วย

  • ผักและผลไม้ (Produce) 22.2%
  • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (Cleaning) 20.5%
  • เครื่องปรุงและอุปกรณ์ทำอาหาร (Cooking) 11.7%
  • เนื้อสัตว์และอาหารทะเล (Meat & Seafood) 9.4%
  • ของใช้ในบ้าน (Home Care) 8.6%

 

 

ขณะที่เทรนด์ที่น่าสนใจในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2568 นี้ ที่ผู้บริโภคจะใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประกอบไป 4S ได้แก่

  • Smart Spending & Value Equation : บริโภคส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้จ่ายด้วยความระมัดระวัง คำนึงถึงความจำเป็นของสินค้าเป็นปัจจัยหลัก รวมทั้งพิจารณาความคุ้มค่าของสินค้าเทียบกับราคา เพื่อให้มั่นใจว่าแผนการใช้จ่ายรัดกุมมากพอ และจะไม่ส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินในอนาคต
  • Self-Healing : ศรษฐกิจที่กำลังกลับมาฟื้นตัว และสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรายวัน ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยมุ่งแสวงหาความสุขทางใจมากขึ้น ซึ่งความสุขที่ใกล้ตัวและตอบสนองความต้องการได้เร็วที่สุด ก็คือการซื้อหาสินค้าที่สวยงามทันสมัย นำเทรนด์ใหม่ ๆ หรือมีเรื่องราวที่ทำให้ประทับใจ
  • Sustainability :การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2568 นี้ มีแนวโน้มจะสนับสนุนกระแสรักษ์โลก สินค้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนมากขึ้น
  • Saiyasart : แม้ในยุคที่ดิจิทัลเชื่อมต่อกับทุกไลฟ์สไตล์ แต่คนไทยกว่า 88% เชื่อยังคงมีความเชื่อเรื่อง ‘มูเตลู’ ซึ่งข้อมูลจากสถาบันวิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ระบุว่า 5 อันดับสิ่งที่สายมูเตลูต้องการมูมากที่สุด ได้แก่ การเงิน 44%, โชคลาภ 17%, สุขภาพ 12%, การงาน 8% และการเรียนและความรักอีก 3%

นอกจากนี้ จากผลสำรวจของ ศูนย์วิจัยกรุงศรี พบว่า ผู้บริโภค Gen Y และ Gen X ประมาณหนึ่งในสาม ใช้จ่ายเงินสำหรับสินค้าเสริมโชคลาภ มากกว่า 1,000 บาทต่อปี ในขณะที่ผู้บริโภคกลุ่มเบบี้บูมเมอร์เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายมากที่สุด โดย 7% ของกลุ่มนี้ใช้จ่ายมากกว่า 5,000 บาทต่อปี

นำเทรนด์ผู้บริโภค-ดาต้าอินไซต์ สู่การจัด ‘The Great 3As’  ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

จากข้อมูลทั้งหมด “ท็อปส์” นำเทรนด์ผู้บริโภคและดาต้าอินไซต์ ท็อปส์จึงคิดค้นกลยุทธ์ ‘The Great 3As’  สำหรับเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ขึ้น เพื่อนำเสนอแคมเปญตรุษจีนแนวใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งความคุ้มค่า อย่างตรงจุดให้มากที่สุดกับ 3 ไฮไลต์ ได้แก่ 

  1. The Great ASSORTMENT: พาเหรดสินค้าอาหารและวัตถุดิบเกรดชั้นนำ รวบรวมมาให้เลือกสรรกว่า 1,500 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ผลไม้หลากหลายชนิด ,สินค้าของไหว้มงคล ,สินค้าตกแต่งเพื่อความมงคล  และสินค้าสุดพิเศษ จำหน่ายเฉพาะที่ท็อปส์เท่านั้น
  2. The Great ANG-PAO: ของขวัญสุดพิเศษให้กับลูกค้าผู้มีอุปการคุณ แจกหนักจัดเต็มกว่าทุก ๆ ปี ด้วย ‘อั่งเปาส่วนลดสูงสุด 15% และโปรโมชันอีกมากมาย
  3.  The Great CX with AMBASSADOR: ฉีกกฎตรุษจีนแบบเดิม ๆ กับการเป็น ‘A Cultural Leader’ ที่เชื่อมโยงขนบธรรมเนียมดั้งเดิมให้เข้ากับยุคสมัย พร้อมเปิดมุมมองใหม่จับมือ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เสริมทัพในฐานะพรีเซ็นเตอร์ประจำแคมเปญเพื่อร่วมสื่อสารเทศกาลตรุษจีน ในแง่มุมใหม่ ๆ โดยตั้งเป้าแคมเปญช่วยดันยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20%

“จุดมุ่งหมายของท็อปส์สำหรับแคมเปญ THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 ในปีนี้ คือ การสร้างให้ท็อปส์ เป็นจุดหมายของการจับจ่ายสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเจ้าแรก ที่มอบทั้งความครบ คุ้มค่า เกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ และประสบการณ์เชิงวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ให้กับผู้บริโภค สอดคล้องกับแนวคิด Every Day DISCOVERY ค้นพบทุกวันที่ไม่ธรรมดาได้ที่ท็อปส์ พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจของไตรมาสที่ 1 ของประเทศให้คึกคัก โดยตั้งเป้าแคมเปญช่วยดันยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20% นายจักรกฤษณ์ กล่าวสรุป


แชร์ :

You may also like