จากประสบการณ์ทำงานใน ปตท. งานแรกในตำแหน่งวิศวกร แท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล ล่าสุดดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 “ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่” ในวัย 57 ปี ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) คนใหม่ของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR
เหตุผลหลักที่ ม.ล.ปีกทอง สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็น ซีอีโอ OR มาจากราคาหุ้นที่ลดลงต่อเนื่อง
ย้อนดูหุ้น OR เปิดราคา IPO หุ้นละ 18 บาท จากนั้นซื้อขายวันแรก 11 กุมภาพันธ์ 2564 เปิดที่ราคา 26.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 47.22% หุ้น OR เคยทำสถิติราคาสูงสุดที่ 36.50 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 มาในปี 2567 แม้ตลาดหุ้นลดลง แต่หุ้น OR ลดลงมากกว่าตลาด ปัจจุบันราคาหุ้นล่าสุด (31 มกราคม 2568) อยู่ที่ 11.60 บาท ต่ำกว่า IPO
จึงเป็นคำถามว่า “ทำไมไม่มีใครมั่นใจใน OR ทำไมยิ่งพัฒนาตัวเอง แต่หุ้นยิ่งตก” ด้วยเหตุนี้มองว่าเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกัน เพื่อให้คนภายนอก นักลงทุน ผู้ถือหุ้น มีความมั่นใจใน OR มากขึ้น และมั่นใจในความสามารถของกลุ่ม ปตท. เพราะการที่หุ้นตกนั่นแสดงให้เห็นว่านักลงทุนไม่มั่นใจใน OR การเข้ามาเป็นซีอีโอ จึงมีหน้าที่ทำให้ทุกคนในองค์กรมีเป้าหมายร่วมกัน เพื่อทำให้คนนอกองค์กร เห็นว่ามีคนเก่งในการทำงาน และนำพา OR ไปสู่ความสำเร็จได้
แต่หากจะให้ราคาหุ้นกลับไปเหมือนเดิม ก็ต้องทำงานหนักมากขึ้น และเป็นเรื่องท้าทายในตำแหน่งซีอีโอ
3 เสาหลักธุรกิจ OR
หลังเข้ารับตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ของ OR ม.ล.ปีกทอง พร้อมสานต่อวิสัยทัศน์ “Empowering All toward Inclusive Growth” หรือ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน” การขับเคลื่อนธุรกิจมุ่งเสริมความเข้มแข็งใน 3 เสาหลัก ได้แก่
1. Seamless Mobility การเป็นพาร์ทเนอร์การเดินทางของลูกค้าและคู่ค่า
– มุ่งเสริมความเป็นผู้นำในธุรกิจน้ำมันผ่านการขยายเครือข่ายสถานีบริการ PTT Station และเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาสู่พลังงานทางเลือก เช่น สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ และการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ โดยใช้กลยุทธ์ Thailand Mobility Partner ในการเปลี่ยนผ่านจากธุรกิจน้ำมัน (Fossil Based) สู่ธุรกิจพลังงานแบบผสมผสาน (New Energy-Based)
2. All Lifestyles การเชื่อมโยงธุรกิจไลฟ์สไตล์ (Non-oil)
– มุ่งเสริมความแข็งแกร่ง Café Amazon ที่ปัจจุบันมีกว่า 4,500 สาขา บริการพื้นที่ขายในร้านให้สร้างยอดขายได้สูงสุด ด้วยการใช้ Data Analytics มาวิเคราะห์สินค้าขายดีเพื่อวางจำหน่ายและวางสินค้าให้ตรงกับความต้องการลูกค้า และพัฒนาพื้นที่ Amazon Park จังหวัดลำปาง สนับสนุนธุรกิจร้านกาแฟและชุมชน
– หาโอกาสการลงทุนร่วมกับพันธมิตรในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงเริ่มศึกษาธุรกิจ Health & Wellness ที่มีโอกาสเติบโตสูง ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์กระจายพอร์ตโฟลิโอการลงทุน (Diversify Portfolio)
– การลงทุน OR Space รองรับการเปลี่ยนผ่านจากการใช้น้ำมัน ไปยังรถไฟฟ้ามากขึ้น วางเป้าหมายยอดขายสัดส่วน 30-40% ของ OR Space จะต้องเป็นสินค้าและบริการภายใต้แบรนด์ OR
– สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ เป็นโอกาสดึงคนเข้ามาใช้เวลาในสถานีบริการมากขึ้น จากเดิมเติมน้ำมัน 5 นาที แต่ชาร์จไฟฟ้า 30 นาที มีโอกาสใช้จ่ายในกลุ่มค้าปลีก Non-oil มากขึ้น
– การใช้ธุรกิจไลฟสไตล์เป็นแม่เหล็ก ดึงคนเข้ามาในสถานีบริการจำนวนมาก ทำให้ยอดขาย Non-oil เพิ่มขึ้นด้วย และมาร์เก็ตแชร์ค้าปลีกน้ำมันก็เพิ่มขึ้นไปด้วย
– แม้ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันกำไรไม่มากเพราะถูกกำกับราคาจากภาครัฐ แต่ความหวังอยู่ที่ธุรกิจไลฟ์สไตล์ที่มีกำไรสุทธิสูง 25-30%
3. Global Market การหาโอกาสเติบโตในต่างประเทศ
– ใช้โมเดลธุรกิจ OR ที่ประสบความสำเร็จไปขยายในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อโอกาสเติบโตนอกจากประเทศไทย
– ผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Oil Hub แห่งภูมิภาค ด้วยการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครบวงจร ทั้งการเชื่อมโยงเครือข่ายด้านน้ำมันระหว่างประเทศ และการสร้าง New Magnet เพื่อยกระดับระบบนิเวศทางธุรกิจให้แข็งแกร่ง
การขับเคลื่อนธุรกิจ OR ทั้ง 3 เสาหลัก จะใช้ Digitalization & Innovation มาปรับกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ ที่ผ่านมา OR ถือเป็นบริษัทแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำระบบ SAP S/4 HANA มาใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันและค้าปลีก พร้อมพัฒนา Control Tower Dashboard เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและตัดสินใจทางธุรกิจ
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE