ฮ็อท สตาร์ (Hot Star) ไก่ทอดไซซ์ XXL สุดฮอตจากไต้หวัน กลับมาทำตลาดในไทยอีกครั้ง หลังจากหายไปหลายปี ล่าสุดเพจ HOT STAR Large Fried Chicken Thailand ประกาศข่าวดีให้แฟนๆ ได้เตรียมตัวพบกับการคัมแบ็คครั้งใหญ่ พร้อมเปิดสาขาแรกในไทย เดือนเมษายน 2568
คัมแบ็คครั้งนี้ถูกลง 20-30% ใหญ่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือขยาย (สาขา) ไว
หลัง “ฮ็อท สตาร์” (HOT STAR) เคยเข้ามาทำตลาดไทยเมื่อปี 2557 โดย บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด แต่ด้วยหลายปัจจัย ทำให้ต้องถอนตัวไป ทว่าครั้งนี้กลับมาในมือของ บริษัท ฮอท สตาร์ ชิกเก้น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้รับสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ภายใต้สัญญา 5 ปี
พญ.ศิโรรัตน์ อินทรปัญญา CEO บริษัท ฮอท สตาร์ ชิกเก้น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เราทำธุรกิจไก่ส่งออก และมองว่า CP มีเชสเตอร์ มี 7-11 หรือแม้กระทั่งค้าปลีก และผลิตภัณฑ์แบรนด์ต่างๆ ที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางการขาย ดังนั้นเราจึงต้องการขยายไปยังช่องทางรีเทล (มีร้านค้าปลีกเป็นของตัวเอง) ในการต่อยอดผลิตภัณฑ์
“ส่วนสาเหตุที่เลือกแบรนด์ Hot Star ในการทำตลาด เนื่องจากมองว่าเรามีความคุ้นเคยกับไก่ดีอยู่แล้ว มีโรงงานเป็นของตัวเอง ทำให้เรามีข้อได้เปรียบในการบริหารจัดการวัตถุดิบ และสามารถทำราคาได้ถูกกว่าผู้ถือสิทธิ์รายเดิม 20-30% และยังมีราคาเริ่มต้นถูกกว่าที่ไต้หวันอีกด้วย”
โดย “ฮ็อท สตาร์” (Hot Star) สาขาแรกจะเปิดให้บริการในย่านใจกลางกรุงเทพช่วง เมษายน 2568 นี้ ภายใต้งบประมาณการลงทุนกว่า 30 ล้านบาท (รวมค่ามาสเตอร์ เเละ โรงงานผลิต) ในรูปแบบร้านอาหารบริการด่วน (QSR) บนพื้นที่ราว 100-150 ตร.ม. ซึ่งสาขาแรกนี้จะกลายมาเป็นแฟล็กชิฟสโตร์แห่งแรก ก่อนจะปูพรมให้ครบ 10 สาขาภายใน 1 เดือน (เมษายน) และวางเป้าหมายขยายสาขาให้ครบ 50 สาขาภายใน 1 ปี (ในรูปแบบแฟรนไชน์) จากนั้นเดินหน้าจะศึกษาตลาดและวางแผนขยายออกไปยังต่างจังหวัดในอนาคต
ล่าสุด Hot star Chicken Thailand ได้ประกาศให้ผู้ที่สนใจ เสนอพื้นที่ให้เช่าร้าน (ตึกเเถวบริเวณชุมชน,พื้นที่เปล่าติดถนน,ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น) กับทางบริษัท ทั้งใน กทม เเละ ตามจังหวัดใหญ่ของเเต่ละพื้นที่ในการร่วมขยายสาขาไปกับแบรนด์ หรือ สนใจสมัครเข้ามาเป็นครอบครัว Hot star เพื่อทำการลงทะเบียนเพื่อขอเป็นร้านค้า Franchise เเละฝึกการทำงานทุกขั้นตอน ที่โรงงานกลางของทาง Center ก่อนเพื่อทำการเปิดในช่วง ไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 นั่นสะท้อนความแน่วแน่ของแบรนด์ในการขยายสาขาอย่างจริงจัง และพร้อมที่จะทำการตลาดเชิงรุกในไทยอย่างเต็มที่
“ในต่างจังหวัดเราจะยังคงขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชน์ แต่จะมีการเปิดรับ บริษัทที่มีศักยภาพหรือนักลงทุน เป็นตัวเเทนจำหน่ายในแต่ละพื้นที่ เเต่ต้องผ่านการอบรมจากเราก่อน ซึ่งร้านของเราจะมีให้เลือก 3 ขนาดประกอบด้วย ไซซ์ S M และ L”
ภาพจาก : HOT STAR Large Fried Chicken Thailand
คงคอนเซ็ปต์ “ไก่ทอดชิ้นใหญ่” มาพร้อมเมนูซิกเนเจอร์ที่คนไทยคุ้นเคย
การกลับมาครั้งนี้ Hot Star จะมาพร้อมเมนูที่หลากหลายและมากกว่าเดิม โดยเบื้องต้นจะเป็นการนำเมนูซิกเนเจอร์ต่างๆจากไต้หวันเข้ามาทำตลาด ไม่ว่าจะเป็นเมนูหลัก “ไก่ทอดชิ้นใหญ่” มีความนุ่มใน และแป้งกรอบเหนียวอร่อย คลุกด้วยผง ตามใจลูกค้าเลือก มีทั้งแบบ เผ็ด และไม่เผ็ด ,“ไก่ทอดชิ้นใหญ่ บาร์บีคิว” เป็นสเต็กที่นำไปย่างก่อน แล้วทอด ทาด้วยซอสบาร์บีคิวรสเด็ด เป็นเมนูพิเศษที่ให้รสชาตินุ่มฉ่ำของเนื้ออกไก่ได้เป็นอย่างดี ก่อนจะพัฒนาเมนูสไตล์ไทยๆเข้าไปเพิ่มเติมในอนาคต
พญ.ศิโรรัตน์ ยังบอกอีกว่า ในครั้งแรกที่ Hot Star มาทำตลาดในไทย ตอนนั้นราคาเริ่มต้นที่ 129 บาท/ชิ้น ขณะที่ที่ไต้หวันราคาเริ่มต้น 89 บาท/ชิ้น ซึ่งถือว่าราคาสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษา ทำให้เป็นกระแสแค่ช่วงแรกๆของการทำตลาด แต่การกลับมาครั้งนี้เราได้นำ Pain Point นี้มาแก้ไข ด้วยการให้ความสำคัญกับเรื่องราคาที่เข้าถึงง่าย เพราะด้วยความที่มีโรงงานไก่เป็นของตัวเองทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ ซึ่งคาดว่าจะถูกกว่าเดิม 20-30% เบื้องต้นขณะนี้อยู่ระหว่างการหาราคาเริ่มต้นที่เหมาะสม ระหว่างราคา 79 บาท/ชิ้น หรือจะเป็น 89 บาท/ชิ้น
นอกจากเรื่องราคาแล้วยังมีการบริหารจัดการภายในด้วยระะบบการจัดการที่มีมาตรฐาน สูงมีครัวกลาง มีระบบขนส่งวัตถุดิบจากโรงงานผลิต ไปยังร้านค้าตรง มีการดูเเลร้านค้าตัวเเทน เเบบใส่ใจทุกรายละเอียด ออดิท ร้านค้าทุกเดือน และยังมีการอบรม ทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานสากลของระบบ บริหารร้านค้าแฟรนไชน์ เพื่อรักษาคุณภาพและมาตรฐานของทุกสาขาให้เท่ากันทั้งหมด
ภาพจาก : HOT STAR Large Fried Chicken Thailand
“เสน่ห์ ของ “ฮอท สตาร์” คือ ทำสดๆ ทอดสดๆ ร้อนๆหน้าเตา กับไก่ไซซ์ใหญ่รสชาติต่างๆ เมื่อนำมาประกอบกับทางเราที่มีวัตถุดิบเองตั้งแต่ต้นน้ำ (ธุรกิจส่งออกไก่) ทำให้มีความได้เปรียบในตลาด และมั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันกับเจ้าในตลาดไก่ทอดเมืองไทยทั้งได้”
ท้ายที่สุด “พญ.ศิโรรัตน์” บอกว่า สินค้าเรา ไม่ใช่กินให้อิ่มอย่างเดียว เเต่ต้องกินเเล้วรู้สึกว่ามันคือ ไก่ทอด Hot star ต้นฉบับจากไต้หวันให้ได้ โดยวางเป้าหมายยอดขายในสิ้นปี 2568 ที่ 150-200 ล้านบาท
น่าจับตาว่าการกลับมาของ HOT STAR ในครั้งนี้จะสามารถเขย่าตลาดไก่ทอดเมืองไทยได้หรือไม่ที่มีผู้เล่นสุดหินทั้ง KFC และ McDonald’s ได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆสาวกไก่ชิ้นใหญ่ไม่ต้องบินไกลถึงไต้หวันก็สามารถหาทานให้หายคิดถึงได้อย่างแน่นอน