HomeBrand Move !!“เซ็นทารา” กางแผน 3 ปี ทุ่ม 1.9 หมื่นล้าน ลุยเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่งไทย-เทศ รับแนวโน้มท่องเที่ยวสดใส

“เซ็นทารา” กางแผน 3 ปี ทุ่ม 1.9 หมื่นล้าน ลุยเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่งไทย-เทศ รับแนวโน้มท่องเที่ยวสดใส

แชร์ :

ท่องเที่ยวสดใส  “เซ็นทารา” กางแผน 3 ปี ทุ่ม 19,000 ล้านบาท ลงทุนธุรกิจโรงแรม-ร้านอาหาร โดยปี 2568 เตรียมเปิดโรงแรมเพิ่ม 9 แห่ง พร้อมสยายปีกบุกไทย-เทศ รับท่องท่องเที่ยวขาขึ้น หลังโรงแรมในมัลดีฟส์ ญี่ปุ่น หลังยอดจองทะลัก ก่อนลุยต่ออินโดนีเซีย เนปาล รับท่องเที่ยวโลกขาขึ้น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

คุณธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา เซ็นทารา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง โดยโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารามีรายได้รวมอยู่ที่ 11,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,230 ล้านบาท (หรือ 12%) เทียบปีก่อน โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารามีกำไรสุทธิจำนวน 1,097 ล้านบาท เติบโตขึ้น 43% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของผลการดำเนินงานของรีสอร์ทในมัลดีฟส์ ไม่ว่าจะเป็น

  • การให้บริการ เซ็นทารา มิราจ ลากูน  มัลดีฟส์ รีสอร์ทธีมดินแดนใต้น้ำสุดมหัศจรรย์ บนเกาะสวรรค์ในพื้นที่มาเล่ อะทอลล์เหนือ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
  • เซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ รีสอร์ทหรูที่จะเปิดให้บริการในเดือนเมษายนนี้

 

 

นั่นจะทำให้ “เซ็นทารา” มีโรงแรมและรีสอร์ทในมัลดีฟส์รวมกันทั้งสิ้น 4 โรงแรม ภายใต้แบรนด์และธีมที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ แบรนด์เซ็นทารา (Centara), แบรนด์เซ็นทารา แกรนด์ (Centara Grand), แบรนด์เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection) และรีสอร์ทภายใต้ธีมมิราจ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้าในตลาดมัลดีฟส์

 

คุณธีระยุทธ จิราธิวัฒน์

คุณธีระยุทธ จิราธิวัฒน์

 

“ปี 2567 นับเป็นอีกปีแห่งความสำเร็จ และมีการเติบโตที่สูงกว่าปีก่อนเกิดโควิดแล้ว และถือว่าเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารามีรายได้รวมอยู่ที่ 12,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา”

 

อย่างไรก็ดี แม้ภาพรวมธุรกิจโรงแรมจะสดใส แต่ “คุณธีระยุทธ” ยังบอกอีกว่า การเข้ามาของ “คอนโดศูนย์เหรียญ” หรือธุรกิจปล่อยเช่ารายวันที่กำลังระบาดในขณะนี้นั้น มองว่า แม้จะอยู่คนละกลุ่มเป้าหมายจากที่โรงแรมทำตลาดอยู่ แต่มองว่าไม่ยุติธรรมกับคนทำธุรกิจ ที่ต้องขอใบอนุญาต การดำเนินงานต่างๆตามขั้นตอน ดังนั้นจึงอยากใ้ภาครัฐเร่งจัดการและเข้มงวดการบังคับใช้กฏกหมายจริง เพื่อให้ธุรกกิจหรือผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตตามกฏหมายสามารถทำงานได้โดยไม่ได้รับผลกระทบ

 

กางแผน 3 ปี ทุ่ม 19,000 ล้านบาท รุกธุรกิจโรงแรม-ร้านอาหาร พร้อมเปิดเพิ่มโรงแรม 9 แห่งปี 68 

ด้าน คุณกันย์ ศรีสมพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน และ รองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร ของเซ็นทารา กล่าวว่า  ผลประกอบการและความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ทำให้ “เซ็นทารา” วางยุทธศาสตร์การลงทุนระยะยาว 3 ปี (2568 – 2570) ภายใต้กรอบการลงทุน 19,000 ล้านบาท ใน 2 ส่วนหลัก ได้แก่ การลงทุนโรงแรมและร้านอาหาร จำนวน 15,000 ล้านบาท  แบ่งเป็นการลงทุนโรงแรม ทั้งรีโนเวทและขยายสาขาใหม่ 11,000-12,000 ล้านบาท และ ธุรกิจร้านอาหาร 3,300 ล้านบาท ส่วนอีก 4,000 ล้านบาทเป็นงบประมาณที่กำลังอยู่ในส่วนของการวางแผนการลงทุน 

ส่วนแผนงานในปี 2568 “เซ็นทารา” ยังตั้งเป้าเปิดโรงแรมและรีสอร์ทอีกทั้งสิ้น 9 แห่งในปีนี้ เช่น บน เกาะพีพี, เกาะสมุย และในจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากที่จะเปิดให้บริการโรงแรมในกระแส อย่างเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ (ให้บริการห้องพัก 142 ห้อง) ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้แล้ว ยังมีโรงแรมในต่างประเทศอีก 4 แห่ง ต่อคิวเพื่อรอเปิดให้บริการอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น 

  • อันนะปุรณะ เมาท์เทน รีสอร์ท และโรงแรมภายใต้แบรนด์เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection) อีกหนึ่งแห่งบนเกาะบาหลี ที่จะกลายมาเป็นรีสอร์ทแรกภายใต้เครือเซ็นทาราในประเทศเนปาลและอินโดนีเซีย 
  • รวมถึงโรงแรมใหม่อีก 2 แห่งในเวียดนาม ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา และเรสซิเดนซ์ วังดอน และคริสตัล ฮอลิเดย์ ฮาร์เบอร์ วังดอน ที่เมื่อรวมกันแล้วจะมีห้องพักให้บริการทั้งสิ้นถึง 977 ห้องด้วยกัน

 

คุณกันย์ ศรีสมพงศ์

คุณกันย์ ศรีสมพงศ์

 

“หลังจากเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ในเครืออย่าง เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection) โรงแรมที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตนอย่างแตกต่างด้วยดีไซน์ มนต์เสน่ห์ท้องถิ่น และประสบการณ์เข้าพักอันน่าประทับใจ โดยปัจจุบันมีโรงแรมภายใต้แบรนด์นี้ทั้งหมด 3 โรงแรม คือ มัชชาฟูชิ ไอส์แลนด์ รีสอร์ทและสปา มัลดีฟส์, รุกข์ คีรี เขาใหญ่ และวารีวาน่า รีสอร์ท เกาะพะงัน 

ซึ่งเซ็นทารามีแผนจะขยายโรงแรมภายใต้แบรนด์นี้ไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ให้เพิ่มขึ้นอีกในปีนี้  โดยการเปิดให้บริการโรงแรมใหม่และการปรับโฉมโรงแรมต่างๆ ในปีนี้ เซ็นทาราคาดว่าจะช่วยส่งผลให้ราคาห้องพักเฉลี่ย และรายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPAR) ของเซ็นทาราเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ารายได้รวม (รวมโรงแรมร่วมทุน) จะเติบโตประมาณ 23% หรือมีรายได้รวม 15,100 ล้านบาทในปีนี้

ญี่ปุ่น หนึ่งในทำเลหลักของการเปิดบริการในต่างแดน

นอกจากตลาดหลักอย่างมัลดีฟส์แล้ว “คุณธีระยุทธ” ยังบอกอีกว่า แม้ปีที่ผ่านมารีสอร์ทในมัลดีฟส์ จะมีส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตในตลาดต่างประเทศของเซ็นทารา ทว่าอีกหนึ่งประเทศที่ทางแบรนด์เตรียมจะเปิดโรงแรมเพิ่มอีก 1 แห่ง หลังจากเปิดให้บริการ เซ็นทารา แกรนด์ โฮเทล โอซาก้า ไปแล้วประสบผลสำเร็จได้เป็นอย่างดี 

“ที่ญี่ปุ่นมี 1 ที่ มีแผนขยายเพิ่มอีก 1 จากศักยภาพที่ดี นักท่องเที่ยวมากกว่า 38 ล้านคน โดยปีที่ผ่านมาโรงแรมในญี่ปุ่น เริ่มเปิดตัวโรงแรมเต็มปี มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 78% และมีราคาเฉลี่ยห้องพัก 30,000 ทำให้เรามองว่าญี่ปุ่นคืออีกหนึ่งประเทศที่มีศักยภาพ โดยการเข้าไปเปิดโรงแรมแห่งใหม่นี้ มองเมืองหลัก โตเดียว โอซาก้า ฟุกโอกะ ไว้” คุณธีระยุทธกล่าว

 

 

เบื้องต้นความคืบหน้าโรงแรมแห่งใหม่ในญี่ปุ่นนี้  กำลังอยู่ระกว่างการพืจารณาหาทำเลที่เหมาะสม หลังจากที่เคยมีการเจรจาที่โตเดียวมาแล้ว แต่เจ้าของที่เปลี่ยนใจไม่ขาย เลยต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ และคัดหาความเหมาะสมเป็นหลัก อาจจะเป็นตึกเก่ารีโนเวตใหม่

“ที่โอซาก้าใช้เวลา 5-7 ปีกว่าจะได้โรงแรมมา แต่แห่งที่ 2 เราไปดูมาแล้วที่โตเกียวแต่ติดปัญหาเรื่องตึกเก่าอยากทุบตึกไม่สามารถทำได้ ทำให้ต้องเริ่มใหม่ จึงยากต่อการคาดเดาว่าจะสามารถดำเนินการได้เมื่อไร แต่ว่าแน่นอนการลงทุนจะเป็นในรูปแบบการหาพาร์ทเนอร์ ”

อย่างไรก็ดีปัจจุบัน เซ็นทารามีโรงแรมและรีสอร์ทในเครือทั้งหมด 51 แห่ง 10,182 ห้อง ตั้งเป้าขยายโรงแรมให้มีจำนวนครบ 20,000 ห้อง ในปี 2570 เพื่อผลักดันให้เซ็นทารา ก้าวสู่ Top 100 แบรนด์โรงแรมโลก จากปัจจุบันอยู่อันดับ 111


แชร์ :

You may also like