หากใครเคยลงโฆษณาใน Facebook หรือติดตามข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ ก็จะรู้ว่าระยะหลังๆมานี้ Facebook เก็บค่าโฆษณาโหดขึ้นทุกทีๆ นักการตลาดเอกก็ต้องหาทางในการทำให้โฆษณาของตนเองมีประสิทธิภาพให้คุ้มกับเงินที่ลงทุนไป เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา Facebook ได้มีการอัพเดทเพิ่มดัชนีใหม่ไว้ใช้ดูประสิทธิภาพของโฆษณาที่เราลงใน Facebook ครับ โดยมีรายละเอียดดังนี้
++ ดัชนีวัดผลใหม่ “Relevance Score” ++
ตามปกติแล้วข้อมูลสถิติเกี่ยวกับโฆษณาใน Facebook Fanpage ของเราจะเป็นข้อมูลที่ดูแล้วจับต้องได้ชัดเจนเช่น Click, CTR, Impression แต่ในรอบนี้ Relevance Score มาต่างออกไปครับ เบื้องต้นเท่าที่ดูนี้เหมือนใช้หลักการคล้ายๆกับระบบของ Google adwords เลยคือการให้เป็นคะแนนของโฆษณาของเรา โดยมีช่วงคะแนนตั้งแต่ 1 – 10 ซึ่งเกณฑ์ในการให้คะแนนนั้นจะประกอบไปด้วยตัวแปรหลายๆอย่าง เช่น ผลของโฆษณาเป็นไปตามเป้าหมายที่เราเลือกในตอนแรกมั้ย? , คนมาปฏิสัมพันธ์เชิงบวกหรือลบเป็นอย่างไร? , มีคนกดรายงานหรือ hide โฆษณาเรารึเปล่า?(มีผลเชิงลบอันนี้)
โดย Reach(จำนวนคนที่เห็นโฆษณา) & Frequency(ความถี่ที่เห็นต่อ 1 คน) จะไม่ได้รับผลกระทบต่อดัชนีใหม่นี้ แต่จะมีผลเล็กน้อยกับค่าโฆษณาของเราที่จะถูกหรือแพงขึ้นครับ
++ Relevance Score มีผลกับอะไรบ้าง? ++
หากเข้าใจว่า Relevance Score มีผลอย่างไร ก็จะช่วยให้นักโฆษณาหลายๆคนจับจุดได้ถูกมากขึ้น ซึ่งบางส่วนที่สำคัญๆดังนี้
– ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย – ด้วยระบบโฆษณาของ Facebook ที่พยายามจะทำให้ “คอนเทนต์ที่ใช่ไปตรงกลุ่มเป้าหมายที่ชอบ” ดังนั้นคะแนนตรงนี้จะมีผลโดยตรงครับ ยิ่งได้คะแนนดี ค่าโฆษณาก็ยิ่งถูกตามไปด้วย
– ช่วยให้เราเทส Creative หลายๆแบบในตอนทำแคมเปญได้
เราสามารถทำโฆษณาหลายๆรูปแบบ ผสมกันระหว่าง ภาพ และ ข้อความ ที่โพสต์หลายๆแบบได้ คะแนนนี้ก็จะเป็นตัวสะท้อนอย่างหนึ่งว่า รูปแบบไหนน่าจะเวิร์คสุด
– เป็นสัญญาณว่า ถึงเวลาเปลี่ยนโฆษณาใหม่แล้วรึยัง?
เราสามารถมอนิเตอร์คะแนนนี้ในทุกๆวันได้ว่าโฆษณาของเรายังคะแนนอยู่ระดับปกติรึเปล่า หากวันใดคะแนนนี้ลดลงไป ก็อาจเป็นสัญญาณบอกกับเราให้ลองมารีวิวตัวโฆษณาของเราดูอีกทีว่า ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนภาพหรือลองเปลี่ยนรูปแบบดูแล้วรึยัง
ดูแล้วก็เป็นการอัพเดทเกี่ยวกับ Facebook ad ที่ดีนะครับ อย่างไรก็ตามในการวัดผลโฆษณาที่ดี ก็จำเป็นต้องดูสถิติและตัวแปรหลายๆอย่าง เพราะการนำดัชนีอันใดอันหนึ่งมาวัดผลของทั้งแคมเปญเลยก็คงจะไม่เวิร์ค ก็แนะนำว่าให้เราใช้ Relevance Score นี้เป็นข้อมูลอีกอย่างหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมาให้เราดูครับ