ยุวดี เอี่ยมสนธิทรัพย์, Director, Telco/Tech Industry Practice Group Leader นีลเส็น ประเทศไทย เผยผลงานวิจัยพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนของคนไทย Nielsen Smartphone Analytics โดยใช้ข้อมูลจากการสอบถามกลุ่มตัวอย่าง (Smartphone Insights Study) จำนวน 1,081 ตัวอย่าง อายุ 26-64 ปี ทุกกลุ่มรายได้ จากหัวเมืองใหญ่ของทุกภาคทั่วไทย (พ.ย.2014 – ธ.ค.2015) และข้อมูลจากโปรแกรมตัวตรวจในสมาร์ทโฟน (Nielsen Informate Mobile Insights) นำมาวิเคราะห์พฤติกรรมฯร่วมกัน ออกมาเป็น 5 เทรนด์มือถือที่น่าสนใจของ ปี 2015 ดังนี้
1. อีกไม่นาน ทุกคนจะเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน อัตราการเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนเติบโตขึ้นอย่างมีมีนัยยะสำคัญจากปีที่แล้ว 49% เป็น 58% โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอายุ 16-34 ปี และอายุ 35 ปีขึ้นไปอยู่ที่ 42% ดังนั้นสมาร์ทโฟนจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ไปเสียแล้ว
2. ใช้ปริมาณอินเตอร์เน็ตผ่านสูงขึ้น..อยู่ไม่ได้ถ้าขาดอินเตอร์เน็ต ปริมาณการใช้อินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ จากเดิม 200 mb ต่อวัน สูงขึ้นเป็น 365 mb ต่อวัน หรือคิดเป็น 11 GB ต่อ 1 เดือน ต่อ 1 คน หรือเทียบได้ 290 คลิปต่อ 1 เดือน
หากแบ่ง 1 วันเป็น 4 ช่วงเวลา ช่วงเวลาที่ใช้ช่วงอินเตอร์เน็ตมากที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1 . 22.00 น. -5.59 น. 2. 12.00 น. -17.59 น.
3. 25% ของช่วงตื่นใช้เวลากับสมาร์ทโฟนเพื่อสื่อสารและเอ็นเตอร์เทนท์ โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยใช้เวลาเกือบ 4 ชม. หรือ 232 นาที ต่อวันอยู่กับสมาร์ทโฟน ซึ่งเวลาเหล่านั้นจะใช้ไปกับ สื่อสาร 94 นาที แอพพลิเคชั่น 62 นาที และ เอ็นเตอร์เทนท์ 54 นาที เป็นต้น
10 อันดับแอพพลิเคชั่นที่มี Engagement มากที่สุด หรือคนไทยใช้บ่อยมากที่สุด (นาที/วัน)
1. LINE (74 นาที/วัน) 2. Facebook (38) 3. BeeTalk (19) 4. Youtube App (14)
5. LINE Lets Get Rich (11) 6. LINE COOKIE RUN (8) 7. Instagram App (5) 8. Google Search App (4) 9. Clean Master App (2) 10. FB Messenger App (2)
คราวนี้จะได้เข้าใจว่าช่องทางไหนสามารถสร้าง High Engagement กับผู้บริโภคได้
4. โอกาสของ M-Commerce เนื่องจากอัตราการเติบโตของการใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น การช๊อปปิ้งผ่านสมาร์ทโฟนก็น่าจะได้รับอานิสงส์เช่นกัน เห็นได้จากข้อมูล อัตราการใช้งานแอพพลิเคชั่นบริการทางการเงินและประกัน จาก 8% ในปี 2014 เป็น 31% ในปี 2015 , อัตราการใช้ Mobile Payment จาก 7% ในปี 2014 เป็น 12% ในปี 2015 และ อัตราการซื้อสินค้าผ่านมือถือ จาก 11% เป็น 23% ในปี 2015 ดังนั้นแบรนด์จึงมีช่องทางใหม่ในการเข้าถึงกุลุ่มเป้าหมายได้อีกทางที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถกลายเป็นยอดขายได้
5. Mobile Ads เริ่มน่าสนใจ เนื่องจากผลสำรวจพบว่า ในปี 2014 รอบ 30 วันที่ผ่านมากลุ่มตัวอย่างเห็นโฆษณาในรูปแบบมือถือ 47% แต่ปี 2015 เพิ่มสูงขึ้นเป็น 54%
หากแบ่งว่าเห็นโฆษณาในที่ไหนบ้าง
1. Mobile TV 28% (ทีวีออนไลน์ ทีวีย้อนหลัง Youtube)
2. Application 24%
3. Mobile Internet 23%
4. Online Games 18%
5. SMS 16%
6. Music/Radio 11%
7. LBS / GPS 7%
อีกหนึ่งช่องทางรับข่าวสารผ่าน LINE ไม่ตกหล่นทุกข่าวสำคัญ
เพิ่มเพื่อนรัวๆ ที่ ID : @brandbuffet