ต้องบอกว่าเป็น “สิงห์ปืนไว” ขนานแท้ เมื่อ สิงห์ (Singha) ได้นำทีมเชลซี มาร่วม ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีคฤดูกาลล่าสุดได้ก่อนใคร พร้อมจัดแมทช์พิเศษเอาใจแฟนบอลชาวไทย “The Singha Chelsea FC Celebration Match” ด้วยเพราะความสัมพันธ์อันดีระหว่าง สิงห์ ในฐานะ Global Partner ของ ทีมเชลซี มาตั้งแต่ปี 2010 จนถึงปัจจุบัน จึงถือเป็นกรณีศึกษาของการทำ Sport Marketing เลยทีเดียว บทความนี้จะถอดรหัสว่าทำไม สิงห์และสิงโตน้ำเงินคราม ต้องจับมือเป็นพันธมิตรกัน และดีลนี้ทำอย่างไรถึงโดนใจแฟน
ตอบโจทย์ซึ่งกันและกัน 2 สิงห์ จึงอยู่ร่วมสนาม
แทบไม่ต้องเท้าความกันมากเรื่องความสำเร็จของ Sport Marketing ของแบรนด์สิงห์ในประเทศไทย เพราะสิงห์ได้ให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง รวมทั้งสร้างกิจกรรมเกี่ยวกับกีฬาแทบทุกประเภท ตั้งแต่ กอล์ฟ, ฟุตบอล, มวย, เทนนิส, มอเตอร์ สปอร์ต ฯลฯ ตั้งแต่ระดับเยาวชน จนถึงระดับอาชีพ ทั้งระดับทีมและส่วนตัว ซึ่งนักกีฬาเหล่านั้นได้สร้างผลงานประสบความสำเร็จ สร้างชื่อเสียงในระดับประเทศ และนานาชาติ จนผู้บริโภคจดจำได้เป็นอย่างดี ในส่วนของตลาดต่างประเทศ แบรนด์สิงห์เองก็เป็นที่รู้จักและยอมรับในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษ ซึ่งสิงห์ได้เข้าไปทำตลาดมากว่า 30 ปี จนเป็นที่มาของการที่ 2 สโมสรฟุตบอลระดับโลกอย่าง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และ เชลซี สนใจส่งเทียบเชิญให้ สิงห์ เข้าไปสนับสนุนทีม ซึ่งคำบอกเล่าของทั้ง 2 สโมสร ถึงที่มาของความสนใจที่จะทำธุรกิจร่วมกับสิงห์ เพราะเชื่อมั่นในวิธีการทำตลาดของสิงห์ ที่มีวิธีการทำตลาดที่ Aggressive แบรนด์หนึ่งของไทย ซึ่งตลอด 5-6 ปี ที่ผ่านมา พิสูจน์ได้ว่าฐานแฟนบอลของทั้ง 2 เพิ่มมากขึ้น แบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะฐานแฟนบอลในประเทศไทย จนทำให้ทั้ง 2 สโมสรให้ความสำคัญกับแฟนบอลในประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ จึงเป็นหนึ่งในที่มาของการเลือกที่จะมาเฉลิมฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีคฤดูกาลล่าสุดของเชลซี นอกเหนือจากความประทับใจของมูริญโญในโอกาสที่พาทีมเชลซีมาเยือนไทย ในโอกาสฉลอง 80 ปี บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด
โดยส่วนของสิงห์เอง การที่ได้เป็นโกลบอลพาร์ตเนอร์ ของทั้ง 2 สโมสร ซึ่งมีฐานแฟนบอลอยู่ทั่วโลก และการแข่งขันฟุตบอลลีค มีการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์สิงห์ที่มีปรากฏอยู่ ทั่วทั้งสนาม รวมทั้งป้ายข้างสนาม ที่แฟนบอลที่ได้ไปชมเกมการแข่งขันในสนามได้เห็นแบรนด์สิงห์อยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังไม่นับแฟนบอลที่ชมการแข่งขันอยู่ทางบ้านจากถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลก ทำให้แบรนด์สิงห์แบรนด์ของคนไทยเป็นที่รู้จัก และจดจำมากขึ้นไปทั่วโลกอีกด้วย
และไม่ใช่แค่เอาใจลูกค้าระดับโลกเท่านั้น ความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นของ สิงห์ กับ เชลซี ก็ทำให้แฟนบอลชาวไทยได้มีโอกาสใกล้ชิดกับทีมฟุตบอลที่รัก จากการเดินทางมาเยือนในโอกาสต่างๆ รวมทั้งในครั้งนี้ ที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่เชลซีมาเยือนหลังจากคว้าแชมป์ฤดูกาล 2014-2015 สดๆ ร้อนๆ ผ่านไปเพียงอาทิตย์เดียว ทั้งๆ ที่โดยปกติแล้วการมาทัวร์ต่างประเทศของทีมฟุตบอลในอังกฤษมักเกิดขึ้นช่วงปรี-ซีซั่นมากกว่า
เหตุผลที่เชลซีเดินทางมาทัวร์เอเชียในเวลานี้ ก็เพราะ โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องการมอบเป็นของขวัญการทำงานของลูกทีม และที่สำคัญแฟนตัวจริงของเชลซีจำได้ไหมว่า แมตช์แรกที่ มูริญโญ่ คุมทีมหลังจากคัมแบ็ครอบสองก็คือ นัดที่เชลซีมาเยือนเมืองไทยเพื่อฉลอง 80 ปี บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เมื่อปี 2013 นั่นเอง เมื่อนำทีมคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง ที่ๆ จะฉลองชัยดีที่สุดต่อจากลอนดอนที่ตั้งสโมสร ก็ต้องเป็นที่ที่มีความหมายกับตัวเขานั่นเอง เชลซีจึงเดินทางมาที่ประเทศไทยเป็นจุดหมายแรก งานนี้แฟนพันธุ์แท้ของเชลซีก็เลยได้ยืดเต็มที่ในฐานะแชมป์ก่อนใคร
สัญญาใจของสุภาพบุรุษ
ความสัมพันธ์ระหว่าง สิงห์ กับทีมฟุตบอลระดับโลก อย่างเชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มต้นจากที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ส่งเทียบเชิญ สิงห์ให้เป็นพาร์ตเนอร์ แล้วในระยะเวลา ใกล้เคียงกัน เชลซีก็ยื่นข้อเสนอคล้ายกันเข้ามา แต่ด้วยวิธีการทำธุรกิจตามแบบฉบับความเป็นสุภาพบุรุษของสิงห์ ก็คือการเปิดเผยอย่างจริงใจ ว่ากำลังเจรจาอยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และเช่นเดียวกันทางสิงห์เองก็ได้แจ้งทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าทางเชลซีได้ติดต่อเข้ามา โดยทางสิงห์ได้ตกลงที่จะเจรจากับทางแมนยูฯ ไนเต็ด ให้จบก่อนที่จะคุยกับทางเชลซี ซึ่งแนวทางการทำงานแบบนี้เป็นแนวทางที่มาจากนายใหญ่ สันติ ภิรมย์ภักดี ซึ่งการเจรจาธุรกิจแบบตรงไปตรงมาดังกล่าว ทำให้ทั้งสองสโมสรสัมผัสได้ถึงความจริงใจ และให้เครดิตกับสิงห์มากกว่าความเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ แต่เป็นโกลบอลพาร์ตเนอร์ ที่ใกล้ชิดแบบครอบครัว ซึ่งเห็นได้จากหลายๆครั้ง ทั้ง 2 สโมสรได้ให้เกียรติกับแบรนด์ไทยแบรนด์นี้อย่างมาก เช่น เมื่อประเทศไทยน้ำท่วม ทั้ง 2 ทีมก็ขึ้นป้ายข้างสนาม “คนไทย สู้ สู้” เพื่อให้กำลังใจคนไทย หรือเมื่อครั้งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้แชมป์ ในห้องแต่งตัวนักกีฬา เหล่านักฟุตบอลก็เฉลิมฉลองกันด้วย “เบียร์สิงห์” แทนที่แชมเปญตามธรรมเนียม
นอกจากฟุตบอลแล้ว สิงห์ ยังเป็นสปอนเซอร์ทีมกีฬาที่ล้วนแล้วแต่ขั้นเทพอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ยอดทีมรถแข่ง F1- อินฟินิตี้ เรด บูล เรซซิ่ง และการแข่งขันเฟอรารี่ ชาแลนจ์ และโมโต จีพี เพื่อส่งให้แบรนด์คนไทยไปก้าวสู่เวทีระดับโลก ซึ่งการเจรจาธุรกิจของสิงห์ก็จะเริ่มต้นจากจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการเป็นพาร์ตเนอร์ในระยะยาวและหวังว่าจะทำงานร่วมกันมากกว่าแค่เรื่องธุรกิจอย่างเดียว
เอาชนะใจแฟน ตั้งแต่นอกสนาม
การเดินทางมาของเชลซีในครั้งนี้นอกจากโชว์ลีลาเอนเตอร์เทนในสนาม 90 นาทีให้แฟนบอลได้ฟินกับลีลากระชากบอลของ เอเดน อาซาร์ หรือการต่อบอลจากแดนกลางมาสู่กรอบเขตโทษที่รวดเร็ว ซึ่งนอกจากแฟนบอลจะดูจนเพลินตาแล้ว นักฟุตบอลออล สตาร์ที่คัดมาเฉพาะคนที่มีลุ้นติดทีมชาติชุดใหญ่ ก็ได้ประสบการณ์ดีๆ จากนักเตะระดับโลกไปด้วย ส่วนโค้ช ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองก็ได้ดูฟอร์มการเล่นของนักเตะเหล่านี้ไปด้วย
แต่ไม่ใช่แค่มาโชว์ลีลาในแมทช์ฟุตบอลนัดพิเศษเท่านั้น สิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์จากการมาเยือนเมืองไทยยังเริ่มตั้งแต่อยู่นอกสนาม นักฟุตบอลทีมเชลซียังเข้าร่วมกิจกรรมกับเยาวชนเปิดคลินิกฟุตบอลสอนเทคนิคพิเศษให้กับเด็กๆ อย่างใกล้ชิดถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ “แรงบันดาลใจ” และ “ความรู้สึก” ที่ได้ใกล้ชิดกับนักเตะที่เป็นไอด้อลก็น่าจะผลักดันให้เด็กๆ ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมอยากพัฒนาตัวเอง จากทริคที่นักเตะเชลซีถ่ายทอดเอาไว้ต่อไป
ความสัมพันธ์ของสิงห์ และเชลซี ก็น่าจะดำเนินต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ สิงห์ มีแผนสร้างธุรกิจอื่นอีกนอกเนื่องจากเครื่องดื่มที่ตอนนี้มีคนรู้จักมากขึ้นแล้ว และในเมื่อ “ลอนดอน” ก็ยังเป็นจุดหมายของนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก งานนี้ 2 แชมป์เปี้ยนของสนามฟุตบอลและสนามธุรกิจก็คงจับมือกันต่อกันไปอีกนาน สมกับประโยคที่ว่า Two Lions, One Pride