HomeFeaturedเอ็มอาร์เอ็ม แมคเคน เผย 6 ดิจิตอลเทรนด์ผู้บริโภค 2016 “เหนือกว่าสัมผัสประสบการณ์ “

เอ็มอาร์เอ็ม แมคเคน เผย 6 ดิจิตอลเทรนด์ผู้บริโภค 2016 “เหนือกว่าสัมผัสประสบการณ์ “

แชร์ :

Screenshot (73)

เอ็มอาร์เอ็ม แมคแคน ประเทศไทย (MRM//McCANN  Thailand)  เผยทิศทางเทรนด์ดิจิตอลที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงสู่โลกของความจริงของผู้บริโภค และรูปแบบของการสื่อสารการตลาดของแบรนด์ที่น่าจับตามอง ในปี 2559 สำหรับนักการตลาด(แบรนด์) ที่ต้องสื่อสารกับผู้บริโภค

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ในมุมมองต่อปี 2559 รัฐกร โพธาราม ผู้จัดการทั่วไปและกรรมการผู้จัดการฝ่ายสร้างสรรค์  อธิบายว่า “นวัตกรรมใหม่ๆผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารที่หลากหลายกำลังเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด เปิดโอกาสใหม่ๆให้กับการทำการตลาดดิจิตอล ทั้ง E-Commerce ที่มีการเติบโตอย่างไม่มีอะไรมาหยุดได้ผ่านประสบการณ์แบบไม่มีขอบเขตระหว่างเวป มือถือ โซเชี่ยล มีเดีย และการเสิร์ชในการซื้อสินค้าในธุรกิจทุกขนาด ประกอบกับการนำ Big Data และ Data Analytics มาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่แต่ยังสำคัญอยู่สำหรับตลาดประเทศไทยในการต่อยอด User Experiences ในทุกจุดประสบการณ์ดิจิตอล”

วฤตดา วรอาคม  หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ดิจิตอลและสื่อโซเวี่ยล อธิบายเริ่มต้นด้วย 4 Mega Trends ซึ่งเป็นเทรนด์ในภาพรวมที่ก่อตัวขึ้นและมีอิทธิพลต่อชีวิตผู้บริโภคในมุมกว้างทั่วโลก

– YOUR OWN VERSION OF TRUTH | ความเป็นจริงในแบบของตัวคุณ

ความจริง ถูกตีความหมายใหม่ ในยุคที่ข้อมูลในโลกดิจิตอลเพิ่มมากขึ้นจนยากที่จะรู้ว่าอะไรจริงและไม่จริง ผู้บริโภคหันมาให้อำนาจกับตัวเองมากขึ้นในการกำหนดทิศทางความเชื่อของตัวเองอย่างชัดเจน

– SEAMLESS SENSATION | ประสบการณ์ความรู้สึกที่ไร้รอยต่อออนไลน์ออฟไลน์

โลกออนไลน์และออฟไลน์เริ่มมีบทบาทผสมผสานในการเชื่อมต่อประสบการณ์ของผู้บริโภค แถมยังพร้อมรับมือกับวิถีดิจิตอลไลฟ์ในปัจจุบันทั้งในแง่เรื่องราวในชีวิตจริงและเรื่องที่เกิดขึ้นในโลกดิจิทัลไปพร้อมๆกันด้วย

– BEYOND WHAT YOU SEE | เป็นมากกว่าที่คุณเห็น

เทคโนโลยีปัจจุบันที่กำลังก้าวล้ำไปทุกวินาทีต่อวินาที จนคุณยากที่จะบอกได้ว่า “สิ่งไหนจริง” หรือ “เสมือนจริง”  หรือ “สิ่งไหนที่อยู่ระหว่างและเหลื่อมล้ำกัน”  โดยเฉพาะเทคโนโลยี Virtual Reality ที่ไปถึงมือผู้บริโภคแล้ว เพื่อแบรนด์เองก็สามารถสร้างประสบการณ์แบบ 360 องศาได้  ซึ่งทำให้สิ่งที่คุณไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นไปได้ก็เป็นไปได้

– HUMAN PRIDE & WORLDLY SPIRIT | ความภูมิใจของความเป็นมนุษย์และสปิริตที่ดีต่อโลก

ในโลกที่เต็มไปด้วยความผันผวนปั่นป่วนและไม่แน่นอน เหตุการณ์ร้ายๆต่างๆที่เกิดขึ้นมามากมายนั้น ทำให้ผู้บริโภคต้องการมองหาที่พึ่งทางจิตใจ ที่จะสามารถช่วยชี้แนวทางให้ก้าวต่อไปในชีวิตได้ กับการหันมาให้ความสำคัญกับ “คุณค่าความเป็นคน” มากขึ้น

mrm consumer trends 2016

และ  6 เทรนด์ที่สำคัญและแนวทางของกระแสดิจิตอลในปี 2559 สำหรับประเทศไทย มีดังต่อไปนี้

 1. DIGITALBORN LINGO | วัฒนธรรมการสื่อสารภาษาดิจิทัลไลฟ์

ผู้บริโภคในยุคที่ชีวิตมีความเชื่อมต่อระหว่างบุคคล จึงมองหาวิธีการและมุมมองใหม่ๆในการสื่อสารผ่านสื่อดิจิทัลที่หลากหลาย เพื่อให้อินเทรนด์กับกระแสปัจจุบัน  แบรนด์ต้องพูดภาษาเดียวกัน ด้วยการปรับ Interface ผ่านรูปแบบใหม่ๆที่ก่อตัวขึ้นในดิจิทัลไลฟ์ เช่น อิโมจิแทนคำพูด (Emoji) คลิ๊กปุ่มเพื่อซื้อ (Buy Button) การโผล่มาแบบชั่วครั้งชั่วคราว (Ephemeral) จับการเคลื่อนไหวของร่างกาย (Motion Detection) และอื่นๆอีกมาก การสื่อสารแบบมิติภาษาอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอกับความคาดหวังของผู้บริโภคที่หลากหลายในมิติ

ตัวอย่างเช่น  Emoji ของพระสันตะปาปา Popemoji (อ่านต่อ)  หรือการ สั่งพิซซ่าผ่าน emoji ของโดมิโน่ พิซซ่า

Burberry x Line  เล่าเรื่องชีวิตจริงๆของผู้คนผ่านคาแรกเตอร์

2. GOODBYE PRIVACY | จุดจบความเป็นส่วนตัว

เดิมทีความส่วนตัว หรือ ข้อมูลส่วนตัว (Privacy) เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคจะหวงมาก เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง  แต่กลับ ผู้บริโภคดิจิทัลในปัจจุบันตอบรับกับการเปิดเผยข้อมูลมากยิ่งขึ้นเพื่อแลกกับประสบการณ์ใหม่ๆที่ดีกว่าเดิม เช่นได้ข้อเสนอที่แบบตัวต่อตัว (Personalised offers) ในขณะที่คนรุ่นเก่าๆยังกังวลกับเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอยู่ คนรุ่นใหม่ๆต่างคิดใหม่ในเรื่องของความเป็นส่วนตัว (Privacy) และพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนเพื่อสินค้าและบริการที่เหมาะกับตัวเอง ในแง่การตลาดดิจิทัลก็มีการเติบโตมากขึ้นในรูปแบบการเข้าถึงที่ตรงกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะคน เช่น Google Identity-Based Pay Per Click และ Facebook Customized Audiences เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น ผู้ช่วยเสมือน ที่นำเอาดาต้าของเราไปประมวลผล เพื่อให้ได้สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดและทำให้ชีวิตเราง่ายขึ่้น  อย่าง Amazon Echo

https://www.youtube.com/watch?v=KkOCeAtKHIc

3. A YEAR OF VR | ปีที่ยิ่งใหญ่ของ VR

เทคโนโลยีได้ก้าวกระโดดจากจากเทคโนโลยีสุดล้ำแบบสวมใส่ได้ หรือ Wearables ในปี 2558  กำลังก้าวสู่โลกเสมือนจริง (Virtual Reality) ในปี 2559  โดย Virtual Reality กำลังก้าวเข้าสู่มือผู้บริโภคได้ง่ายขึ้นมาหลายแบรนด์เริ่มทำวางขายและในราคาไม่สูงมาก ผู้บริโภคสามารถซื้อกลับไปใช้ที่บ้านได้

VR จะเข้ามาเปลี่ยนมิติในการนำเสนอคอนเท้นท์ของแบรนด์  และทำให้ผู้บริโภคไม่ใช่แค่เป็นผู้ได้รับประสบการณ์เพียงอย่างเดียว  แต่ทำให้ผู้บริโภคกลายเป็นศูนย์กลางของประสบการณ์ที่แบรนด์ส่งมา  พวกเขาสามารถเป็นฮีโร่ในเรื่องนั้นๆได้  อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้กับแบรนด์ในการสร้าง Brand Content รูปแบบใหม่ๆเพื่อตอบสนองเทคโนโลยีแบบให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมแบบ 360 องศา เสมือนได้อยู่ในประสบการณ์นั้นๆจริง

VR ในตลาด Google cardboard, Oculus Rift, Samsung Gear VR, HTC Vive, Microsoft HoloLens  และ Sony PlayStation VR

 

4. ECOMMERCE ECOSYSTEM | ระบบนิเวศออนไลน์เพื่อการซื้อขายแบบครบวงจร

เมื่อ Mobile จะครองโลกดิจิตอล และทำให้ Desktop กำลังจะล้าสมัยลงไป ประกอบกับการที่ เวป โมบาย เสิร์ช และโซเชี่ยล เป็นระบบนิเวศออนไลน์ที่แยกออกจากกันไม่ได้ในแง่การซื้อขาย  ในขณะที่ Google กำลังออกแบบ Algorithm ที่ให้คะแนนเพิ่มสำหรับการออกแบบเพื่อใช้สำหรับมือถือโดยเฉพาะ Facebook เปิดตัว Search Engine และ Business on Messenger Pinterest ส่ง Cinematic Pins และ Snapchat เพิ่มรูปแบบ Discover ระบบนิเวศก้าวผ่านการซื้อผ่านโซเชียลไปยังการซื้อผ่านเสิร์ช

และการเสิร์ซของผู้บริโภคจะไม่ได้อยู่แต่เพียงใน Google แต่จะไปอยู่ทุก Social หรือ Platform  เช่น Facebook , Pinterest  ดังนั้นเป็นจุดสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการทำ SEO ในมุมมองใหม่ๆ ซึ่งจะกลายเป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อน E-commerce แบบครบวงจร

ตัวอย่างเช่น ECOSYSTEM ของ Line ที่เริ่มต้นจากเป็น Instant Messaging และเพิ่มบริการต่างๆเข้ามามากมายและชำระเงินได้ภายใน E-COSYSTEM เดียว เช่น เรียกแท๊กซี่  ช๊อปปิ้ง  เป็นต้น

Line taxi japan

5. ฺBe-Yourself-Vertising  | ความเป็นตัวตนที่แท้จริง

ความไม่สมบูรณ์แบบเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์อย่างหนึ่ง แบรนด์และสื่อจึงออกมามีบทบาทช่วยทำให้เกิดความเท่าเทียมในแง่ความเป็นมนุษย์บนโลก  และเป็นกระบอกเสียงสำหรับกลุ่มที่ต้องการความเท่าเทียมเช่น ผู้หญิง  เด็ก  เพศที่สาม ให้พวกเขาหลุดออกจากอคติเหล่านั้นมาได้  ถือเป็นโอกาสของแบรนด์ที่จะอยู่เคียงข้างกับผู้บริโภคที่กำลังมองหาความเท่าเทียมในโลกสมัยใหม่

ตัวอย่างเช่น  Barbie แบรนด์ตุ๊กตาสุดอมตะของเด็กผู้หญิง ต้องการเป็นอีกหนึ่งเสียงที่บอกว่าเด็กผู้หญิงก็สามารถเป็นอะไรได้ทั้งนั้น

หรือแคมเปญ GirsCan ของเครื่องสำอางค์ Cover Girl

https://www.youtube.com/watch?v=KmmGClZb8Mg

6. HUMANKIND | ความเห็นอกเห็นใจกับเพื่อนมนุษยชาติ

ในยุคสมัยที่ชีวิตคนเมืองมีแต่ความเครียดและความปั่นป่วนทางสังคมและการเมือง ผลักดันให้คนกลับมาเห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ และความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมโลก เพื่อให้สังคมน่าอยู่ยิ่งขึ้นและชีวิตตนเองก้าวต่อไปได้ จิตสำนึกที่ดีงามในการช่วยเหลือกันและกันเป็นนัยยะที่ดีที่จะเกิดมากขึ้นในปี 2559 โดยมีเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างชัดเจน

ตัวอย่าง  Literine White  เมื่อคุณยิ้มเครื่องจะสั่นให้ผู้พิการทางสายตารับรู้ว่าคุณกำลังยิ้ม

https://www.youtube.com/watch?v=9L8P3XZ9mIo

บทสรุปสำหรับปี 2559

“หลายปีที่ผ่านมา Integration เป็นสิ่งที่นักการตลาดต่างมองหา ในปี 2559 นี้เองที่เราจะได้เห็นความเป็น Integration ที่ชัดเจน ด้วยเพราะวัฒนธรรมดิจิทัลที่ผสานออนไลน์และออฟไลน์อย่างไร้รอยต่อ  และในโลกจริงปี 2559 นี้ การสร้าง ‘Ecosystem of Experiences’ ภายใต้เรื่องราวที่ของแบรนด์อย่างมีมุมมอง ประกอบกับการนำเสนอที่เต็มไปด้วยจินตนาการสร้างสรรค์ในจุดประสบการณ์ที่ผู้บริโภคอยู่ หรือ การนำผู้บริโภคเข้าไปอยู่ในประสบการณ์มากกว่าสัมผัสประสบการณ์ (ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางจริงๆ) ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวเชื่อม  จะเป็นจุดเปลี่ยนในด้านการสื่อสารสำหรับปีนี้”  วฤตดา กล่าวทิ้งท้าย


แชร์ :

You may also like