HomeCreativityเจาะเบื้องหลัง “Joy Will Take You Further” แคมเปญใหญ่ที่สุดของ Johnnie Walker

เจาะเบื้องหลัง “Joy Will Take You Further” แคมเปญใหญ่ที่สุดของ Johnnie Walker

แชร์ :

Johnnie Walker joy take further3

รักในสิ่งที่ทำ (Love what you do)” กับ “ทำในสิ่งที่รัก (Do what you love)” 2 ประโยคที่เล่นกับคำคล้ายคลึงกัน แต่ความหมายแตกต่างโดยสิ้นเชิง เพราะการได้ทำในสิ่งที่รักจะช่วยผลักดันให้การทำงานมีประสิทธิภาพไม่ใช่แค่แรงกาย หรือพลังสมอง แต่ Passion ที่ถูกอัดเข้าไปจะช่วยเสริมให้การทำงานนั้นออกมาอย่างทรงประสิทธิผล และมีความสุข อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจของ Deloitte Shift Index เมื่อปี 2010  พบว่า คนทำงาน 80% เกลียดงานที่ตัวเองทำอยู่ Johnnie Walker ดึงเอาอินไซต์เหล่านี้มาสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนลุกขึ้นเดินไปข้างหน้าบนเส้นทางที่ตัวเองรัก กับแคมเปญ Joy Will Take You Further ก้าวด้วยใจ ไปได้ไกลกว่า

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

โดยแคมเปญระดับโลกชิ้นนี้ถูกเผยแพร่ไปยัง 50 ประเทศ เพียงแค่ 10 วันแรกที่นำเสนอไอเดียออกสู่สายตาผู้บริโภคก็เข้าถึงผู้คนได้มากถึง 270 ล้านคน โดยอาศัยเซเลบบริตี้ ชื่อดัง 6 คน ให้มาเป็นบุคคลต้นแบบ

Guy Escolme, global brand director ของ  Johnnie Walker กล่าวถึงแคมเปญนี้ว่า “สิ่งที่เกิดจากความสุข การมองโลกในด้านบวก และความสนุกสนาน จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ผู้ชนก้าวไปสู่กระบวนการที่จะนำพาความสำเร็จในการใช้ชีวิต”

Johnnie Walker joy take further

Johnnie Walker joy take further2

ด้วยแนวคิดนี้เป็นที่มาของบุคคลที่ Johnnie Walkerได้เลือกนำเอาเรื่องราวและแรงบันดาลใจของพวกเขามาเผยแพร่ต่อมาธารณชน ดังนี้

1. Jude Law นักแสดงที่หลายคนเคยประทับใจกับการแสดงของเขามาแล้ว ในบทบาทของ Dickie Greenleaf ในภาพยนตร์สุดคลาสสิค The Talented Mr. Ripley ที่ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ เขาเปิดเผยถึงความรักต่ออาชีพนักแสดงเอาไว้ว่า “โชคดีที่งานของผมตรงกับสิ่งที่ ผมรัก ผมมักจะรู้สึกว่าโชคดีมากที่ผมได้ข้องเกี่ยวอยู่กับกับสิ่งที่จะเติมเต็มผมด้วยความสุขและ ให้มุมมองเชิงบวกกับผม ค้นหาความสุขในทุกวันที่ออกไปทํางาน ให้ความสุขเป็นส่วนหนึ่งของ คุณ แล้วคุณจะแข็งแกร่งกว่าเก่า พร้อมเดินไปในทางที่ดีกว่าที่เคย”

2.Jenson Button นักแข่งรถฟอร์มูลาร์ 1 จากทีม McLaren ผู้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแข่งที่อายุน้อยที่สุดที่ลงแข่ง F1 ในวัยเพียง 20 ปี วันนี้เขายังต้องไขว้คว้าหาความสำเร็จต่อไป ท่ามกลางความท้าทายที่ถาโถมเข้ามาทุกๆ เสี้ยววินาที แต่เขาก็มีความสุขจากการค้นพบและได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก “สําหรับผม จุดที่มีความสุขที่สุดของผม คือเมื่อผมรู้ว่าผมได้อยู่บนจุดสูงสุดจากสิ่งที่ผมได้รับมา ตลอดระยะเวลาที่ผมเป็นนักแข่งฟอร์มูล่าวัน ผมต้องมีความสุขในการทํางานก่อน ผมถึงจะพบ กับความสําเร็จ” Jenson กล่าว

JW_jensonQT

3. OK Go วงร็อคสุดแนว ที่เวลาดูมิวสิควิดีโอของพวกเขาทีไร ต้องร้องเฮ้ย…เจ๋ง พิสูจน์มาแล้วด้วยจำนวนวิวของเพลง Here It Goes Again ซึ่งมีผู้ชมกว่า 50 ล้านวิว นับว่าเยอะมากในเวลานั้น พร้อมกับผลงานที่ตามมาอีกเรื่อยๆ ดูแล้วไม่รู้เบื่อ Damian Kulash นักร้องนำของวง ได้กล่าวถึงความหมายของความสุขเอาไว้ว่า “ตลอดเส้นทางอาชีพ ของโอเค โก เราถูกขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งความสุข มันเป็นเหมือนเครื่องยนต์กลไกที่อยู่เบื้องหลัง ในทุกสิ่งที่เราทํา เป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์ เกินจะคาดเดาได้ ความสุขคงเป็นเหมือนกับช่วงเวลาที่ เราได้เชื่อมต่อกับคนอื่นๆขณะที่เรากําลังรู้สึกถึงความมหัศจรรย์นี้ นั่นแหละคือสิ่งที่เราตามหามาตลอด”

4. Eva Hakansson การเกิดในครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่ และพี่ชาย 2 คน ล้วนแล้วแต่ทำงานด้านวิศวกรรมเครื่องยนต์ ทำให้ DNA ของความเร็วและวิศวกรรมฝั่งอยู่ในตัวหญิงสาวผู้นี้ จนผลักดันให้ตอนนี้เธอเป็นว่าที่ด็อกเตอร์ในสาขาวิศวกรรมเครื่องยนต์ จากUniversity of Denver รวมทั้งผลงานอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเธอได้ร่วมกับคุณพ่อ สร้างนวัตกรรมรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เธอเรียกว่า ElectroCat มีส่วนช่วยในเรื่องความสะดวกสบายของมนุษย์ผสานกับแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยส่วนตัวเธอคือเจ้าของสถิติ นักบิดหญิงคนแรกที่ซิ่งมอเตอร์ไซค์ไปด้วยความเร็วสูงถึง 400 กิโลเมตร/ชม. เบื้องหลังแนวคิดการทำงานที่ผลักดันให้เธอก้าวไปได้ไกลกว่าคนอื่นก็คือ “ความผิดพลาดหมายถึงคุณทำอะไรบางอย่างที่คนอื่นไม่เคยพยายามมาก่อน และคุณก็จะได้เรียนรู้จากมัน เส้นทางสู่ความสำเร็จไม่เคยเรียบง่ายเป็นเส้นตรง คุณต้องเรียนรู้ว่าไม่มีถ้วยรางวัลใดที่ได้มาโดยปราศจากความเสี่ยง”

5. Emil Areng คลื่นลูกใหม่แถวหน้าแห่งวงการอาหารแถบ สแกนดิเนเวีย แชมป์บาร์เทนเดอร์ชาวสวีเดนผู้มีไอเดียสุดล้ำในการผสมเครื่องดื่มด้วยของ ป่าที่หาได้จากท้องถิ่น อย่างเปลือกต้นเบิร์ช ตะไคร่น้ำไลเคน หรือแม้แต่ก้อนน้ำแข็งเล็กๆ จากห้วยที่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว จนได้รับการยกย่องว่าเป็น”นักเล่นแร่แปรธาตุ” Emil เล่าถึงความสุขในฐานะผู้ปลุกเร้ารสชาติเอาไว้ว่า “การได้เห็นผู้คนได้ลิ้มลองรสชาติที่เรียกความทรงจำดีๆ ของพวกเขา กลับมาได้ หรือการได้เห็นความสุขของผู้คนที่ได้ค้นพบรสชาติใหม่ๆ ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในประสบการณ์การดื่ม มันทำให้ผมมีความสุขและช่วยให้ผมก้าวต่อไปข้างหน้า”

6. Hass& Hahn หรือชื่อจริง Jeroen Koolhaas และ Dre Urhahn จิตรกรคู่ดูโอชาวดัตช์ (เนเธอร์แลนด์) ที่ประสบความสําเร็จอย่างสูง ในฐานะจิตรกรผู้เปลี่ยน ชุมชนด้วยงานศิลปะโดยแปลงโฉมตึกรามบ้านช่องในชุมชนแออัดให้กลายเป็นผลงานศิลปะจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ที่สวยงาม Passion ของทั้งคู่ไม่ใช่แค่เพื่อประโยชน์กับตัวเองเท่านั้นแต่ยังสร้างมรดกทางศิลปะให้กับท้องถิ่นหลายแห่ง และเขาทั้งสองคนไม่ใช่ทำงานมาเพียงแห่งเดียว ตลอดระยะเกือบ 10 ปี Hass& Hahn แต่งเติมสีสันให้กับสถานที่ต่างๆ อย่างไม่ย่อท้อ “เราคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่วิเศษมากเมื่อนั่งลงแล้วมองย้อนกลับไปยังผลงานของตัวเองในแต่ละวัน แล้วพบว่าเราได้ทำให้ช่วงเวลาดีๆ เกิดขึ้น” นี่คือความสุขศิลปินคู่นี้

Execution ของแคมเปญนี้ออกมาในรูปแบบมิวสิควิดีโอความยาว 90 วินาที เล่าเรื่องการทำงานของเซเลบบริตี้ที่เลือกมา ว่าพวกเขาสนุกสนานและมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองทำอย่างไร หลังจากนั้นก็มีภาพยนตร์โฆษณาขนาดสั้น 20 วินาที นำเสนอเรื่องราวของบุคคลต้นแบบ แต่ละคนโดยเฉพาะ และมีเว็บไซต์ https://www.johnniewalker.com/en/joy-will-take-you-further เพื่อติดตามอ่านเรื่องราวของบุคคลต้นแบบฉบับเต็ม

‘Joy Will Take You Further’

https://www.youtube.com/watch?v=ZenmiV-AiU4

 Jude Law

https://www.youtube.com/watch?v=kzME9i03PpI

 Jenson Button

https://www.youtube.com/watch?v=Z08wVlSFgng

ในระยะหลังเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พยายามสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต โดยแต่ละแบรนด์ก็มีแนวทางที่แตกต่างกันออกไป ตามคาแร็กเตอร์ Johnnie Walker หนึ่งผู้นำตลาดวิสกี้เลือกที่จะนำเสนอบุคลิกของผู้นำและตัวจริงของแต่ละสาขาอาชีพ ผ่านบุคคลระดับหัวกะทิ สะท้อนความประสบความสำเร็จที่ผ่านการพิสูจน์และยอมรับจากสังคมอย่างไร้ข้อกังหา ในประเทศไทยแคมเปญนี้มี พาที สารสิน ซีอีโอหัวใจศิลปินแห่งสายการบินนกแอร์ มาโชว์ Passion เรื่องดนตรีพร้อมๆ กับก้าวเดินบนรันเวย์ด้วยความมุ่งมั่น

แคมเปญนี้เป็นแคมเปญใหญ่ที่สุดเท่าที่แบรนด์ในกลุ่ม Johnnie Walker เคยทำมา และเป็นความท้าทายครั้งใหญ่หลังจากเปลี่ยน Advertising Agency จากเดิมที่ร่วมงานกับ BBH มายาวนานกว่า 15 ปี แต่นี่คือผลงานของ Anomaly ที่ต้องแบกเอาความยิ่งใหญ่และประวัติศาสตร์ของแบรนด์เอาไว้ แล้วยกระดับความหมายของคำว่า Keep Walking ให้เข้าถึง สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน ดังที่ทำได้ดีมาตลอด

Haas & Hahn

https://www.youtube.com/watch?v=c5i31by_oQQ

Eva Håkansson

https://www.youtube.com/watch?v=m-ZVq-z59wc


แชร์ :

You may also like