สาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (MTL) แถลงผลประกอบการปี 2558 รับเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ 37,938 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 8% จากปี 2557 โดยเป็นเบี้ยปีแรก 26,247 ล้านบาท เติบโต 18% และเบี้ยประกันรับปีต่อไป 49,942 ล้านบาท เติบโตขึ้น 25% ส่งผลให้ปีที่ผ่านมาบริษัทมีเบี้ยรับรวม 87,880 ล้านบาท เติบโตขึ้น 17% สำหรับช่องทางการขาย กลุ่มแบงก์แอสชัวรันซ์เติบโตมากที่สุด 29% ตัวแทน/โบรกเกอร์เติบโต 25% direct marketing เติบโต 23% และตัวแทนจำหน่าย 14%
จากปี 2558 เบี้ยประกันรวมในตลาดเติบโต 6.4% ขณะที่เมืองไทยประกันชีวิตทำผลงานได้ดีโตมากกว่าตลาดอยู่ที่ 17% ทั้งนี้ด้วยกลยุทธ์ “ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง”(Customer Centric) ยังคงเป็นหัวใจของการดำเนินธุรกิจเพื่อความมั่นคงและยั่งยืนที่เมืองไทยประกันชีวิตยึดถือ ทั้งในมิติการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเป็นสำคัญ เครือข่ายช่องทางขายที่ครอบคลุม เข้าถึง และเป็นมืออาชีพเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้เอาประกัน ช่องทางบริการที่หลากหลายสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า ตลอดจนกิจกรรมแห่งความสุขและรอยยิ้มผ่าน “เมืองไทย Smile Club” ที่สร้างสรรค์กิจกรรมและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ลูกค้าชื่นชอบ
นอกจากนี้ยังได้ “ดิจิตอล” เข้ามาช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ทั้งการนำระบบดิจิตอลเข้ามาช่วยในทุกขั้นตอนของธุรกิจ เว็บไซต์ โซเซี่ยลมีเดีย และ แอพพลิเคชั่น เป็นต้น และล่าสุดจัดตั้ง Innovation Center ติดตามและศึกษาแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค และ เทรนด์ Financial Technology เพื่อให้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ตามที่ได้ประกาศไว้ว่าเป็น “ดิจิตอล อินชัวเรอร์”
ณาตยา สุขุม รองกรรมการผู้จัดการ อธิบายเสริม BrandBuffet.in.th ประเด็นดิจิตอล ว่า ” 2 ปีที่ผานมา อยากให้ทุก stakeholder รู้จักเราในด้านผู้นำดิจิตอล เช่น สำหรับพนักงานเราก็มีอินทราเน็ตที่ใช้ในการอัพเดทข้อมูล ตัวแทนขายก็มี E-Application , Financial Needs Analysis ระบบคำนวณวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เพื่อให้นำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ตรงความต้องการลูกค้าจริงๆ รวมไปถึง Smart Proposal ที่ทำใบเสนอราคาให้ลูกค้าได้ทันที”
“ดิจิตอลมีความสำคัญ เนื่องจาก Consumer Journey เปลี่ยนไป จากเดิมทีเห็นทีวีแล้วโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ หรือตัวแทน แต่ปัจุบันใช้โมบายเสิร์ซทันที ดูข้อมูลโปรดักซ์ ดูคอมเม้นต์ในกระทู้ และดูความน่าเชื่อถือ และหาข้อมูลเปรียบเทียบกับรายอื่นๆ ซึ่งทางเมืองไทยฯ ก็ได้เตรียมดิจิตอลทุกช่องทางทุกรูปแบบทั้ง เว็บไซต์ social media โดยทำภายใต้ Content Strategy ทำให้ลูกค้าสนใจและอยากติดตามเรา ทำให้ช่องทาง social media เรามีผู้ติดตามมากที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ รวมไปถึงการทำ SEO SEM ต่างๆ”
สำหรับเป้าหมายปี 2559 ตั้งเป้าหมายเบี้ยรับรวมกว่า 1 แสนล้านบาท จากการประเมินโอกาสทางธุรกิจที่ยังเติบโตได้อีกไกล ทั้งการตอบโจทย์ คุ้มครองชีวิต ออมเงินระยะยาว และ การบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพ อุบัติเหตุ โรคร้ายแรง เป็นต้น ผ่านกลยุทธ์การตลาดยึดลูกค้าเป็นสำคัญ ที่จะมี Innovative Product ออกมาในตลาด เช่น ประกันโรคเบาหวานและโรคแทรกซ้อน
และสำหรับการเข้าสู่ “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” (ASEAN Economic Community – AEC) ในฐานะหนึ่งในผู้นำของธุรกิจประกันชีวิตของประเทศไทยยังคงให้ความสำคัญต่อการขยายศักยภาพทางธุรกิจออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับเป็น “บริษัทประกันชีวิตระดับภูมิภาค” หรือ Regional Life Insurance Company ซึ่งล่าสุดเมืองไทยประกันชีวิตได้ร่วมจัดตั้ง Suvannaphum Life Assurance PLC เพื่อดำเนินธุรกิจประกันชีวิตในประเทศกัมพูชา ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) เพื่อร่วมจัดตั้งบริษัทประกันชีวิตร่วมทุนในประเทศเวียดนาม ภายใต้ชื่อ MB Ageas Life นอกจากนี้ ในปี 2557 บริษัทฯ ยังได้จัดตั้งสำนักงานผู้แทน (Representative Office) เพื่อให้ความรู้ด้านการประกันชีวิตในประเทศเมียนมาร์
ทีมผู้บริหารเมืองไทยประกันชีวิต
FYI :
ปัจจัยการเลือกซื้อประกัน 1. แบรนด์ ชื่อเสียง ความมั่นคง 2. ความหลากหลายของประกัน 3. Loyalty Program
เบี้ยประกันชีวิตรวมสิ้นเดือนพฤศจิกายน ปี 58 จาก สมาคมประกันชีวิตไทย