อากาศร้อนเริ่มระอุมากขึ้นทุกที และนี่เองที่ทำให้สินค้าต่างๆ ที่เปิดตัวหรือทำโปรโมชั่นในในช่วงหน้าร้อน “สวนน้ำ” เป็นอีกธุรกิจ ที่ร้อนนี้น่าจับตามองอย่างยิ่ง
ถ้าหากว่าย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน สวนน้ำ สวนสนุกไซส์ใหญ่ มีอยู่ในประเทศไทยมีอยู่ไม่กี่แห่ง แต่ในช่วง 2-3 ปี หลัง “สวนน้ำ” กลายเป็นแม่เหล็กทางการท่องเที่ยวที่แหล่งท่องเที่ยวเด่นๆ ในประเทศไทยนับตั้งแต่ เชียงใหม่ ไปจนถึงจังหวัดที่ติดกับทะเลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหัวหิน, พัทยา, ภูเก็ต หรือแม้แต่ภาคกลาง จังหวัดนครปฐม ก็มีสวนน้ำเช่นกัน และล่าสุดภาคอีสาน สวนน้ำก็กลายเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตและแข่งขันกันอย่างดุเดือด และ Scenical Worldเขาใหญ่ ก็เป็นสวนน้ำล่าสุดที่เปิดตัว โดยมีจุดมุ่งหมายเป็น Destination ใหม่ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเขาใหญ่ในช่วงหน้าร้อนมากขึ้น
“เขาใหญ่” Destination นี้ มีมากกว่าหน้าหนาว
เฐาศิริษ ศิวาคม กรรมการผู้จัดการ ซีนิคอล กรุ๊ป ซึ่งเดิมเขาทำธุรกิจโรงแรมโบทานิก้า และกรีนเนอรี่อยู่แล้ว ทำให้รู้สภาพการท่องเที่ยวของเขาใหญ่ดีว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ฮิตเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายก็มักจะเป็นครอบครัว หรือการท่องเที่ยวเชิงสัมนา ขณะที่พอถึงฤดูอื่นๆ ก็มียอดนักท่องเที่ยวลดลง นี่เองจึงเป็นโจทย์ที่เขาต้องสร้างไฮไลต์ให้ “เขาใหญ่”
และนั่นจึงเป็นที่มาของ Scenical World สวนน้ำแห่งใหม่ ท่ามกลางสภาพการแข่งขันที่ เฐาศิริษ เองยังพูดถึงว่า “สวนน้ำในประเทศไทยอีกหน่อยจะกลายเป็นสนามกอล์ฟ มีจำนวนเยอะขึ้น มีแทบทุกจังหวัด”
ดังนั้นจึงต้องจุดขายให้กับ Scenical World ซึ่งก็คือ “ความหลากหลาย” บนพื้นที่สวนน้ำ 20 ไร่ ถือได้ว่าเป็นแหล่งรวมความเยอะ ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพการรองรับผู้เล่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ขณะเดียวกันก็มีสวนสนุก ที่มีเครื่องเล่นเยอะที่สุด และมีเครื่องเล่นหลายอย่างที่เป็นไฮไลต์ เช่น สไลด์เดอร์ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย 180 เมตร รวมทั้งความแตกต่างที่เล่นกับทำเลเขาใหญ่ จึงเป็นสวนสนุกที่มีวิวต้นไม้ กับภูเขารองรับ
ผนวกกับการเดินทางที่อยู่กึ่งกลางไม่ไกลกรุงเทพและอีสานนัก เขาจึงตั้งเป้าหมายว่า หวังให้ที่นี่เป็นเป้าหมายแรกของการมาเที่ยวเขาใหญ่ ตามด้วยเป็นหนึ่งในใจคนอีสานในด้านการพักผ่อน ที่ไม่ต้องไปไกลถึงหัวหิน พัทยาก็สัมผัสบรรยากาศสวนน้ำได้ นอกจากนี้ยังดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มครอบครัว ชาวเอเชีย ปิดท้ายด้วยผู้ที่สนใจการแฮงค์เอาท์ช่วง Night Life ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เขาใหญ่ยังขาดอยู่ ที่สวนน้ำแห่งนี้ก็เตรียมไว้รองรับ ด้วยการดึงแบรนด์ร้านอาหารที่มีชื่อเสียง กับการแสดงโชว์ตอนกลางคืน รวมทั้งน้ำพุ กับอีเวนท์ที่สับเปลี่ยนมาเรื่อยๆ ด้วยสไตล์การตกแต่งพื้นที่ Mall ให้เป็นแบบซาคาเมนโต้ สวยงาม สามารถถ่ายรูปได้ และไม่มีใครทำมาก่อน ทั้งหมดนี้น่าจะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวที่จากเดิมมาเขาใหญ่ปีละ 2 ล้านคนให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น
ยิ่งแข่งขันสูง ยิ่งต้องเน้นรายละเอียด
“เพราะธุรกิจนี้มันมาถึงยุคที่ต้องบอกแล้วว่าเรามีคาแร็กเตอร์อย่างไร ไม่ใช่ตื่นเต้นแค่มีสวนน้ำ การทำให้คนมาเป็นเรื่องยาก แต่การทำให้มาซ้ำ เป็นเรื่องยากกว่า ดังนั้นจึงต้องใส่ใจเรื่อง Detail” เฐาศิริษกล่าว
เมื่อ BrandBuffet ได้สัมผัสก็พบว่าเป็นจริงตามนั้น เมื่อธุรกิจนี้ความปลอดภัยของผู้ใช้บริการมาเป็นอันดับหนึ่ง การเทรนพนักงานที่ทำหน้าที่การ์ดอยู่หน้างานจึงเป็นเรื่องสำคัญ ด้วยหลักสูตรที่จริงจัง กับทีมผู้บริหาร โดยเลือกคนที่มีประสบการณ์การทำงานโรงแรม กับสายวิศวกรรม เพื่อดูแลอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งคิดถึงเรื่องการประหยัดทรัพยากรน้ำ ซึ่งเป็นหัวใจของการทำธุรกิจ
“ทำธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ การต้อนรับลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ แต่ความปลอดภัยก็ทิ้งไม่ได้ ก็ต้องบอกให้พนักงานบาลานซ์ให้ดี ลูกค้าเขาไม่ได้มาเข้าค่ายทหาร”
เครื่องเล่นบางชนิดต้องเล่นร่วมกันหลายคนแต่ถ้าหากว่าลูกค้ามาคนเดียว หรือมาเป็นคู่แล้วเล่นไม่ได้ พนักงานต้องขึ้นไปนั่งเพื่อให้ครบคน กันไม่ให้ลูค้ารอคิวนาน ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีการจ้างงาน 300 คน ไม่นับวันหยุดยาวที่ต้งเสริมกำลังคนเป็นพิเศษ นอกจากนี้การก่อสร้างที่วางแผนเอาไว้แล้วว่าในช่วงเทศกาลที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก จะบริหารคิดอย่างไร หอเล่นสไลด์เดอร์จึงต้องแยกเป็นหลายๆ หอ เพื่อให้คิวหมุนเวียนได้เร็วสุด แม้ว่าจะต้องแลกกับการลงทุนที่สูงขึ้น ผนวกับเครื่องเล่นที่หลากหลายทั้ง Extreme รองรับกลุ่มวัยรุ่น กับเครื่องเล่นธรรมดาที่เด็กๆ และครอบครัวเล่นได้ ทำให้สวนน้ำและสวนสนุกของ Scenical World รองรับนักท่องเที่ยวได้ 4,000 คน: ช่วงเวลา เฉลี่ยสวนน้ำและสวนสนุกด้านละ 2,000 คน
ในช่วงแรกของการสร้างความรู้จักอาศัยโปรโมชั่นและการบอกต่อ แต่การปั้นแบรนด์ให้ยั่งยืนของ Scenical World อาศัยการสร้างสีสันอยู่สม่ำเสมอ เฐาศิริษ เปรียบเทียบว่าเครื่องเล่น คือ Hardware ที่นานๆ เปลี่ยนทีและลอกเลียนแบบได้ง่าย แต่การบริการและอีเวนท์แปลกๆ ใหม่ๆ คือ Software ที่เปลี่ยนได้เรื่อยๆ ตามกระแส และจะช่วยดึงให้คนที่เคยมาแล้วมาซ้ำ เพราะนอกจากจะได้ลูกค้าสวนสนุกโดยตรงแล้ว ยังจะส่งผลกับธุรกิจทางอ้อมซึ่งอยู่ในเครือเดียวกัน ทั้งในเรื่องของการออกโปรโมชั่นที่พัก+ สวนน้ำคู่กัน รวมทั้งดึงให้ Room Rate / Room Occupancy ดีขึ้น ปิดท้ายคือการสร้างความแปลกใหม่ให้ “เขาใหญ่” มีแรงดึงดูดมากกว่าแค่มาสัมผัสอากาศหนาว