โรบินสัน เผยผลประกอบการปี 2558 โดดเด่น มียอดขาย รวมจำนวน 25,185 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5% ขณะที่กำไรสุทธิจำนวน 2,03.ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.7% จากปีก่อน เป็นผลมากจากการขยายสาขาใหม่ กิจกรรมส่งเสริมการขาย ภายใต้สถานการณ์ที่ ท้าทายหลายประการ
โรบินสัน เติบโตต่อเนื่อง ด้วยการเน้นประสบการณ์ช้อปของลูกค้า และสร้างความประทับใจในทุก ๆ สัมผัสที่มีต่อแบรนด์ ด้วยแนวคิด Playing in to Trends ,Making Retail More Than Just Shopping
โฟกัสสินค้าที่สามารถเป็นที่ 1 ในใจลูกค้าในพื้นที่นั้น ๆ และกลุ่มสินค้าที่เข้ากับกระแสนิยม (No.1 Dominant Categories / Playing into Trends)
ปัจจุบันไลฟ์สไตล์ในการช้อปปิ้งของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อรับมือความต้องการของลูกค้า และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ๆ ในปีนี้ โรบินสัน ได้ Re Zoning ขยับขยายพื้นที่ขาย เพิ่มสินค้าและการบริการที่ลูกค้ามีความต้องการให้กว้างขึ้น ด้วยการมิกซ์แอนด์แมตช์จัดสรรแบรนด์ใหม่ ๆ โดยโชว์ตาม trend หรือกระแสความนิยม ในตัวสินค้าประเภทนั้นๆ จากที่เคยเป็นการจัดวางสินค้าตามประเภทและตามแบรนด์ ให้กลายเป็นการนำเสนอด้วยการผสมผสานหลายกลุ่มสินค้าตามเรื่องราวและความสนใจของผู้บริโภค
ต้องการเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าในแต่ละทำเลที่ตั้ง (สาขา) นั้นๆ โดยกลุ่มสินค้าที่บริษัทฯ มุ่งเน้นเพื่อสร้างการเติบโตเป็นอันดับ 1 ได้แก่ กลุ่มสินค้า ด้านสุขภาพและความงาม กระเป๋าเดินทาง ยีนส์ ชุดชั้นใน สินค้าเด็ก และ ของตกแต่งบ้าน สินค้า รวมถึงสินค้าราคาเดียว (60 บาท) ได้แก่ Just Buy ก็เป็นส่วนที่สร้างยอดขายเป็นอย่างมาก
โรบินสัน ยังเน้นความเป็นแฟชั่น “Athleisure” ตอบรับกระแสแฟชั่นเทรนด์สไตล์สปอร์ต ที่ไม่จำเป็นต้องใส่เฉพาะตอนออกกำลังกาย แต่นำมามิกซ์แอนด์แมตช์ใส่ในวันธรรมดาหรือใส่ไปเที่ยว ล่าสุด โรบินสัน ได้นำเข้า แบรนด์ (แอโรโพสทอล) เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเป็นครั้งแรก ด้วยจุดเด่นของแบรนด์ทั้งในแง่ดีไซน์ ที่ตรงกับ เทรนด์ของตลาดและคุณภาพ ในราคาที่คุ้มค่า โดยได้นำร่องเปิดสาขาแรกไปแล้วที่โรบินสัน สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ รังสิต ศรีราชา ชลบุรี พระราม 9 โดยตั้งเป้า 5 ปี ขยายครอบคลุมทั่วประเทศ
การปรับปรุงสาขาเดิม และ การลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคต (2559–2563)
เดินหน้ารีโนเวท รีเฟรชภาพลักษณ์ใหม่ 20 สาขาหลัก ภายใน 3 ปี เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับสิ่งใหม่ ๆ เทรนด์ใหม่ โดยในปีนี้ทำการปรับโฉม 4 สาขา ได้แก่ โรบินสัน พระราม 9 เชียงใหม่ ราชบุรี และ จันทบุรี ด้วยงบลงทุน 25-150 ล้านบาทต่อสาขา
สำหรับการขยายสาขา ในปี 2559 บริษัทฯ ยังคงเล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของหลายจังหวัด ซึ่งเป็นการกระจายการลงทุน และกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น โดยในปีนี้ได้เตรียมงบลงทุนรวม 1,600 ล้านบาท
เริ่มด้วย “ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน นครศรีธรรมราช” อวดโฉมในเดือน กรกฎาคม ด้วยมูลค่าโครงการ 550 ล้านบาท อยู่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า และนับเป็น สาขาที่ 2 ในจังหวัด นครศรีธรรมราช โดยโรบินสันสาขาเดิม ได้แก่ โรบินสัน โอเชี่ยน นครศรีธรรมราช โดย จังหวัดนครศรีธรรมราช มีประชากรสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ ด้วยศักยภาพการเป็นศูนย์กลางการขนส่ง ของภาคใต้รับสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย และ สาขาที่ 2 ขยายสู่ภาคกลางตอนบนของประเทศไทย เปิดในเดือน ธ.ค. กับ “โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลพบุรี” ซึ่งจะเป็นโมเดล รูปแบบใหม่ มาในคอนเซ็ปต์ EAT –SHOP-PLAY สถานที่ที่จะสร้างความสุขด้วยการพบปะ สังสรรค์ กับเพื่อนฝูงและครอบครัวครบจบในที่เดียว ด้วยมูลค่าโครงการ 1.1 พันล้านบาท
เมื่อถึงปี 2563 โรบินสัน มีสาขารวมประมาณ 56 แห่งทั่วประเทศ ขณะที่ภายในสิ้นปีนี้จะมีสาขารวม 44 สาขา
รวมทั้งการขยายสาขาของกลุ่มสินค้าอินเตอร์แบรนด์ ที่โรบินสันนำเข้า 6 แบรนด์ โดยเปิดในรูปแบบ Shop-in Shop และ Stand Alone กว่า 50 สาขา ทำให้มีสาขาอินเตอร์แบรนด์ร่วม 100 สาขา ในปีนี้
การเป็นมากกว่า “ห้างสรรพสินค้า” (To Make Retail More Than Just Shopping)
คือการนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่ธรรมดา ที่ผู้คนสามารถที่จะได้รับ แรงบันดาลใจ รู้สึกตื่นเต้นและสนุกสนานเพลิดเพลินไปพร้อมๆ กับการช้อปปิ้งด้วยดีไซน์ และการบริการ ที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ ของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ได้แก่
– ไลฟ์สไตล์ฟิตเนส ในห้างสรรพสินค้า กับ FITBOX Fitness เพื่อให้คนรักสุขภาพได้เพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตแบบแอ็คทีฟ อาทิ Yoga, Boxing , Spa , Training Program
– Service Zone จุดบริการใหม่ๆ เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า ได้แก่ บริการเจาะหู ด้วยอุปกรณ์ทันสมัยและถูกสุขอนามัย ,จุดบริการเครื่องดื่ม มุมกาแฟ จาก True Coffee , บริการ Nail bar ทำเล็บสำหรับคุณผู้หญิง, บริการวัดสายตาโดยผู้เชียวชาญ จากแบรนด์แว่นตาชั้นนำ, โซนพักผ่อน Free Wifi และจุดชาร์ท อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มการบริการในสาขาเดิมที่มีการปรับปรุงไปแล้ว 20 สาขา และมีบริการเหล่านี้ ครบครันในปี 2560 ปัจจุบันได้เริ่มนำร่องไปแล้ว ที่ โรบินสัน รังสิต, แฟชั่นส์ไอส์แลนด์, ศรีราชา
การเติบโตของยอดขายด้วยกิจกรรมการตลาดเชิงรุก
– แผนการตลาด ในปี 2559 นี้ โรบินสันทุ่มงบการตลาดกว่า 400 ล้านบาท ด้วย แคมเปญใหญ่กว่า 16 แคมเปญ และแคมเปญอื่น ๆ อีกกว่า 100 แคมเปญ โดยเน้นความเป็นเอกลักษณ์ แตกต่าง และสร้างสรรค์ ใส่ไปในทุกแคมเปญและให้ลูกค้านึกถึงเมื่อมาช้อปที่โรบินสัน อาทิ Robinson Payday, Robinson Wednesdays X 2
– พร้อมทำการ Re-Branding (รีแบรนด์ดิ้ง) ปรับภาพลักษณ์ในรูปแบบใหม่ ให้โรบินสัน เป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่รู้ใจลูกค้า การต่อยอดคาแรกเตอร์ ของ Line Sticker “นกโรบินส์” ในแอพพลิเคชันไลน์ของโรบินสัน สะท้อนแนวคิดของแบรนด์ในการเป็นแบรนด์ที่สนุกสนาน เข้าถึงได้ง่าย จับต้องได้ โดย “นกโรบินส์” จะเข้าไปปรากฏอยู่ในชุดยูนิฟอร์ใหม่ของพนักงานห้าง , ถุงช้อปปิ้งใบใหม่โรบินสัน เป็นต้น และในช่วงเดือนเมษายน โรบินสันจะทำการเปิดตัว สติกเกอร์ LINE คอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด สามารถดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์ได้ ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. – 19 พ.ค. 59
– ในส่วนการทำ Event Activity จะเน้นคุณภาพ สร้างสีสันให้กับ Robinson Lifestyle Center เพื่อที่จะดึงดูดให้ผู้บริโภคมาใช้บริการอย่างสม่ำเสมอ และให้เป็นศูนย์กลางกิจกรรมของภูมิภาค แหล่งพักผ่อนสังสรรค์ของคนในพื้นที่อีกด้วย
– กลยุทธ์ CSR (Corporate Social Rsonability) จะถูกนำเข้ามผนวก ในกิจกรรมการตลาด ให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมแนวคิดต่อยอดสร้างแรงบันดาลใจ ในการร่วมทำสิ่งดีๆ เพื่อขยายผลไปในวงกว้าง ภายใต้โครงการ “โรบินสัน ทำดี” อาทิ การนำสินค้าเก่าแลกสินค้าใหม่ เพื่อนำไปบริจาค, การปลูกป่าอย่างต่อเนื่อง, การส่งเสริมกิจกรรมของสตรีในด้านต่างๆ การสนับสนุนการศึกษาของเยาวชน เป็นต้น
สร้างประสิทธิภาพในการลงทุน นำนวัตกรรม และรังสรรค์ความแปลกใหม่มาพัฒนาสาขา
โรบินสัน ตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อม และการประหยัดพลังงาน(Energy saving)
ล่าสุด ด้วยการติดตั้งเแผงโซลาร์เซลล์ ที่ “โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลพบุรี” ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนธันวาคม โดยคาดว่าจะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคถึง 10% ลดต้นทุนได้กว่า 6 ล้านบาทต่อปี (ด้วยจำนวนการใช้งานที่คงเดิม)
การทำ Centralized Cashier อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าด้วยศูนย์บริการ One Stop Service ที่รวมรวมบริการที่หลากหลาย ไว้ในจุดเดียว ตอบรับไลฟ์สไตล์ ชีวิตที่เร่งรีบ และต้องการความสะดวกสูงสุด
พัฒนาช่องทางการขาย ผ่านหลากหลายช่องทาง (Omni Chanel) มาใช้ในธุรกิจค้าปลีก
– พัฒนาช่องทางการขายบน Robinson Online Shopping ผ่าน www.robinson.co.th อีกช่องทางหนึ่งในการให้ลูกค้า เข้าถึงสินค้า ของโรบินสันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยการบริการจัดส่งรวดเร็วทันใจ ฟรี !!! ทั่วประเทศ ไม่ว่า จะอยู่พิกัดไหน ก็ช้อปได้แบบไม่เสียเวลา
– สร้างประสบการณ์จับจ่ายด้วย ‘Click and Collect’ โรบินสันเข้าใจในเทรนด์การจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าในยุคดิจิตอล ช้อปปิ้งผ่านบริการ Click & Collect ด้วยการสั่งซื้อสินค้า ณ จุด Kiosks ผ่านระบบออนไลน์ และสามารถมารับสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสันในสาขาที่ลูกค้าสะดวก ได้ทุกเมื่อ
การพัฒนาพนักงานให้มีประสิทธิภาพ รองรับกับโครงสร้างของบริษัทในอนาคต
บุคลากร นับเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่สุดที่ช่วยให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง โรบินสันจึงมุ่งเน้นการพัฒนาและการเสริมสร้างศักยภาพของพนักงาน รวมถึงการทำงานร่วมกันให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานในแผนกต่างๆ เพื่อการทำงานที่เป็นหนึ่งเดียวกัน และประสิทธิภาพของทุกขั้นตอนการทำงาน “การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้เป็นปรากฏการณ์และก้าวที่สำคัญของบริษัทฯ สู่เป้าหมาย ที่ใหญ่ขึ้น และด้วยประสบการณ์อันยาวนานของผู้บริหารของบริษัทฯที่มีประสิทธิภาพในธุรกิจห้างสรรพสินค้า เราเชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะพัฒนาและมีส่วนแบ่งการตลาดอย่างมีผลกำไร และมุ่งหวังในการสร้างความสำเร็จในทางธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม ซึ่งรวมอยู่ในส่วนกระบวนการทำงานของบริษัทฯ และเราจะยึดมั่นว่า ลูกค้า พนักงาน และคู่ค้า ของเราจะเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจ และการเปลี่ยนแปลงของเราในช่วงปี 2559 – 2562 นี้” คุณอลัน กล่าวทิ้งท้าย