เราเคยได้ยินจากข่าวต่างประเทศเรื่องการเปิดใช้ 5G กันมาสักพัก ในตอนนั้นก็ได้แต่ร้องอู้หู…เพราะประเทศไทยเพิ่งใช้บริการ 4G กันไปได้ไม่นาน แต่ความจริงแล้วนั่นเป็นเพียงการใช้ software ทดลองแบบ Beta เท่านั้น แต่ในวันนี้ คนไทยทั้งต้องร้องโอโห้…กับความสุดยอดของ AIS เมื่อโอเปอเรเตอร์เบอร์หนึ่งของประเทศไทย ประกาศความร่วมมือกับ Huawei เปิดตัวให้บริการ 4.5Gเชิงพาณิชย์ อย่างเป็นทางการถือเป็นครั้งแรกของโลก!
ในมุมของผู้บริโภคการประกาศให้บริการเครือข่าย 4.5 G เชิงพาณิชย์ อย่างเป็นทางการของเอไอเอสจะเริ่มต้นให้บริการทันที เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองที่นิยมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยเน้นที่ย่าน CBD ในกรุงเทพฯ อันประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สยาม, สีลม ก่อนในลำดับแรก และก็จะกระจายไปหัวเมืองใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ โคราช โดยลูกค้าไม่ต้องทำการสมัครเพิ่มเติมหรือตั้งค่าใดๆ เพิ่มเติม รวมทั้งไม่มีการคิดค่าบริการเพิ่มจากแพ็กเกจที่ใช้งานในปัจจุบัน
ภายในงานแถลงข่าวตั้งใจจัดขึ้นที่สยามเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นที่ๆ ผู้ใช้บริการหนาแน่น โดยทดลองต่อความเร็วผ่านการเชื่อมต่อสัญญา 1800 MHz เพียงคลื่นความถี่เดียวก็ได้ความเร็วที่ 553 Mbps หลังจากสงกรานต์เป็นต้นไปจะใช้คลื่นความถี่เต็มพิกัดที่เอไอเอสมี ทั้งคลื่นแบบสัมปทานและคลื่นสาธารณะ ซึ่งเผยว่าจะทำความเร็วได้ถึง 1 Gbps ถือว่าเร็วที่สุดในตลาด อย่างไรก็ตาม ดีไวซ์ที่จะรองรับความเร็วขนาดนี้ได้ต้องมี Chipset Snapdragon 820 ขึ้นไป ซึ่งในตลาดมีเพียง LG G5, Sony Xperia Z5 Ultra กับแบรนด์อื่นๆ ซึ่งรวมแล้วปลายในปีนี้น่าจะมีราว 10 รุ่นระดับเรือธง แต่แนวโน้มของโลกซึ่งผู้บริโภคใช้งานดาต้าอย่างหนัก เอไอเอสในฐานะผู้นำตลาดจึงต้องเตรียมเครือข่ายไว้รองรับ
โดยความร่วมมือกับ “หัวเว่ย” นี้ มาพร้อมกับความสัมพันธ์ Strategic Partner ที่มีศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือJoint Innovation Center หรือ JIC ร่วมกันมาตั้งแต่ 2 ปีก่อน และนี่คือความสำเร็จที่ออกมาเปิดเผยเป็นครั้งแรก หลังจากที่เอไอเอสมีความสัมพันธ์กับหัวเว่ยมาอย่างยาวนาน
การที่เอไอเอสมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาเครือข่ายเป็นอย่างยิ่งก็เป็นผลมาจาก AIS Vision ที่ประกาศตั้งแต่เดือน มกราคม 2016 ว่า นับจากนี้ เอไอเอส จะเป็นเลิศ 4 ด้าน ประกอบด้วย
1. Best Network
2. Best Application
3. Best Service
4. Best People
ซึ่งการก้าวเข้าสู่ยุค 4.5G นี่ก็เป็นพัฒนาการด้านเครือข่ายที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น ด้วยจุดเด่นด้านInnovative Technologyที่แตกต่างและเหนือชั้นกว่าบนเอไอเอส 4.5 G ประกอบด้วย MIMO 4×4, Carrier Aggregation บนคลื่น 1800 MHz และ 2100 MHz รวมถึง เทคโนโลยี LTE-U/LAA (ย่อมาจากLTE-Unlicensed/ License Assisted Access) ซึ่งเป็นการรวมช่องสัญญาณบนคลื่นที่มีอยู่ เข้ากับคลื่นความถี่สาธารณะ ที่ไม่ต้องขอใบอนุญาต ส่งผลให้เอไอเอส 4.5G สามารถรับส่งข้อมูลได้ปริมาณมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าจำนวนคลื่น ไม่จำเป็นต้องมีมากถึงจะทำความเร็วได้สูงสุดเสมอไป
ในแง่ของภาพลักษณ์ นี่คือการตอกย้ำจุดยืนของเอไอเอสที่สะท้อนทัศนคติว่าเอไอเอสไม่เคยหยุดพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคในทุกยุคสมัย รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถ และความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี สอดคล้องกับการลงทุนด้านเครือข่ายที่เอไอเอสได้ติดตั้งเครือข่าย AIS 4G ADVANCED เสร็จสิ้นครอบคลุม 77 จังหวัดในประเทศไทย มีทั้งหมด 15,000 Sites เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 2 เดือน
สำหรับภาพรวมของประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ การศึกษาและสาธารณสุข การมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะช่วยให้เกิดการพัฒนาทางการค้า การศึกษาทางไกล หาความรู้ ไปจนถึงการพัฒนาคุณภาพทางการแพทย์ได้อีกมาก ถ้าหากว่าผู้บริโภคนำไปใช้งานได้ถูกวิธี