สยามดิสคัฟเวอรี่ (Siam Discovery) หลังจากถูกปิดปรับปรุงยาวนานกว่า 18 เดือน ครั้งนี้กลับมาในโฉมใหม่และคอนเซ้ปต์ใหม่ คือ The Biggest Arena of Lifestyle Experiments หรือ สนามประลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์ ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าทีบริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดห้างฯแถลงและพาเยี่ยมชมความน่าสนใจของ สยามดิสคัฟเวอรี่ โฉมใหม่
1.สยามดิสคัฟเวอรี่ (Siam Discovery) ศูนย์การค้าในเครือของบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดให้บริการตั้งแตปี 2540 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Lifestyle Shopping Mall มีทั้งหมด 8 ชั้น พื้นที่ประมาณ 40,000 ตารางเมตร ครั้งนี้เป็นการปรับโฉมใหม่หมด เป็น Siam Discovery – The Exploratorium ภายใต้คอนเซปต์ The Biggest Arena of Lifestyle Experiments หรือ สนามประลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์ ที่ให้ลูกค้าเข้ามาเล่น เข้ามาค้นหาอะไรใหม่ และ ร่วมตื่นเต้นไปพร้อมกัน นับเป็นกลยุทธ์การทำการตลาดในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
2. งบการรีโนเวทครั้งใหญ่นี้ มูลค่าสูงถึง 4,000 ล้านบาท โดยใช้เวลาทั้งหมด 18 เดือน บวกกับงบประมาณสำหรับงานเปิดตัวอีก 300 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำแะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการค้าปลีกครั้งสำคัญของประเทศไทย จากเดิมมีเพียงไม่กี่ร้อยแบรนด์ แต่ปรับโฉมและคอนเซ็ปต์ใหม่ ทำให้มีแบรนด์ในศูนย์กว่า 5,000 แบรนด์ทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์นอกที่ผลัดเปลี่ยนสม่ำเสมอ
3. Siam Discovery – The Exploratorium มีทั้งหมด 8 ชั้น (8 ห้องทดลอง) ฉีกรูปแบบการทำศูนย์การค้าเดิมๆ โดยแต่ละชั้นมีชื่อเรียกแตกต่างกันตามสินค้า บริการ และบุคลิก แบ่งแต่ละชั้นตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ซึ่งกลยุทธ์ Personalised ควบคู่กับการสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภค ได้แก่ ชั้น G – Her Lab: แฟชั่นล้ำเทรนด์และบริการสุดพิเศษสำหรับสุภาพสตรี , ชั้น M – His Lab: ตอบโจทย์ทุกความต้องการของสุภาพบุรุษ, ชั้น 1 – Street Lab: สินค้าแนวสตรีทแฟชั่นที่คัดสรรมาอย่างดี , ชั้น 2 – Digital Lab: สินค้าที่เข้าถึงใจคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอล, ชั้น 3 – Creative Lab: มอบแรงบันดาลใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์, ชั้น 4 – Play Lab: มิติใหม่ของความสนุกสนานและสังคมของคนที่มีไลฟ์สไตล์แบบเดียวกันมาแลกเปลี่ยนและแชร์ประสบการณ์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน , ชั้น 5 – 6 มีไฮไลท์สำคัญ คือ Virgin Active ฟิตเนสคลับระดับโลก
4. ไฮไลท์แต่ละชั้นจะมีพื้นที่ที่เรียกว่า Discovery Lab โดยถูกสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับนำเสนอและจำหน่ายสินค้าและบริการภายใต้ธีมและมี Storytelling สินค้าหรือบริการ ณ พืนที่นี้จะถูกเปลี่ยนไปเรื่อย เพื่อสร้างความน่าตื่นเต้นและความน่าสนใจ เช่น Skin Lab ชั้น M พื้นที่ทดลองเครื่องสำอางค์และเครื่องประทินผิวสำหรับผู้ชาย ที่ไม่ต้องการเดินไปยังโซนเครื่องสำอางค์ พร้อมกับมีร้านบาร์เบอร์ Barber Ford สำหรับตัดผมผู้ชาย เพื่อรอเพื่อนหรือแฟนสาว , My Social Discovery ห้องนิทรรศการส่วนตัวที่ดึงข้อมูลจาก Instagram มาโชว์ในรูปแบบ Interactive , Run for Another Life ร่วมสร้างพื้นที่ออกซิเจนให้กับโลก หากวิ่งครบ 500 เมตร Siam Discovery จะบริจาคเงินให้กับสวนลุมพินีเพื่อสนับสนุนการปลูกต้นไม้เพิ่ม , A Million Montage of You โฟโต้โมเสก ที่ประกอบภาพจากการถ่าย Selfie แล้วฉายบนจอแอลอีดีขนาดยักษ์ เป็นต้น
5. การออกแบบศูนย์การค้า ถูกตกแต่งให้คล้ายกับอาคารแห่งศิลปะ (Art building) ที่ผสมผสานงานออกแบบจากศิลปินฝีมือระดับโลกมากมาย อยู่ในทุกมุมของ Siam Discovery ได้รับเกียรติจาก เนนโดะ (นายโอกิ ซาโตะ) ดีไซน์เนอร์ชั้นนำของโลกและ 1 ใน 100 ชาวญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับนับถือมากที่สุดจาก Newsweek มารับหน้าที่ปรึกษางานออกแบบอาคารและงานออกแบบตกตแต่งภายใน
แบรนด์ไฮไลท์ครั้งแรก
-ISSEY MIYAKE คอนเซ้ปต์ World of Issey Miyake สโตร์ที่รวมทั้ง 7 แบรนด์ของ ISSEY ไว้ในที่เดียว ใหญ่ที่สุดรองจากประเทศญี่ปุ่น
-Co-working space ที่จับมือกับ HUBBA ชื่อ Discovery HUBBA พื้นที่ในการแลกเปลี่ยนไอเดียและความฝันของการทำธุรกิจ หรือ Start Up
-ครั้งแรกของโลก Billboard Cafe โดยนิตยสาร Billboard นำเสนอประสบการณ์เพลงรูปแบบใหม่ ที่ไม่เหมือนที่ไหนมาก่อน
-แห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Nike Concept Store สินค้าครบทุกไลน์ และ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
-Starbucks สาขาที่มาในคอนเซปต์รักษ์โลก นำกากกาแฟมีรีไซเคิลเป็นเฟอร์นิเจอร์ภายในร้าน
และแบรนด์อื่นๆอีกมากมายพร้อมกับกิจกรรมที่จะสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคได้ตื่นเต้นเมื่อก้าวไปเข้าไปสู่ Siam Discovery โฉมใหม่นี้