กว่า 20 ปี ในวงการอาหาร วันนี้ถึงเวลาที่ Hot Pot เริ่มต้นส่งต่อการบริหารงานไปสู่ทายาทรุ่น 2 คุณแพร-อัณทิกา ฤกษ์วิบูลย์ศรี โดยเข้ามาดูแลเรื่องการตลาดและการสื่อสารในตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ และนี่คือแนวคิดการทำงานของเธอ พร้อมกับความท้าทาย และก้าวต่อไปของ Hot Pot
อินกับแบรนด์ แต่พร้อมจะปรับตัว
เพราะว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียวที่เติบโตมากับคุณพ่อ จึงเห็นการทำงานมาโดยตลอด เมื่อมีเวลาว่างหลังจากเรียนก็มักติดสอยห้อยตามคุณพ่อเข้าบริษัทหรือตรวจเยี่ยมตามสาขาต่างๆ จึงเห็นการทำงานทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำ ยันปลายน้ำ เช่น การคัดเลือกสินค้า ตรวจสอบคุณภาพ การผลิต การปรุงอาหาร ก่อสร้างร้านค้า การตลาด การพัฒนาบุคลากร ไปจนถึง การบริหารจัดการร้าน ซึ่งนำสินค้า บริการมาถึงผู้บริโภค เมื่อเรียนจบมา จึงนำเอาความรู้ ความเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดแตกต่างไปมาพัฒนาแบรนด์ Hot Pot โดยไม่ทิ้งรากฐานที่ดีอยู่แล้วของเดิม
สิ่งที่เธอนำเข้ามาคือ ความเป็น Dynamic ที่ทำให้องค์กรตอบสนองความต้องการของลูกค้าและยุคสมัย ด้วยความเชื่อว่าการสร้างจุดแตกต่าง และประสบการณ์ใหม่ๆ จะช่วยสร้างความรักและผูกพันที่ลูกค้ารู้สึกกับแบรนด์มากขึ้น ดังนั้นสิ่งที่นำเสนอออกมาจึงเป็นรูปแบบของกิจกรรมการตลาด ที่เน้นความสนุกสนานไม่ใช่การทำเพียงโปรโมชั่นผิวเผินเท่านั้น โดยมีคอนเซ็ปท์ “จัดเต็มทุกมื้อด้วยใจ” เป็นแนวคิดชูโรง
“จัดเต็มทุกมื้อด้วยใจ” คอนเซ็ปท์นี้ต้องเด่นทั้งปริมาณและคุณภาพ
แนวคิดนี้มาจากการรีเสิร์ชแล้วพบว่า คำว่า “บุฟเฟต์” ที่บ่งบอกถึงความหลากหลาย แต่ขณะเดียวกันเรื่องของคุณภาพที่ทีมงานตั้งใจนำเสนอนำไม่ออกมาเด่นชัดนัก คอนเซ็ปท์ดังกล่าวจึงหยิบยกขึ้นมาเพื่อทำให้ ความหลากหลายของสินค้าถูกนำเสนอไปกับคุณภาพ พ่วงไป Emotional Approach อาหารบุฟเฟต์นานาชาติ ที่ถูกจัดเสิร์ฟภายในร้าน ใส่ความตั้งใจของพนักงานทุกคน รสชาติอาหารถูกปาก ที่ให้เลือกมากมาย และบริการภายในร้านก็ดีเยี่ยมไม่แพ้กัน ด้วยทีมพนักงานที่เรียกว่า Customer Relations เพื่อช่วยให้อาหารทุกๆ มื้อ มีความสุข สนุกสนานมากขึ้น
เมื่อความสุขเพิ่มเข้ามาแล้ว โอกาสของการรับประทานก็เพิ่มเติมขึ้นมาด้วย จากการที่เป็นร้านอาหารบุฟเฟต์ที่ลูกค้ามักคิดว่าต้องกินแบบจริงจัง หิวโซ ก็เปลี่ยนเป็นช่วงเวลาที่คนใกล้ชิดมีช่วงเวลาดีๆ พร้อมกันในร้าน Hot Pot ได้สร้างบรรยากาศการพูดคุยการสังสรรค์แลกเปลี่ยนโมเมนต์กับเพื่อนฝูง ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน คณะต่าง ๆ ที่ได้มามีโอกาสดี ๆ ร่วมกันที่ร้านไม่ว่าจะกลุ่มเล็กหรือกลุ่มใหญ่ก็มา Party ร่วมกันได้
Content Marketing หัวใจสำคัญของดิจิตอล
และเพื่อทำให้ Key Message กับภาพลักษณ์ของแบรนด์ในเรื่องที่อยากจะเปลี่ยนแปลง ได้รับการนำเสนอไปสู่ผู้บริโภค จึงมีการใช้ Digital Marketing มาเป็นสื่อกลางมากขึ้น อาศัยกระแสที่ได้รับความนิยมในช่วงเวลานั้นๆ เช่น กระแสลูกเทพ หรือ #เสียงสูง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น Realtime Marketing ซึ่งอาศัยความรวดเร็วของการสร้างสรรค์คอนเทนท์ ให้พอเหมาะ พอเจาะ สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งในเรื่องนี้ Pegasus เอเยนซี่ที่ดูแลการตลาดออนไลน์ให้กับ Hot Pot เล่าให้ฟังถึงเบื้องหลังว่า “การทำคอนเทนต์ Realtime Marketing หากช้าก็หมายถึงแพ้ทันที เราคิดไว ทำไว ก็ยังไม่พอ ทางลูกค้าก็ต้องตัดสินใจไวด้วย ว่าจะเล่นหรือไม่เล่น การเล่นกับกระแสมีความเสี่ยงสูงเสมอ เราจึงต้องเลือกว่าอะไรเล่นได้ อะไรไม่ควรเล่น และหากนำมาเล่น เราจะเล่นได้แค่ไหน ในโซเชียลมีเดีย ทุกๆ คอนเทนต์ ย่อมมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ลูกค้าบางคนอาจจะซีเรียสเวลาเห็นคนมาคอมเมนต์ในทางลบ แต่โชคดีที่ผู้บริหารของ ฮอท พอท เข้าใจในจุดนี้ เราจึงสามารถใส่ไอเดียได้อย่างเต็มที่ ทำให้เพจของ ฮอท พอท เป็นเพจที่มีความสนุก น่าสนใจ น่าติดตาม และพาให้แบรนด์กลับไปอยู่ในใจผู้บริโภคได้สำเร็จ”
มั่นใจ “ระบบ” ต่อไปนี้ Hot Pot สาขาไหนก็คุณภาพเดียวกัน
นอกเหนือจากเรื่องการเปลี่ยนแปลงแล้ว ทายาทรุ่น 2 ยังมองไปที่การขยายผ่านการปั้นโมเดลธุรกิจใหม่ เมื่อมั่นใจในเรื่องของ “ระบบ” จึงเป็นที่มาของการขายธุรกิจในรูปแบบของแฟรนไชส์ เปิดโอกาสให้ัผู้ที่มีความสนใจในการลงทุนเปิดร้านอาหารภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ ของ Hot Pot ไม่ว่าจะเป็น Hot Pot, Daidomon และ Signature ซึ่งมีจุดขายที่ดีมีความแข็งแรงและพร้อมสร้างโอกาสทางการเงินให้กับผู้ที่สนใจลงทุน มาพร้อมกับการสนับสนุนการดำเนินการอย่างเป็นระบบและความชำนาญในการบริหารจัดการ โดยเปิดรับที่จะพูดคุยกับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เร็วๆ นี้ก็จะมีแบรนด์ไทยไปเปิดที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของแบรนด์ไทย ที่บุกไปยังต่างประเทศได้
นับว่าเป็นอีกหนึ่งทายาทธุรกิจที่มีแนวคิดใหม่ๆ สืบสานตำนานของรุ่นพ่อให้ขยาย เด่นชัดกว่าที่เคย โดยดึงเอาเครื่องมือและวิธีการสื่อสารใหม่ๆ มาใช้เป็นประโยชน์